เพื่อไทย “ทักษิณ” ประจันหน้า ก้าวไกล – ก้าวหน้า ขายฝันแก้จนชาวอีสาน

เพื่อไทย “ทักษิณ” ประจันหน้า ก้าวไกล – ก้าวหน้า ขายฝันแก้จนชาวอีสาน

พรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคที่ยึดครองที่นั่งในภาคอีสานมามากกว่า 2 ทศวรรษ มี “ทักษิณ ชินวัตร” หรือ โทนี่ วู้ดซัม เป็นแบ็กอัพทางความคิดสำคัญ ประจันหน้ากับ พรรคก้าวไกล – คณะก้าวหน้า ทีมการเมืองคู่ขนาน มี พิธา ลิ้มเจริญัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ลงปักหมุดพื้นที่อีสาน ประกาศตัวเป็น “คู่แข่ง” เพื่อไทยอย่างเป็นทางการ

ไม่รู้เป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ เมื่อ ทั้งพรรคเพื่อไทย – พรรคก้าวไกล จัดประชุมใหญ่พรรคที่ จ.ขอนแก่น เหมือนกัน เพียงแต่ พรรคก้าวไกล ชิงลงมือจัดประชุม พร้อมประกาศนโยบาย มัดใจชาวอีสานก่อนด้วยแคมเปญ “อีสาน 2 เท่า”

เป็นฝ่ายเพื่อไทย ต้อง “แก้เกม” เข็น “โทนี่ วู้ดซัม” ออกอากาศขายฝันให้ชาวอีสานระลอกใหม่ ผ่านคลับเฮ้าส์ ของกลุ่มแคร์ ในชื่อ CARE Talk ภาคพิเศษ “…ปั้นข้าวเหนียว เคี่ยวความคิด พรุ่งนี้เพื่อชีวิตคนอีสาน…” เมื่อค่ำวันที่ 22 ตุลาคม 2564

“ทักษิณ” ประกาศปลดล็อกสกิลชาวอีสาน ตอนหนึ่งว่า ศักยภาพคนอีสานว่า อย่าง ลิซ่า ลลิสา มโนบาล วง BLACKPINK จากบุรีรัมย์ มีโอกาส แม่ไปทำงานกับฝรั่ง ภาษาได้ตั้งแต่เด็กๆ เรียนภาษาเกาหลี จนตอนนี้เป็นดาราดังที่สุดในโลก ค่าตัวไม่ต้องพูดถึงนี่คือคนอีสาน

ทุนทรัพยากรมนุษย์คนอีสานมีเยอะ อีกหน่อยก็เดินแบบได้ร้องเพลงได้แสดงได้ วันนี้เด็กรุ่นใหม่บอกให้เรียนครู ตอนนี้เอกชนเจ๊งเป็นแถวก็ไม่มีงานทำ หรือถ้าเจอผู้ชายเป็นทหารไหม ทหารไม่ล้นประเทศเหรอ

ท่านนายกฯถามเป็นทหารรับราชการไหม ไม่คิดใครจะสร้างเศรษฐกิจเหรอ คนสร้างเศรษฐกิจอย่ามองว่าต้องทำงานที่ประเทศไทยเท่านั้น ต้องทำงานเป็นชาวนา คนใช้ ซักรีด มันไม่พอ ต้องคิดว่าศักยภาพทำอย่างอื่นได้ไหม

“นายกฯตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีอำนาจเยอะที่สุดทางตรงทางลับ ใช้เงินเยอะที่สุด เงินไม่มีก็กู้เอา กู้เอาจะต้องโปะก็เป็นลักษณะของการเสียดายที่ท่านมี”

“ถ้าท่านมานั่งวางยุทธศาสตร์แต่ละที่ มองภาพองค์รวมแล้วอย่ามองประเทศไทยเป็นประเทศไทย ต้องมองประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของโลก โลกทั้งโลกเป็นที่หากินของคนไทยจะคิดด้านเดียวไม่ได้ ต้องคิดสองด้านจะทำให้ประเทศเราเติบโตได้”

