ศาลปล่อยตัว “รุ้ง” ชั่วคราว คุมเข้มติดกำไล EM มีเงื่อนไขออกนอกบ้าน

Photo by Mladen ANTONOV / AFP

ศาลอาญาอนุญาตปล่อยตัว “รุ้ง ปนัสยา” ชั่วคราว ระหว่างสอบถึง 12 ม.ค.ปีหน้า ออกเงื่อนไขเข้มติดอีเอ็มห้ามออกนอกบ้าน เว้นไปมหาวิทยาลัย โรงพยาบาล ศาล ทนาย เตรียมยื่นเหตุผลเดียวขอประกันเพนกวินต่อ

วันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 มติชน รายงานว่าศาลอาญามีคำสั่งที่ทนายความยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เเกนนำราษฎร จำเลยที่ 5 คดีหมายเลขดำ อ.287/2564 (คดีชุมนุมปักหมุดสนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย. 63) ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างการพิจารณาอ้างว่าจำเลยที่ 5 เป็นนักศึกษามีความจำเป็นจะต้องสอบเพื่อสำเร็จการศึกษา และจำเลยที่ 5 ยืนยันว่าจะไม่หลบหนีหรือก่อเหตุร้ายประการอื่นอีก

ศาลเรียกไต่สวนแล้วผู้ร้องนำสืบว่าจำเลยที่ 5 เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาสังคมวิทยาและมนุษย์วิทยา ชั้นปีที่ 4 ซึ่งในภาคเรียนที่ 1 มีกำหนดการสอบปลายภาคระหว่างวันที่ 29 พ.ย.-16 ธ.ค. ซึ่งจำเลยที่ 5 ลงทะเบียนเรียนและต้องสอบใน 4 วิชาทั้งนี้ผู้ช่วยศาตราจารย์ดร. บุญเลิศ วิเศษปรีชา อธิบายว่าในบางวิชาที่มีการรายงานแทนการสอบอาจมีการขยายระยะเวลาหลังกำหนดการสอบข้อเขียนไปอีกบ้าง แต่ในที่สุดแล้วต้องไม่เกินวันที่ 12 ม.ค. 65

ซึ่งเป็นวันส่งคะแนนของบรรดาอาจารย์ผู้สอนต่อทางคณะ นอกจากนี้ ในภาคเรียนที่ 2 ของปี 4 จำเลยที่ 5 จะต้องทำการวิจัยส่วนบุคคลเพื่อจบการศึกษา ซึ่งต้องใช้เวลาในการค้นคว้าและเก็บข้อมูลภาคสนาม 1 ภาคเรียน ทั้งนี้ การสอบของนักศึกษาวิชาสังคมวิทยาและมนุษยวิทยานั้นจะต้องมีการเก็บข้อมูลและทำรายงานด้วยมิใช่การนั่งสอบข้อเขียนแต่เพียงอย่างเดียว จำเลยที่ 5 มีความตั้งใจที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ศาลได้กำหนดโดยเฉพาะอย่างยิ่งจำเลยที่ 5 จะไม่ทำกิจกรรมทางการเมืองที่มีผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ร่วมการชุมนุมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ไม่ออกนอกราชอาณาจักรยินดีอยู่ในเคหสถานโดย จำกัด เวลาหรือตลอดเวลา ในบ้านเมือง ไม่ออกนอกราชอาณาจักร ยินดีอยู่ในเคหสถานโดยจำกัดเวลาหรือตลอดเวลาตามที่ศาลสั่งเว้นแต่การไปเล่าเรียนศึกษาทั้งจำเลยที่ 5 มีบิดามารดา และผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร.บุญเลิศ วิเศษปรีชา อาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์พร้อมจะกำกับดูแลให้จำเลยที่ 5 อยู่ในเงื่อนไขที่ศาลกำหนด

โดยศาลอาญาพิเคราะห์แล้วเห็นว่าศาลนี้มีคำสั่งให้ยกเลิกการปล่อยชั่วคราว และยังให้จำเลยที่ 5 ไว้เนื่องจากเกรงว่าจำเลยที่ 5 จะก่อเหตุร้ายประการอื่นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 108/1(3 ) อย่างไรก็ดี การพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวเป็นการใช้อำนาจของรัฐเพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งศาลจะต้องชั่งน้ำหนักระหว่างความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายจากการก่อเหตุร้ายกับสิทธิเสรีภาพของผู้ต้องหาโดยไม่จำกัดสิทธิเสรีภาพของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

ดังนั้น การที่จำเลยที่ 5 มีภาระในเรื่องการเรียนที่จะต้องเสียหายจากการคุมขังจึงเป็นเหตุที่สามารถได้รับการพิจารณาเมื่อคำนึงถึงความเสียหายที่จำเลยที่ 5 อาจก่อขึ้นอีกนั้น อาจจำกัดควบคุมได้โดยการที่จำเลยที่ 5 ยินยอมและตั้งใจปฏิบัติตามเงื่อนไขต่าง ๆ ของศาลที่เข้มงวดยิ่งขึ้น และด้วยการกำหนดเงื่อนไขเงื่อนเวลาและมาตรการกำกับดูแลที่เหมาะสม

ที่ประชุมผู้บริหารศาลอาญาพิจารณาแล้วจึงเห็นควรอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 5 อย่างจำกัด โดยให้มีผลเฉพาะตั้งแต่วันนี้ 12 ม.ค. 65 กำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยที่ 5 ทำกิจกรรมหรือก่อเหตุที่กระทบกระเทือนต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ห้ามจำเลยที่ 5 เข้าร่วมชุมนุมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ห้ามจำเลยที่ 5ออกนอกเคหสถานตลอดเวลา เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเพื่อการรักษาพยาบาล ไปเรียนและสอบ ไปติดต่อราชการที่ศาลอื่นหรือเหตุอื่น

โดยได้รับอนุญาตจากศาลห้ามจำเลยที่ 5 ออกนอกราชอาณาจักรโดยให้ผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร. บุญเลิศ วิเศษปรีชา เป็นผู้กํากับดูแลให้จําเลยที่ 5 ปฏิบัติตามคําสั่งศาลให้ติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์หากผิดสัญญาให้ปรับผู้ประกันเป็นเงิน 90,000 บาทโดยไม่เรียกหลักประกัน

นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายจากศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า วันนี้ยังไม่สามารถปล่อย น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง ออกมาได้เพราะติดหมายขังของศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งพรุ่งนี้ตนจะไปยื่นเรื่องขอประกัน


อย่างก็ตามในส่วนของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำที่เป็นนักศึกษาและถูกคุมขังอยู่นั้น ทางทีมทนายกำลังเตรียมเอกสารเกี่ยวกับการสอบเพื่อยื่นให้ศาลพิจารณาปล่อยชั่วคราวออกมาเช่นกัน