“เจ๊หน่อย” ประกาศ ไทยสร้างไทย เดินหน้าสร้างประเทศไทย ภารกิจการเมืองครั้งสุดท้าย นำประเทศปลดปล่อยประชาชนจากการถูกกดทับทั้งปวง และความตกต่ำ
วันที่ 4 กรกฎาคม 2564 ที่พรรคไทยสร้างไทย (ชั่วคราว) ซอยลาดปลาเค้า 60 จัดประชุมผู้บริหารพรรค ตัวแทนสาขา ตัวแทนสมาชิกประจำเขตและสมาชิกพรรคทั่วประเทศกว่า 300 เขตผ่านระบบ zoom ภายใต้ชื่องาน “ไทยสร้างไทย เดินหน้าสร้างประเทศไทย”
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- ราคาทองวันนี้ (29 มี.ค. 67) พุ่งกระฉูด 600 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 39,050 บาท
- เลิกอุ้มดีเซล 30 บาท จ่อขยับเพดานราคา 2 บาท มีผล 1 เมษายน 2567
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วย แกนนำสำคัญ เช่น นายโภคิณ พลกุล นายพงศกร อรรณนพพร นายวัฒนา เมืองสุข นายต่อพงศ์ ไชยสาส์น น.ต.ศิธา ทิวารี ร่วมงาน
ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ปีนี้ตนทำงานการเมืองมาครบ 29 ปี โดยตลอดระยะเวลาการทำงานไม่เคยคิดว่าประเทศเดินมาถึงจุดตกต่ำและวิกฤตที่สุด ประชาชนทุกข์ยาก จากการทำงานที่ไร้ประสิทธิภาพของเผด็จการอำนาจนิยม จนทำให้วิกฤตโควิด วิกฤตเศรษฐกิจหนักหนาสาหัสขึ้นทุกวัน ประชาชนอดยาก ธุรกิจต้องปิดตัว คนตกงานมากขึ้นทุกวัน ประชาชนอ่อนล้า อ่อนแรง เกินกว่าที่จะเดินต่อไปได้แล้ว
เราเดินมาถึงจุดที่หมอต้องเลือกว่าจะรักษาหรือชี้ให้ใครอยู่หรือไป เพราะ ICU ไม่พอ ผู้ป่วยจำนวนมากต้องนอนรอเตียง จนตายคาบ้าน ข่าวสะเทือนใจแบบนี้มีให้เราเห็นทุกวัน วัคซีนที่ดีซึ่งช่วยป้องกันเชื้อสายพันธุ์ใหม่ที่กลายพันธุ์ รัฐบาลไม่ใส่ใจ ไม่ขวนขวายหามาให้ประชาชน แถมยังมีพฤติกรรมที่ไม่สนับสนุนและขัดขวางเอกชนในการนำวัคซีนคุณภาพดีเข้ามาประเทศด้วย
“เราและลูกหลานเรา จะอยู่ในประเทศที่ผู้บริหารที่มีหลักคิดแบบอำนาจนิยมเผด็จการ บริหารประเทศตามยถากรรม โดยไม่ใส่ใจประชาชน และทำงานอย่างไร้ประสิทธิภาพต่อไปได้อย่างไร ดิฉันได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องที่กำลังทุกข์ยากทุกวัน ภาพที่ดิฉันเห็นมันเลวร้ายกว่าที่คิด มีพี่น้องมาร้องไห้กับดิฉันทุกวัน หลายคนกังวลถึงชีวิตในวันพรุ่งนี้ว่าจะหารายได้จากไหนมาดูแลครอบครัว มองไปข้างหน้ามีแต่ความมืดมิด ไม่รู้ว่าชีวิตจะไปทางไหน บางคนถึงกับคิดสั้น หรือจบชีวิตลงเพราะไม่ได้รับการเหลียวแลจากรัฐ” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยภายใต้รัฐราชการอำนาจนิยมได้เดินมาถึงจุดที่อันตรายที่สุดสำหรับประชาชนไทย ทั้งการบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพ การสร้างความขัดแย้ง สภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ปัญหาโควิดที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ประชาชนท้อแท้ สิ้นหวัง คนรุ่นใหม่บางคนถึงกลับเอ่ยปากไม่อยากอยู่ประเทศนี้อีกต่อไป เนื่องจากคนรุ่นใหม่ห่วงใยอนาคตประเทศชาติ
ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงโดยการกำจัดแนวคิดแบบอำนาจนิยมและกลไกรัฐราชการที่นำมาซึ่งความเหลื่อมล้ำทุกมิติ การคอร์รัปชัน การคุกคามเสรีภาพของประชาชน การด้อยค่าประชาธิปไตย และการละเลยต่อหลักนิติธรรม หากปล่อยสถานการณ์อยู่เช่นนี้ ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น ฐานะการคลังของประเทศจะเข้าสู่ภาวะล้มละลาย เศรษฐกิจของประเทศจะล่มสลาย
ภารกิจครั้งสุดท้าย
