
กองบัญชาการตำรวจนครบาล สรุปเหตุการณ์ชุมนุม 20 มีนาคม จับกุมผู้กระทำผิดได้ทั้งสิ้น จำนวน 20 ราย เป็นผู้ใหญ่ 16 ราย เยาวชน 4 ราย
วันที่ 21 มีนาคม 2564 กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) สรุปเหตุการณ์ชุมนุมเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา ว่าสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ทั้งสิ้น จำนวน 20 ราย เป็นผู้ใหญ่ 16 ราย และเยาวชน 4 ราย นำตัวส่ง ตชด.ภ.1 จำนวน 19 ราย และส่ง รพ.ตร. จำนวน 1 ราย ตามรายงานของมติชน
สำหรับรายชื่อผู้ต้องหา มีดังนี้ บริเวณรอบสนามหลวง จำนวน 7 ราย
1.นายอุทัย
2.นายวัชระคุณ
3.นายบุญล้อม
4.นายเกียรติ
5.นางเกษศิรินทร์
โดยกล่าวหาว่า
1. ร่วมกันฝ่าฝืน ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และคำสั่งประกาศที่เกี่ยวข้อง
2. ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ พ.ศ.2558 มาตรา 34(6) และมาตรา 51
3. ร่วมกันมั่วสุมสมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215
4. เจ้าพนักงานสั่งให้ผู้มั่วสุมเพื่อกระทำความผิดตามมาตรา 215 ให้เลิกแล้วไม่เลิก ผิดตามมาตรา 216
5. ร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
6. ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยมีหรือใช้อาวุธโดยร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ตามมาตรา 138 วรรคสอง ประกอบมาตรา 140 วรรคแรก
เหตุเกิดที่บริเวณ รอบสนามหลวง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 20
มีนาคม 2564 ระหว่างเวลา 19.30 – 20.00 น.
กรณีวางเพลิงเผาทรัพย์ บริเวณถนนราชดำเนินใน ปากทางเข้าซอยราชินี แขวงพระบรมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
6.ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี 7.ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี จับกุมได้ที่ ถนนพระราม 6 แยกศรีอยุธยา เขตพญาไท แขวงทุ่งพญาไท จังหวัดกรุงเทพมหานคร
โดยกล่าวหาว่า 1. หมิ่นประมาทดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทหรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
2. ร่วมกันฝ่าฝืน ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และคำสั่งประกาศที่เกี่ยวข้อง
3. ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ พ.ศ.2558 มาตรา 34(6) และมาตรา 51
4. มั่วสุมสมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215
5. เจ้าพนักงานสั่งให้ผู้มั่วสุมเพื่อกระทำความผิดตามมาตรา 215 ให้เลิกแล้วไม่เลิก ผิดตามมาตรา 216
บริเวณแยกสะพานวันชาติ จำนวน 8 ราย
1.นาย สมบัติ
2.นาย ปกรณ์
3.นาย จิตรกร
4.นาย สิทธิพร
5.นาย หัสชัย
6.นาย สายัญ
7.นาย อนุตตร
8.นาย ภูมิพัฏฒน์
โดยกล่าวหาว่า 1. ร่วมกันฝ่าฝืน ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และคำสั่งประกาศที่เกี่ยวข้อง
2. ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ พ.ศ.2558 มาตรา 34(6) และมาตรา 51
3. ร่วมกันมั่วสุมสมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215
4. เจ้าพนักงานสั่งให้ผู้มั่วสุมเพื่อกระทำความผิดตามมาตรา 215 ให้เลิกแล้วไม่เลิก ผิดตามมาตรา 216
5. ร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานซี่งกระทำการตามหน้าที่ จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
6. ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยมีหรือใช้อาวุธโดยร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ตามมาตรา 138 วรรคสอง ประกอบมาตรา 140 วรรคแรก
เหตุเกิดที่ บริเวณสะพานวันชาติ ถนนประชาธิปไตย แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2564 เวลา 00.30 น.
และบริเวณแยกคอกวัว จำนวน 5 ราย
1.นายวิน
2.นายถนอม
3.นายธีระพงษ์
4.นายศรีรัตน์
5.นายธนพัฒน์
โดยกล่าวหาว่า
1. ร่วมกันฝ่าฝืน ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และคำสั่งประกาศที่เกี่ยวข้อง
2. ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ พ.ศ.2558 มาตรา 34(6) และมาตรา 51
3. ร่วมกันมั่วสุมสมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 215
4. เจ้าพนักงานสั่งให้ผู้มั่วสุมเพื่อกระทำความผิดตามมาตรา 215 ให้เลิกแล้วไม่เลิก ผิดตามมาตรา 216
5. ร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานซี่งกระทำการตามหน้าที่ จนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
6. ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยมีหรือใช้อาวุธโดยร่วมกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ตามมาตรา 138 วรรคสอง ประกอบมาตรา 140 วรรคแรก