อนุทิน ยันร่วมมือ “ชัชชาติ” ลุยโควิด ลั่นเล่นการเมืองโดยไม่ส่งยา ไม่ได้

อนุทิน ชัชชาติ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข (ด้านซ้าย) และ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ด้านขวา)

“อนุทิน ชาญวีรกูล” รมว.สธ. เผยพร้อมให้ความร่วมมือ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” แก้วิกฤตโควิด ชี้เคารพเสียงประชาชนเลือกผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่มาทำงาน ลั่นเล่นการเมืองโดยไม่ส่งยา ประชาชนเดือดร้อน

วันที่ 18 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เชิญนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 (ศปค.สธ.) ในวันนี้ (18 ก.ค.) เพื่อหารือการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์การระบาดที่จะเกิดขึ้นนั้น

เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ระบุว่า ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว เนื่องจากเป็นเรื่องการปฏิบัติและบริหารจัดการสถานการณ์ต่าง ๆ เป็นหน้าที่ของปลัดกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงานราชการส่วนหน้า หากเสนอเรื่องเพื่อขอให้เสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือเป็นเรื่องเกี่ยวกับงบประมาณ เพื่อขอมติ ครม. ตนก็เป็นฝ่ายสนับสนุน

เผยพร้อมให้ความร่วมมือ กทม.แก้โควิด

นายอนุทินกล่าวว่า ขณะนี้เรามี นายชัชชาติ ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนและมีการลงพื้นที่ไปสัมผัสเอง อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในระบบบริหาร เช่น อาจจะบอกว่าขอให้ทั้ง กทม. และกระทรวงสาธารณสุขมาร่วมมือกันเต็มที่ จะไม่มีการเชิญออก หรือขอให้กระทรวงสาธารณสุข อย่ามายุ่งเหมือนเมื่อก่อน เราก็พร้อมจะร่วมมือ เพราะผู้ว่าฯ มาจากประชาชน เราต้องเคารพเสียงประชาชน

ส่วนภาพรวมสถานการณ์โควิด-19 ใน กทม. มีอะไรน่าเป็นกังวลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า กทม.มี 50 เขต แต่ไม่มีโรงพยาบาลอำเภอ มีเพียงโรงพยาบาลหลัก ที่ระบบสาธารณสุข เป็นเอกเทศ ขึ้นอยู่กับการบริหารของ กทม.และก่อนหน้านี้กระทรวงสาธารณสุข เคยเข้าไปช่วยเหลือ

บางครั้งถูกขอให้ออกมาก็มี แต่ไม่ได้กังวลโกรธ หรือไม่พอใจ เพราะเห็นเรื่องสุขภาพประชาชนสำคัญ แต่เมื่อถูกเชิญให้ออกมาก็ต้องออก เพราะไม่มีอำนาจไปดูเรื่องนโยบายหรือการปฏิบัติการ โดยออกมาเป็นฝ่ายสนับสนุนแทน แต่จะโยนให้ กทม.รับผิดชอบทั้งหมดก็ไม่ได้ เพราะยังมีเรื่องที่เกี่ยวข้อง เช่น ยังมีระบบหลักประกันสุขภาพที่ต้องเบิกค่ารักษา เรื่องยาและวัคซีน ยังต้องผ่านการสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้จัดหายาและเวชภัณฑ์

นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าเราเล่นการเมืองโดยไม่ส่งยา ไม่สนใจกันก็ไม่ได้ ประชาชนจะเดือดร้อน ย้ำว่าเรื่องบริหารจัดการเราไปยุ่งไม่ได้ ซึ่งต่างกับต่างจังหวัด ที่เรามีระบบสาธารณสุขเข้มแข็งเพราะมีโรงพยาบาลทุกอำเภอ ทุกจังหวัด และทุกตำบล คือ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล แต่ใน กทม.มีแค่โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลวชิระ โรงพยาบาลบางขุนเทียน โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ แต่ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขมีโรงพยาบาลในสังกัดที่อยู่ใน กทม. เช่น โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี ที่คอยช่วยดูแลกันอยู่