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงภารกิจการเมืองครั้งสุดท้ายว่า “ชีวิตการเมืองของดิฉันเดินมาถึงปีที่ 29 ได้ผ่านและเห็นอะไรมามาก ไม่ได้มุ่งหวังเกียรติยศ ชื่อเสียง ตำแหน่ง หรืออำนาจใด ๆ อีกต่อไปแล้ว นอกจากความสุขและความอิ่มใจที่จะสร้างประเทศไทยที่ดีที่สุดเพื่อส่งมอบให้ลูกหลาน ดิฉันตั้งใจทำภารกิจครั้งสุดท้ายชีวิตการเมืองในการก่อตั้งพรรคไทยสร้างไทยเพื่อเป็นเครื่องมือนำประเทศออกจากความตกต่ำและความเลวร้ายที่กำลังเกิดขึ้น นำประเทศไทยสู่ความรุ่งเรือง และนำความผาสุขกลับสู่คนไทยอีกครั้ง”
ภารกิจสุดท้ายตั้งใจทำหน้าที่เป็นเสาเข็ม เพื่อตั้งพรรคให้เป็นสถาบันการเมืองของทุกคน เราจะเป็นผู้แสวงหาทางออกให้สังคม โดยใช้องค์ความรู้และปัญญา จึงขออาสาเป็นนั่งร้านเชิญชวนผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ เข้ามาร่วมกับพรรคไทยสร้างไทย มาสร้างประเทศร่วมกัน ขออาสาเป็นสะพานเพื่อเชื่อมคนทุกรุ่น ทั้งคนรุ่นใหญ่ที่มีประสบการณ์และคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ ความสามารถ เข้าใจการเปลี่ยนแปลงโลกยุคใหม่ มาร่วมกันสร้างประเทศที่ดีที่สุด อยากให้พรรคไทยสร้างไทยเป็นพรรคของคนตัวเล็กทุกคนในประเทศนี้ เพื่อจะได้มีสิทธิ มีโอกาส มีชีวิตที่ดี
ปลดปล่อยพลังประชาชน
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า พรรคไทยสร้างไทยจะเร่งปลดปล่อยประชาชนจากการถูกกดทับทั้งปวง จะสร้างพลังให้กับคนไทยทุกคน ดังนั้น ขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมพลิกมหาวิกฤตครั้งนี้ให้เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของประเทศ เราจะสร้างฐานรายได้ใหม่ให้คนไทยบนศักยภาพของประเทศในบริบทของโลกใหม่
เยาวชนไทยต้องได้เป็นพลเมืองของโลกเพื่อคว้าโอกาสโลกยุคใหม่ ให้มาเป็นอนาคตของตัวเอง และสร้างอนาคตประเทศ คนวัยทำงานต้องได้รับโอกาสบนศักยภาพสูงสุด ประเทศเราต้องเป็นศูนย์กลางผลิตอาหารปลอดภัยขายคนทั้งโลก เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว เป็นศูนย์บริการด้านสุขภาพ ศูนย์กลางการเดินทางและการขนส่ง
เป็นสถานที่ที่บริษัทและสตาร์ทอัพอยากเข้ามาตั้งบริษัท ขณะเดียวกันผู้สูงวัยต้องได้รับการดูแลด้วยกองทุนบำนาญประชาชน ผู้เกษียณจากการทำงานโดยไม่มีรายได้หรือสวัสดิการอื่นจะได้รับการดูแลเดือนละ 3,000 บาท และเมื่อประชาชนทุกวัยมีรายได้ ก็ควรต่อเติมด้วยการออมผ่านสลากการออมหรือหวยบำเหน็จ ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างที่เราตั้งใจสร้างโอกาสให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น
ประเทศเราไม่ได้สร้างจากคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นของทุกคน และจะต้องถูกสร้างโดยคนไทยทุกคน จากวิกฤตความขัดแย้งทางการเมืองที่พรรคที่มีอยู่ในปัจจุบันถูกมองว่าเป็นผู้สร้างปัญหาเอง เราต้องนำพาประเทศออกจากความเลวร้ายของรัฐราชการอำนาจนิยม
“ดังนั้น จึงต้องมีพรรคการเมืองที่เป็นทางออกของประเทศ ดิฉันและผู้ร่วมอุดมการณ์จึงก่อตั้งพรรคไทยสร้างไทย เพื่อหวังเป็นทางออกของประเทศ เป็นพรรคการเมืองของประชาชน ต้องการทุกคนมาร่วมสร้างประเทศด้วยกัน ในช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุด พวกเราต้องจับมือกันก้าวเดินต่อไป แม้อุปสรรคหรืออดีตที่เหนี่ยวรั้งก็ต้องเดินต่อไป เมื่อม่านหมอกแห่งความกลัวของเวลาที่มืดมนจางหายไป เมื่อนั้นแสงสว่างและอนาคตกำลังรอเราอยู่” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว