ชลบุรี-ระยอง-แปดริ้วค้านระบบรางอีอีซี เสนอเบี่ยงแนวเข้าย่าน “ธุรกิจ-ท่องเที่ยว”

ทุนท้องถิ่นแห่ค้านแผนแม่บทระบบรางชลบุรีขวางวางรางเข้าอำเภอเมือง ขอเบี่ยงแนวเข้า “บ่อวิน-ปลวกแดง-แหลมฉบัง-ศรีราชา-พัทยา” ชี้เป็นทั้งแหล่งงาน จุดท่องเที่ยว ด้านฉะเชิงเทราไม่สนซิตี้บัส จี้ทำรถไฟฟ้ารางเบาเชื่อมนิคมอุตฯ-บางปะกง-แปดริ้ว

แผนแม่บท 20 ปี (63-83)

นายนิรันดร์ เกตุแก้ว ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมระบบการขนส่งและจราจรในภูมิภาค สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สนข.กำลังจัดทำแผนแม่บทระบบขนส่งสาธารณะในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง เพื่อรองรับระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC งบฯศึกษา 20 ล้านบาท เป็นแผนแม่บทพัฒนา 20 ปี (2563-2583) คาดว่าผลศึกษาแล้วเสร็จใน เม.ย. 2563

ขณะนี้อยู่ระหว่างลงพื้นที่ประชุมหารือร่วมกับนักธุรกิจ หอการค้า สภาอุตสาหกรรมใน 3 จังหวัด เพื่อเก็บรายละเอียดความต้องการ ปริมาณการจราจร การเดินทาง แหล่งชุมชน คาดว่าก.ย.นี้จะมีข้อสรุปแนวเส้นทาง ระบบที่เหมาะสม เช่น รถไฟฟ้า รถราง รถบัส เบื้องต้นจะมีโครงการนำร่องในแต่ละจังหวัด

“หลังรับฟังความคิดเห็นแล้ว โจทย์ที่ สนข.มอบให้บริษัทที่ปรึกษาคือ เมื่อมีโครงการข่ายหลัก ไม่ว่าจะเป็นรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ ถนนสายหลักอย่างสาย 331, 344 แล้ว ในอนาคตจะเชื่อมโยงเข้ากับแต่ละจังหวัดยังไง เช่น สร้างฟีดเดอร์ขึ้นมาเชื่อมต่อการเดินทางในเมืองและพื้นที่อีอีซี แต่ละเมืองมีระบบขนส่งสาธารณะมารองรับ 1 จังหวัดอาจมีหลายแห่ง เช่น ชลบุรีอาจมีในอำเภอเมือง ศรีราชา พัทยา”

สนข.ชักชวนท้องถิ่นลงทุน

นายนิรันดร์กล่าวต่อว่า จากการประชุมร่วมกับตัวแทนในจังหวัด ภาคเอกชนหลายคนเสนอสิ่งที่ตนต้องการ เช่น อยากให้แนวเส้นทางพาดผ่านนิคมอุตสาหกรรม เป็นต้น

เบื้องต้น สนข.ทราบดีว่าแต่ละจังหวัดมีทำเลไข่แดง อาทิ จ.ชลบุรีมีความหนาแน่น นิคมอุตฯต้องทำตลอดแนวถนน ถนนเส้นหลักทั้งทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 หมายเลข 331 หมายเลข 36 และหมายเลข 344 ฯลฯ ต้องนำมาประมวลข้อมูลหาจุดเชื่อมโยงเพื่อคัดเลือกเส้นทางที่เหมาะสมที่สุด

สำหรับระยองมีการศึกษาข้อมูลมาแล้วบางส่วน วิธีการจะนำผลศึกษามาทบทวนและหยิบข้อมูลที่ใช้ได้นำมาใช้ ส่วนฉะเชิงเทรามีข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ เช่น แนะนำช่องทางการเดินเรือในแม่น้ำบางปะกง

“เราก็รับฟังและนำมาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณากำหนดแนวเส้นทางด้วย เพราะ สนข.คงกำหนดแนวเส้นทางให้ตอบโจทย์และความต้องการไม่ได้ครบทุกคน หากเอกชนท้องถิ่นต้องการลงทุนก็เสนอมาได้ เพราะรูปแบบการลงทุนมีรัฐลงทุน เปิด PPP และท้องถิ่นดำเนินการ” นายนิรันดร์กล่าว

ชลบุรีค้านระบบรางเข้า อ.เมือง

นายกิตติวุฒิ ศศวิมลพันธุ์ เลขาธิการ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ทีมที่ปรึกษานำเสนอแนวคิดวางระบบรางสาธารณะเป็นโครงข่ายรองบริเวณรอบอำเภอเมืองชลบุรี ซึ่งเป็นเมืองราชการ ไม่ใช่เมืองธุรกิจ และเป็นเมืองที่ไม่มีการเติบโตแล้ว จึงเห็นว่าแนวเส้นทางไม่มีความเหมาะสม

