เจาะปม สัมปทานสายสีเขียว บิ๊กตู่ฉุนอะไรเสี่ยโจ้ ถึงเรียกนักเลงข้างถนน

credit : khaosod

ไฮไลต์จากกการประชุมสภาผู้แทนฯ ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป “เสี่ยโจ้” ยกประเด็นร้อนเรื่องขยายสัญญา สัมปทานสายสีเขียว ซัด “พระรามประยุทธ์” อาจพาติดคุกทั้ง ครม. ด้านบิ๊กตู่ออกอาการฉุน จวกอีกฝ่ายทำตัวเหมือนนักเลงข้างถนน

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริง หรือเสนอแนะปัญหา ต่อคณะรัฐมนตรี นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายถึงปัญหาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย

นายยุทธพงศ์ตั้งคำถามทำไมรัฐบาลต้องเร่งรีบต่อสัญญาสัมปทาน จนให้ถูกมองว่าเป็นเรื่องของผลประโยชน์ อีกทั้งการดำเนินการในอดีต อยู่ระหว่างการสอบสวนของ ป.ป.ช. เพราะ กทม.ใช้วิธีพิเศษ โดยให้กรุงเทพธนาคมไปจ้างบีทีเอสโดยไม่มีการประมูลในส่วนต่อขยาย เท่ากับหลีกเลี่ยง พ.ร.บ.ร่วมทุน

credit : Matichon

ทั้งนี้ สายสีเขียวมีส่วนต่อขยาย ที่เป็นปัญหาคือส่วนต่อขยายเขียวเหนือจากหมอชิตไปคูคต และเขียวใต้จากแบริ่งไปเคหะบางปู สมุทรปราการ เริ่มปี 2559 สัญญาสิ้นสุดปี 2585

“ถามว่าเอาอำนาจอะไรไปให้บีทีเอสวิ่งถึงปี 85 ใช้กฎหมายใดรองรับ สัญญาในส่วนของไข่แดงเป็น พ.ร.บ.ร่วมทุน แต่ส่วนต่อขยายกลับใช้วิธีจ้างวิ่งรถ ไม่ใช่ พ.ร.บ.ร่วมทุน ซึ่งผิดชัดเจน ซึ่ง ป.ป.ช.กำลังสอบสวนอยู่” นายยุทธพงศ์กล่าวและตั้งคำถามอีกว่า กระทรวงมหาดไทยมีอำนาจอะไรที่ยกส่วนต่อขยายเขียวเหนือเขียวใต้ให้กับบีทีเอสทั้งที่ไม่ได้เป็นเจ้าของ

นายยุทธพงศ์กล่าวอีกว่า การกระทำดังกล่าวผิดกฎหมาย กระทรวงคมนาคมถึงได้คัดค้านเมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย 7 คนถึงลาประชุม ครม.เพราะกลัวทำผิดกฎหมาย

“การกระทำที่ผิดกฎหมายของพระรามประยุทธ์ คือขยายสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวล่วงหน้า 37 ปี ข้ามศตวรรษไปถึงปี 2602 อ้างคำสั่ง คสช.ที่3/2562 เป็นเครื่องมือล้างผิด เป็นใบเบิกทาง เป็นศรของพระรามประยุทธ์ที่จะเคลียร์ความผิด ล้างมลทินให้ตัวเอง ยกเว้นกฎหมาย เอื้อประโยชน์ ผูกขาดตัดตอนให้เอกชนรายเดียว

credit : Matichon

“ที่สำคัญจงใจสร้างหนี้ 3.7 หมื่นล้านหวังเอื้อประโยชน์บีทีเอส และ กทม.ปล่อยให้คนนั่งรถฟรีตั้งแต่ปี 61 จนถึงวันนี้ จึงหาเหตุยกสัญญาสัมปทานให้เขา ขอบอกว่าเป็นการจัดฉากสร้างหนี้ เปิดทางให้บีทีเอสเสนอขอแลกหนี้กับการขยายสัมปทานล่วงหน้า 37 ปี

ประชาชนจะเดือดร้อนเพราะพระรามประยุทธ์ หากไม่ขยายสัมปทานค่าโดยสารจะเป็น 158 บาท แต่ถ้าขยายสัมปทานคิด 65 บาทซึ่งก็ยังแพง ดังนั้นท่านควรรอให้ถึงปี 72 แล้วเอาสัมปทานกลับมาเป็นของรัฐเพื่อให้ค่าโดยสารถูกลง แล้วให้ รฟม.ดำเนินการเจ้าเดียว ก็จะใช้แค่ตั๋วใบเดียว”

 

ส.ส.คนดังของพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า พระรามประยุทธ์จะไปอยู่แล้ว ท่านอยู่ได้นานไม่เกินเดือนมีนาฯ 66 เดือนพฤษภาฯ นี้จะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ใหม่ ทำไมไม่ให้ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่เข้ามาตัดสินใจ ดีกว่าพารัฐมนตรีติดคุกทั้ง ครม.

“ถ้าพระรามประยุทธ์จะแผลงศรโดยใช้ ม.44 กล้าทำผิดกฎหมาย ต่อสัมปทานให้บีทีเอส ผมประกาศเลยว่าวันที่ 22 พ.ค.65 เปิดสภาฯ ครั้งที่ 1/2565 พบกับการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 แล้วพระรามประยุทธ์จะรู้ว่านรกมีจริง แน่จริงอย่ายุบสภาฯ หนีก่อน ผมไม่สามารถไว้วางใจพระรามประยุทธ์บริหารราชการต่อไป” นายยุทธพงศ์ กล่าวในตอนท้าย

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ตอบโต้นายยุทธพงษ์ ว่ากริยาที่แสดงออกมานั้น ไม่น่าฟังไม่น่าดูเลย เพราะฉะนั้นกรุณารักษามารยาทด้วย รู้จักให้เกียรติคนอื่นเขาด้วย ทั้งที่คนเรียกว่าส.ส.ผู้ทรงเกียรติ แต่ถ้าทำตัวแบบนี้ “เหมือนนักเลงข้างถนน”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ขอบคุณในข้อห่วงใยในเรื่องของการแก้ปัญหาเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียว ครม.จะพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย และหลักการบริหารบ้านเมืองที่ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน

“เราต้องคำนึงถึงภาระการเงินของรัฐที่จะต้องรับผิดชอบต่อไปด้วย ไม่ได้มุ่งหมายว่าจะไปเอื้อประโยชน์กับใครหรือต้องการที่จะทิงทวนอย่างที่กล่าวหา กรุณาให้เกียรติกันบ้าง ผมไม่เคยไปก้าวล่วงอะไรท่านมากมายขนาดนี้ การใช้คำพูด ใช้กริยาที่ไม่เหมาะสม สำเนียงส่อภาษา กริยาส่อสกุล” นายกฯ กล่าวในตอนท้าย