หมอเหรียญทอง จ่อถูกสอบจริยธรรม ปมไม่รับรักษาผู้ชุมนุมป่วยโควิด

สอบจริยธรรม หมอเหรียญทอง
ภาพจาก ข่าวสด

หมอเหรียญทอง งานเข้า หลังโพสต์ประกาศไม่รักษาม็อบไล่ประยุทธ์หากติดโควิด เตรียมถูกสำนักงานแพทยสภาสอบจริยธรรม ปมเลือกปฏิบัติ

วันที่ 21 กรกฎาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวานนี้ (20 ก.ค) ใจความว่า ผู้ป่วยโควิดที่ติดเชื้อจากการร่วมชุมนุมก่อความไม่สงบ เป็นกลุ่มที่ไม่อยู่ในลำดับความสำคัญที่โรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ เนื่องจากโรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ และเครือข่ายโรงพยาบาลสนามพลังแผ่นดิน มีจำนวนเตียงไม่เพียงพอต่อสถานการณ์โรคระบาดที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก

จ่อถูกสอบ

ต่อมา มติชน รายงานว่า นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ อาจารย์แพทย์ หน่วยวิชาระบบหัวใจและหลอดเลือด ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แชร์ข้อความดังกล่าวของหมอเหรียญทอง พร้อมแสดงความเห็นว่า

“ข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2549 ข้อ 7 ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมย่อมประกอบวิชาชีพด้วยเจตนาดี โดยไม่คํานึงถึงฐานะเชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา สังคม หรือลัทธิการเมือง ผมใคร่ขอทางแพทยสภา พิจารณาดำเนินการ สิ่งหนึ่งสิ่งใด เพื่อไม่ให้เป็นเหตุให้เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ ด้วยครับ”

นอกจากนี้ นพ.รังสฤษฎ์ ยังแสดงความคิดเห็นในโพสต์ดังกล่าวอีกว่า นักศึกษาแพทย์ที่รักทุกคน นี่คือตัวอย่างที่อาจารย์ขอให้เราทุกคนหลีกเลี่ยง อย่าปล่อยให้อคติมาทำให้ความเป็นหมอและความเป็นมนุษย์ในตัวเราลดลงนะครับ

“กรณีเป็นคำกล่าวในที่สาธารณะของแพทย์ผู้บริหาร รพ. ดังนั้น จึงเท่ากับเป็นการกำหนดนโยบายเลือกปฏิบัติของสถานพยาบาล หากแพทยสภาไม่ดำเนินการใด ๆ ผมเกรงว่าจะกลายเป็นบรรทัดฐานอ้างปฏิบัติของแพทย์อื่น ๆ รวมถึงนำความเสื่อมเสียถึงองค์กรเราด้วยครับ”

หลังจากนั้น พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในโพสต์ของ นพ.รังสฤษฎ์ ว่า “สำนักงานเลขาธิการแพทยสภารับเรื่องดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว และจะนำเรื่องเสนอแพทยสภาเพื่อพิจารณา ดำเนินการตามขั้นตอนข้อบังคับจริยธรรมต่อไป ขอบคุณ นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ ครับ”

ภาพจาก มติชน

สู้ตายถวายชีวิตเป็นราชพลี

ล่าสุด วันนี้ (21 ก.ค.) เวลาประมาณ 11.00 น.นพ.เหรียญทอง ได้ออกมาตอบถึงกระแสการสอบจริยธรรม เนื่องจากมีโอกาสถูกยึดใบประกอบวิชาชีพได้ โดย นพ.เหรียญทอง กล่าวว่า แม้ถูกยึดใบวิชาชีพไป แต่ไม่สามารถหยุดยั้งหรือเปลี่ยนแปลงคนอย่างตน ที่เป็นผู้นำประชาชนปกป้องสถาบันกษัตริย์ได้ ขอสู้ตายถวายชีวิต โดยข้อความทั้งหมดมี ดังนี้

มีคนเป็นห่วงผมว่าจะถูกแพทยสภาสอบสวนและยึดใบประกอบวิชาชีพของผม…ผมขอเรียนว่าไม่ต้องห่วงกันนะจ๊ะ ยึดใบประกอบวิชาชีพของผมไป ก็ไม่สามารถหยุดยั้งหรือเปลี่ยนแปลงคนอย่างผมได้หรอกครับ
ผมก็ยังคงเป็น ไอ้ตี๋หัวลำโพงในอดีต เป็นหัวโจกพลังแผ่นดินในปัจจุบัน เป็น’หมอเหรียญ’ เป็นพี่เหรียญ เป็นอาเฮียอาแปะเหรียญ เป็นจ่าเหรียญ เป็นรูดอล์ฟ เหรียญ เป็นไอ้เXี้ยเหรียญ เป็นทหารหมอเก่าและแก่ที่ไม่มีวันตายไปจากความจงรักภักดีต่อพระเจ้าแผ่นดินเหมือนเดิม

คนอย่างผมไม่ต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าให้ต้องมีตำแหน่ง อำนาจหน้าที่ใด ๆ ไม่ต้องสวมเครื่องแบบ แค่ขาสั้น รองเท้าแตะ มือเปล่า ๆ ผมก็ต่อสู้ได้แล้ว ไม่ต้องแสดงตน ไม่ต้องแสดงใบอนุญาต บัตรประจำตัวหรือสัญญลักษณ์ใด ๆ ผมก็ยังเป็น ‘เหรียญทอง แน่นหนา’ เหมือนเดิม

จิตวิญญาณ จิตสำนึกของผม ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ผมเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ไม่เชื่อต้องตรวจสอบประวัติตั้งแต่เป็นนักเรียนแพทย์ทหารดูก็ได้ว่า หัวหน้านักเรียน รุ่น 5 วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า มันเด็ดสะระตี่ขนาดไหน

ผมมีคุณลักษณะเด่นประการหนึ่ง คือ การเป็น’หัวโจก’ ผมกล้าพูดได้ว่าคนอย่างผมเป็นผู้นำประชาชนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ก็แล้วกัน แต่ผมจะออกมานำประชาชนในสถานการณ์ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ภาครัฐไม่สามารถควบคุมได้แล้ว และผมนี่แหละที่จะรบอย่างสุดชีวิตเพื่อพิทักษ์ราชัน ผมจะสู้ตายถวายชีวิตเป็นราชพลี มันจะขนาดไหนก็จินตนาการเอาเอง ที่แน่ ๆ แค่สู้ภัยโควิดมันเรื่องจิ๊บ ๆ สำหรับผมก็แล้วกัน

ดังนั้นไม่ต้องห่วงกันนะครับ ไม่ต้องสนใจว่าแพทยสภาจะสอบสวนเรื่องร้องเรียนไร้สาระ หรือแม้แต่จะยึดใบประกอบวิชาชีพของผมกันนะครับ แพทยสภาเป็นสภาวิชาชีพ ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่เป็น พิทักษ์ราชันก็คงจะไม่ได้ ดังนั้นไม่ต้องไปสนใจ ไม่ต้องไปกังวลกันนะจ๊ะ