หมูแพง เพื่อไทยคาด 250-300 บาท/กิโล ยื่นญัตติด่วนเข้าสภา

เพื่อไทยคาดการณ์ราคาหมูแพง 250-300 บาท/กิโลกรัม เตรียมยื่นญัตติเข้าสภา จี้รัฐบาลชดเชย 150%

วันที่ 4 มกราคม 2565 ที่พรรคเพื่อไทย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา ประธาน ส.ส. พรรคเพื่อไทย แถลงว่า กรณีราคาขายปลีกเนื้อสุกรมีราคาอยู่ที่ 230 บาทต่อกิโลกรัม และคาดว่าจะปรับราคาขึ้นไปอยู่ที่ 250-300 บาทต่อกิโลกรัมในระยะเวลาอันใกล้นี้

เนื่องจากเกิดโรคระบาดในสุกร  ซึ่งระบาดไปทั่วโลก ทั้งยุโรป อเมริกา และเอเชีย โดยระบาดในไทยมากว่า 3 ปี แต่รัฐบาลไม่เคยยอมรับว่าเกิดการระบาด และยังแจ้งว่าเป็นโรคเพิร์ส (Porcine Reproductive and Respiratory Syndrome (PRRS) ซึ่งโรคนี้มีวัคซีนป้องกันได้

และสถานการณ์การระบาดยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยการระบาดได้แพร่กระจายไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และจังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่เลี้ยงสุกรมากที่สุดในประเทศ ทำให้จำนวนสุกรหายไปจากระบบ 10 ล้านตัว จากช่วงก่อนการระบาดมีสุกร 22 ล้านตัว ปัจจุบันเหลือ 12 ล้านตัว ส่วนแม่พันธุ์สุกรจากเดิมมี 1.2 ล้านตัว ปัจจุบันลดลงเหลือ 5 แสนตัว

ล่าสุดประเทศไทยส่งออกกุนเชียงไปไต้หวัน ถูกตรวจพบว่าเนื้อกุนเชียงมีการปนเปื้อน แต่ทางการไทยปฏิเสธว่าเป็นหมูนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งไม่เป็นความจริงเพราะการเคลื่อนย้ายนำเข้าจะต้องมีใบรับรองจากปศุสัตว์

นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้เยียวยาชดเชยเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากการระบาด 150% ของความเสียหายทั้งหมด เนื่องจากที่ผ่านมาเกษตรกรมีหนี้สินจากการสร้างโรงเรือนและฝังกลบสุกรที่ติดเชื้อโรคระบาด

และรัฐบาลต้องเร่งเจรจากับสถาบันการเงินในการชะลอการจ่ายสินเชื่อออกไปก่อน ขณะที่ราคาเนื้อหมูเร็ว ๆ นี้ จะเพิ่มขึ้นเทียบเท่าค่าแรงขั้นต่ำแล้ว คนไทยทำงานทั้งวันได้เนื้อหมูกิโลเดียว สวนทางกับต่างประเทศ อย่างสหรัฐ ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 2,000 บาท อังกฤษวันละ 3,000 บาท ราคาเนื้อหมู 300 กว่าบาทต่อกิโลกรัม

ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคเพื่อไทยในฐานะฝ่ายค้าน ทันที่เปิดสมัยประชุมสภา จะยื่นญัตติเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมสภา เพื่อให้ทุกฝ่ายมาร่วมศึกษาหาวิธีการแก้ไข ยืนยันว่าฝ่ายค้านไม่ต้องการดิสเครดิต เราพร้อมให้ความร่วมมือรัฐบาล เพื่อเยียวยาชีวิตผู้เลี้ยงเกษตรกรทั่วประเทศให้กลับคืนมาอีกครั้ง

“สิ่งที่รัฐบาลทำผิดพลาด คือการไม่ยอมรับความจริงมา 3 ปี ทำเกษตรกรเสียหาย รัฐบาลไม่ได้ฆ่าหมูอย่างเดียว ยังเข่นฆ่าเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ฝังเขาไว้ในดินด้วย เขากำลังจะตาย เยียวยา 70% ไม่รอด อย่าทำร้ายเกษตรกรไปมากกว่านี้ ผมยอมรับว่ากลัวความคิดการแก้ปัญหาของพลเอกประยุทธ์ในหลายครั้งที่ผ่านมา อย่าแก้ปัญหาด้วยการให้ทหารเลี้ยงหมูนะครับ” นายวิสุทธิ์กล่าว

นางสาวสกุณา สาระนันท์ ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เกษตรกรในประเทศรับรู้การระบาดนี้ แต่ 2 คนที่ไม่รู้คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

“ที่ผ่านมาตั้งแต่ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคลัมปีสกินในวัว จนโรค ASF ในหมู ไม่เคยมีสักครั้งที่ รมว. เกษตรฯ จะพูดถึงการแก้ปัญหาและเยียวยาประชาชน แสดงถึงความไม่จริงใจ ไม่ศึกษาจนรู้ปัญหาที่แท้จริง นำสู่การเกิดปัญหาซ้ำซาก อยากถามว่า ท่านจะรับผิดชอบปัญหานี้อย่างไร หากท่านยอมรับปัญหานี้ตั้งแต่ 3-4 เดือนที่แล้ว ปัญหาของประเทศ เกษตรกร และประชาชน จะไม่หนักถึงเพียงนี้”