พล.อ.ประยุทธ์ เอาจริง สั่งทุกกระทรวง ทุกหน่วยงาน ใน 1 เดือนต้อง เพิ่มคุณภาพการบริการประชาชน ลงนามใบอนุญาตใช้เวลาไม่เกิน 1 วัน
วันที่ 24 พฤษภาคม 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการ พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ มีข้อเสนอปรับปรุงกฎหมายมาจากคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เดิมหน่วยงานแต่ละแห่งมีกำหนดระยะเวลาที่ต่างกัน จึงต้องหามาตรฐานเดียวกันเพื่อให้หน่วยงานของรัฐ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
- ออมสิน เปิดให้กู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์ ลดดอกเบี้ย 4 กลุ่ม เช็กเลย !
เพื่อให้หน่วยงานของรัฐอำนวยความสะดวกประชาชนมากยิ่งขึ้น เช่น การตรวจสอบเอกสารเบื้องต้น การลงนามอนุญาต จะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ ไม่เกิน 1 วันทำการได้หรือไม่ จะเป็นการลดเวลา ขั้นตอนให้มากที่สุด งานที่มีผลกระทบสูง เช่น การขออนุญาตโรงงาน ส่งออก นำเข้า การจัดหางานขึ้นทะเบียนเกษตรกร จะต้องลดเวลาลงร้อยละ 50 ให้ได้ภายในปีนี้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ต้องพิจารณายกเลิกขั้นตอนที่ไม่จำเป็นหรือเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน ทั้งนี้ ได้สั่งการทุกกระทรวง ทบทวนขั้นตอนการทำงาน และปรับลดเวลาการทำงานของตัวเองแต่ละกระทรวงไม่เหมือนกัน อยู่ในคนละขั้นตอน แต่บางทีมันเกี่ยวกัน ก็ทำให้ออกได้ช้า
“ผมจึงได้สั่งการภายใน 1 เดือนนี้ ทุกกระทรวงจะต้องไปปรับมา เป้าหมายเพิ่มคุณภาพการให้บริการกับพี่น้องประชาชน อำนวยความสะดวกธุรกิจใหม่ๆทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพราะวันนี้เราต้องสร้างเศรษฐกิจให้เข้มแข็งทั้งของเราและต่างประเทศ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็มีความก้าวหน้าตามลำดับอะไรที่ช้าก็เร่งรัดไป แต่มันติดด้วยระเบียบกฎเกณฑ์ข้อบังคับต่างๆ ซึ่งทุกอย่างต้องผ่านการทำประชาพิจารณ์ และต้องทำการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และการประเมินผลกระทบทางสุขภาพ (HIA) มันมีหลายอย่างกติกา
การทำอะไรต่างๆ ก็ตาม ต้องเข้าใจระบบระเบียบ ข้อกฎหมาย ถ้าพูดไปแล้วทำไม่ได้ มันติดกฎหมาย ก็เท่ากับทำไม่ได้ ฉะนั้น ก็ต้องเอากฎหมายมาดูเสียก่อนว่าจะทำได้หรือเปล่า รัฐบาลก็ระวังอย่างนี้ หลายอย่างมันก็ได้เร็ว หลายอย่างมันก็ได้ช้า ก็ต้องหาวิธีการแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ ให้ถูกต้อง และเป็นไปตามระเบียบกฎหมายที่มีอยู่ ซึ่งเรามีคณะกรรมการกลั่นกรองอยู่แล้ว
เช่น คณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อกลั่นกรองกฎหมายทุกตัวให้ถูกต้อง ระเบียบระบบการบริหารราชการต่างๆ ก็ต้องปรับทั้งหมด อันนี้อยู่ในยุทธศาสตร์ชาติของเรา ในเรื่องของการปรับปรุงระบบราชการให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะต้องทำทั้งหมดเลย
แต่ถ้าจะให้ทำนู่นทำนี่แล้วตอบคำถามใครไม่ได้เลยว่ากระบวนการคิดเป็นอย่างไร งบประมาณจากที่ไหนโครงการจะทำอย่างไร ทั้งหมดไม่ได้ง่ายอย่างที่พูดฉะนั้น ก็พยายามทำให้ได้มากที่สุดตราบใดที่ยังมีเวลาในการดูแลตรงนี้อยู่ ก็จะทำให้ดีที่สุด