“ประเทศเรามีประชากรเยอะแต่ใช้ศักยภาพของประชากรต่ำ คนอีสานประชากรเยอะสุดต้องใช้ทรัพยากร ต้องให้อีสานเป็นโซนพิเศษ เพื่อให้คนอีสานหายจน เรื่องนี้ทำไม่ยาก ขอเวลาทำต่อเนื่อง ผมคิดว่าอยากจะแนะนำพรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตยน่าจะเอา”

“ทำยังไงไม่ให้คนมารวมที่กรุงเทพฯ ส่วนตัวเคยนั่งคิด พูดตลอดเศรษฐกิจทุนนิยม ไม่มีทุนไม่นิยม ทุนอยู่ที่ไหนงานอยู่ที่นั่น ระบบเหมือนกันทั่วโลกเป็นระบบที่ผิด เงินฝากของชาวบ้านมีบ้านละหมื่น-สองหมื่น เงินฝากไปรวมที่ธนาคาร ไปปล่อยกู้ไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจไม่ดี ปล่อยกู้ที่กรุงเทพฯ มีโรงงานขนาดใหญ่เต็มไปหมด ทำให้ต่างจังหวัดต้องทำงานกรุงเทพฯ”

“ทิ้งลูกให้ไว้ปู่ย่า ตายายเลี้ยง ถ้าป่วยอีกใครจะดูแล เพราะยังเด็กอยู่ ซึ่งบอกว่า เอาทุนกลับบ้านนอกดีกว่า เอากองทุนหมู่บ้านเป็นครั้งแรกให้คนกู้มาไปเร่งขยายโอทอป ขายของเล็กน้อย ทำให้เศรษฐกิจดี ทำให้คนงานกรุงเทพฯเริ่มกลับมา เมื่อมีทุนมีการจ้างงานเกิดขึ้นทำให้คนกลับมา คนงานยามพรรคไทยรักไทยยังกลับบ้านเพราะจะกลับมาทำโอทอป ดังนั้นต้องกระจายทุนออกต่างจังหวัด”

ก่อนพี่โทนี่ จะทิ้งหมัดเด็ดว่า…..“ถ้าได้กลับไปจะฟื้นคนอีสาน การกลับไปไม่นานเกินรอแน่นอน ถ้าหากมีความคิดของตนช่วยให้ผู้นำประเทศไปใช้จะเป็นประโยชน์ วันนี้เห็นความสำเร็จและล้มเหลวหลายประเทศ ตนเป็นห่วงประเทศไทย และเป็นห่วงคนไทย หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้นหลังการเลือกตั้งแล้ว”

28 ตุลาคมนี้ เพื่อไทย ประชุมใหญ่พรรคที่อีสาน พร้อมแคมเปญ “พรุ่งนี้เพื่อไทย : เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” ทวงคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จะมีหมัดเด็ดอะไรเกี่ยวกับภาคอีสาน เพื่อรักษาจำนวน ส.ส. 84 ที่นั่งไว้ในมือ

แต่คู่แข่งพรรคก้าวไกล แม้เป็น “พันธมิตร” ในฝ่ายค้าน แต่ไม่รอช้า รีบประกาศนโยบาย ปักธงส้มในภาคอีสาน

นโยบาย อีสาน 2 เท่า ถูกเข็นออกมาขายให้โหวตเตอร์รับไปพิจารณา

“พิธา” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในวันประชุมใหญ่พรรค 18 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า เมื่อพรรคก้าวไกลได้ลงพื้นที่ภาคอีสาน ตนเเละพรรคก้าวไกลต้องการร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพี่น้องประชาชนด้วย ได้เห็นช่วงที่พี่น้องประชาชนกำลังลำบาก

ตอนนี้ปุ๋ยแพงกว่าข้าว ล่าสุดที่ตนได้ยินมาคือ กิโลกรัมละ 4 บาทกว่าคือถูกกว่ามาม่าไปเเล้ว ราคามะม่วงที่ตกต่ำ เเละภาวะน้ำท่วมที่ซ้ำซากในหลายพื้นที่ในภาคอีสาน ซึ่งแม้ว่าน้ำท่วมจะหนักเเค่ไหน ไม่ว่าในปีที่เเล้ว หรือปี 2554 เเต่ในอีก 2 เดือนที่จะถึงนี้ยังคงจะเเล้งต่อไป น้ำท่วมซ้ำซาก น้ำเเล้งซ้ำซาก คือสิ่งที่อยู่กับชาวอีสานมานาน