“จังหวัดอื่นมีความเจริญเพียงอำเภอเมืองแต่ชลบุรีมีเมืองที่เจริญเป็นไข่แดงหลายเมือง เช่น ศรีราชา แหลมฉบัง พัทยา อู่ตะเภา ทั้งมีความเจริญรอบนิคมอุตฯ 4-5 แห่ง เช่น นิคมอมตะซิตี้, บ่อวิน, ปลวกแดง โดยพื้นที่ EEC 3 จังหวัด ชลบุรีซับซ้อนกว่า เป็นทั้งแหล่งงาน ที่อยู่อาศัย เมืองท่องเที่ยว เมืองอุตสาหกรรม”

ข้อเสนอของกลุ่มนักธุรกิจชลบุรี จุดแรกที่ควรพัฒนา คือ ลากโครงข่ายจากสถานีรถไฟความเร็วสูงศรีราชาเชื่อมนิคมอุตฯ “บ่อวิน ปลวกแดง แหลมฉบัง” โดยทำเลศรีราชาเป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจหรือ CBD ในพื้นที่ ปัจจุบันการจราจรติดขัดมาก คนที่มาอยู่อาศัยส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เช่น คนญี่ปุ่น เกาหลี ทั้งอยากให้เชื่อมโยงอู่ตะเภารองรับการเติบโตในอนาคตด้วย ส่วนบางแสนการจราจรยังไม่วิกฤต วางตำแหน่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและที่อยู่อาศัยของคนท้องถิ่น ไม่ใช่เมืองอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมชลบุรีเตรียมนัดหารือร่วมกับหอการค้าชลบุรี สมาคมอสังหาริมทรัพย์ชลบุรี เพื่อรวบรวมความคิดเห็นนำเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเสนอต่อ สนข.เป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง

แปดริ้วขอซิตี้ไลน์เลียบบางปะกง

นายจีรทัศน์ แจ่มไพบูลย์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า นักธุรกิจฉะเชิงเทราต้องการให้วางแนวระบบรถไฟฟ้ารางเบา (ซิตี้ไลน์) แนวเส้นทางเลียบแม่น้ำบางปะกงเข้าสู่ตัวเมืองแปดริ้ว เนื่องจากสถานที่สำคัญ ชุมชนต่าง ๆ อยู่หนาแน่นบริเวณริมแม่น้ำบางปะกง ทำให้ลดภาระไม่ต้องเวนคืนมาก ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด และเสนอให้กำหนดจุดจอดรถอยู่รอบนอกตัวเมือง เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ไม่ต้องการนำรถวิ่งเข้าตัวเมืองซึ่งมีปัญหาการจราจรหนาแน่นในช่วงจากบางปะกงเข้าตัวเมือง 10-15 กิโลเมตร

นอกจากนี้ ช่วงนิคมอุตฯมีการจราจรหนาแน่น ควรวางระบบรถไฟฟ้ารางเบามารองรับ ส่วนรถซิตี้บัสสามารถเชื่อมต่อได้ช่วงสั้น แต่ไม่เหมาะนำมาวิ่งทางยาว ขณะที่ถนนก็แคบมาก การใช้รถซิติ้บัสมองว่ายิ่งเพิ่มปัญหาจราจรมากขึ้นไปอีก รวมถึง สนข.ต้องศึกษาเกี่ยวกับค่าโดยสารให้ชัดเจน หากแพงผู้โดยสารอาจใช้บริการน้อยลง

“เสาร์-อาทิตย์รถติดจนคนแปดริ้วไม่กล้าออกจากบ้าน ในอนาคตแปดริ้วจะมีคนเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า การเลือกแนวเส้นทางต้องแก้ปัญหาการแออัดที่เกิดขึ้น อย่างเส้นเลียบบางปะกง แม่น้ำกว้างใหญ่ออกแบบดี ๆ ไม่บดบังทัศนียภาพ ไม่ต้องเวนคืนมาก สถานที่สำคัญหลายแห่งตั้งอยู่ริมน้ำ เช่น วัดหลวงพ่อโสธร, โรงพยาบาล, ศาลากลาง, ตลาด 100 ปี แต่จะคุ้มทุนหรือไม่ สนข.ต้องกลับไปคิดแล้วค่อยกลับมาคุยกันอีกที

ระยองขอรถไฟลอยฟ้า

นายนพพล ตั้งทรงเจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดระยอง กล่าวว่า อยากให้ทำระบบรถไฟฟ้าแบบ BTS วิ่งเชื่อม 3 จังหวัด โดยยกระดับเลียบตามเกาะกลางถนนสุขุมวิทเป็นหลัก เชื่อม อ.เมืองระยองและสนามบินอู่ตะเภา เพราะในอนาคตคนจะบินมาลงจำนวนมาก

ทั้งนี้แนวเส้นทางที่นำเสนอเป็นคนละเส้นกับสถานีรถไฟความเร็วสูงสถานี 10 จากอู่ตะเภาสิ้นสุดปลายทางที่หน้าห้างเซ็นทรัลระยอง และเสนอว่าควรทำโครงข่ายรองเชื่อมนิคมอุตสาหกรรม

เช่น มาบตาพุด, EECi อ.วังจันทร์, บ้านค่าย, ปลวกแดง ให้เข้ามาตัวเมืองได้สะดวก ลดความแออัดการจราจร และลดสถิติการก่ออุบัติเหตุภายในตัวเมือง (หน้า 1, 4)