“ผมอยากเห็นกับตา เพื่อนำไปปรับเป็นนโยบายของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า หากเราแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดิน เรื่องน้ำ เรื่องหนี้สินให้กับคนอีสานได้คิดว่าจะชนะใจคนอีสานได้”

ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล มือทำนโยบายพรรค ฉายภาพว่า “อีสาน” เป็นเรื่องน่าตกใจ เราสรุปคำออกมาง่ายๆ หัวหน้าพรรคใช้คำว่า “คำสาปของการห้ามพัฒนา” ที่เรารู้ตั้งแต่ตอนเด็กๆ ว่าอีสานแห้งแล้ง ยากจนเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น การศึกษาพึ่งฟ้าพึ่งฝน ปัจจุบันแทบไม่มีอะไรเปลี่ยน

“ปัญหาใหญ่ๆ ช้างรัฐราชการที่ใหญ่โต เสือนอนกินที่คอยเอารัดเอาเปรียบ ทำให้ประเทศไม่เกิดยูนิคอร์น และอีสานไม่สามารถเป็นยูนิคอร์นสำหรับเราได้”

“จึงสังเคราะห์ออกมาเป็น อีสาน 2 เท่า ถ้าทำให้อีสานเกิดการพัฒนา สามารถหนีก้าวให้พ้นคำสาปของการห้ามพัฒนาได้ เราต้องโตเร็วกว่าภูมิภาคอื่นๆ เพราะอีสานตามหลังมาระยะเวลานาน และการเติบโตในช่วง 10 ปีต้องได้ 2 เท่า มิเช่นนั้นไม่สามารถหลุดพ้นประเทศรายได้ปานกลางได้”

“ดังนั้น จึงเป็นอีสาน 2 เท่า มี เกษตรอุตสาหกรรม ค้าปลีก ค้าส่ง และการศึกษา ที่เป็นดาวรุ่งมีสัดส่วนเป็นระบบเศรษฐกิจในภาคอีสานสูง แต่ยังเติบโตค่อนข้างต่ำ และฉุดไม่ให้อีสานพัฒนาในช่วงเวลาที่ผ่านมาได้”

“เพิ่มรายได้ให้ภาคเกษตร น้ำเป็นเรื่องสำคัญ ไม่มีเคยมีการให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นพิเศษสำหรับอีสาน ทั้งที่พื้นที่มีศักยภาพสำหรับชลประทานมีมากที่สุดในประเทศ กลับได้งบชลประทานค่อนข้างน้อย ต้องมีวิธีจัดการ ทั้งชลประทานขนาดใหญ่ และการจัดการน้ำในไร่นา เพื่อให้มีแหล่งน้ำที่จะใช้เพื่อให้เพิ่มผลผลิตได้”

“หนี้ครัวเรือนภาคอีสานไม่เหมือนภาคอื่น ซึ่งเกิดจากหนี้การเกษตรเป็นหลัก เนื่องจากน้ำก็ไม่มี ราคาพืชผลไม่สามารถกำหนดเองได้ ยิ่งทำยิ่งขาดทุนและเป็นหนี้ครัวเรือนด้วย ยิ่งทำยิ่งตกอยู่ในหล่มของหนี้สิน ต้องปรับโครงสร้างหนี้เกษตรกรโดยเฉพาะ ไม่เหมือนกับการปรับโครงสร้างครัวเรือนประเภทอื่น”

“ที่ดิน มีปัญหาเรื่องเอกสารสิทธิ ป่าทับที่คน เป็นอีกเรื่องที่ต้องแก้ จะทำให้ภาคเกษตรเติบโตไปได้”

“ภาคสวัสดิการ ภาคอีสานเข้าสู่สังคมสูงวัยค่อนข้างเร็ว และเนื่องจากเป็นเกษตรกร ต้องทำนาจนแก่เฒ่า ทำนา ทำไร่ได้ แต่ต้องเป็นงานอดิเรก ไม่ใช่เพื่อเลี้ยงชีพ จึงต้องมีสวัสดิการผู้สูงอายุเต็มเม็ดเต็มหน่วยดำรงชีวิตได้จริงไม่ใช่เพียงแค่ 600 บาท เหมือนที่ผ่านมา”

อีสาน 2 เท่า ก้าวไกล นำเพื่อไทยไปก่อน 2 ก้าว ในเกมนี้

ก่อนหน้าการประกาศนโยบายของพรรคก้าวไกล 1 วัน ในวันที่ 17 ตุลาคม 2564 คู่แฝดการเมืองพรรคก้าวไกล คือ “คณะก้าวหน้า”

“นายธนาธร” กล่าวระหว่างการประกาศเปิดตัวผู้สมัคร ส.อบต. นายก อบต.ขอนแก่น ว่า ภาคอีสานส่งทีมลงมากที่สุดถึง 138 ทีม ขอเป็นรากฐานการเมืองท้องถิ่น หวังแผ่อานิสงส์ ไปยังพรรคก้าวไกล

” จะเห็นได้ว่าเราให้ความสำคัญกับภาคอีสานเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในเรื่องการพัฒนาท้องถิ่นทีจะมีผลในการเลือกตั้งใหญ่ในอนาคต ซึ่งเรามองว่าต้องให้ประชาชนเป็นคนตัดสิน และคงไม่สามารถพูดแทนพรรคก้าวไกลได้ แต่สิ่งที่เอยากจะทำให้ประชาชนก็คือถ้าการเมืองท้องถิ่นดีประชาชนจะเข้าถึงการบริการสาธารณะและมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ได้

ซึ่งการเลือกตั้งเมื่อ มี.ค.2562 เราได้รับความนิยมความไว้วางใจจากประชาชนเป็นจำนวนมากแต่ในที่สุดเราก็เป็นฝ่ายค้าน ในการเลือกตั้ง อบจ. คณะก้าวหน้าได้แต่สมาชิกสภาแต่ไม่ได้นายยก อบจ.

“ในการเลือกตั้งเทศบาลที่ผ่านมาได้ตำแหน่งนายกเทศมนตรี 16 แห่ง ซึ่งก็หวังว่าการพัฒนาการบริการสาธารณะต่างๆเทศบาลที่ทำในที่ต่างๆของคณะก้าวหน้าพี่น้องประชาชนจะเห็นในความตั้งใจและความสามารถในการบริหารของคณะทำงานทุกคน”

“จากผลสำเร็จในการเลือกตั้งเทศบาลที่ผ่านมา คณะก้าวหน้าจะมาประยุกต์ใช้กับการเลือกตั้ง อบต.ในครั้งนี้ ซึ่งการทำงานของคณะก้าวหน้าจริงๆมีหลายเรื่องที่ทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องการศึกษา และน้ำประปา ยกตัวอย่างที่ อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด จะเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด ที่คณะก้าวหน้าสามารถแก้ไขปัญหาน้ำประปาให้เป็นน้ำประปาที่ดื่มได้ เป็นผลงานที่จับต้องได้”

“ประชากรในพื้นที่ที่ดำเนินการอาจจะไม่เยอะประมาณ 5,000 กว่าคน แต่อย่างน้อยที่สุดทำให้ประชาชนเข้าถึงน้ำประปาที่สะอาดและทำได้สำเร็จในระยะเวลาอันสั้นคือภายใน 150 วัน ถือว่าเป็นความสำเร็จและจะได้นำความสำเร็จตรงนี้มาต่อยอดในการบริหารงาน อบต.ต่อไปในอนาคต”

ย้อนผลการเลือกตั้งในภาคอีสาน 24 มีนาคม 2562 พรรคเพื่อไทยได้ 84 ที่นั่ง รองลงมาคือ พรรคภูมิใจไทย 16 ที่นั่ง พรรคพลังประชารัฐ 11 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์ 2 ที่นั่ง อนาคตใหม่ (เปลี่ยนเป็นก้าวไกล) ชาติไทยพัฒนา และชาติพรรคนา พรรคละ 1 ที่นั่ง


สมรภูมิอีสานเดือดแน่นอน …..