“คมนาคม” จัดรถบขส.รับ “ผีน้อย”กลับจากเกาหลีกักตัวที่บ้าน 14 วัน ชง “ประยุทธ์” เคาะพรุ่งนี้

“ศักดิ์สยาม” เตรียมเสนอแผนจัดรถบขส.ส่ง”ผีน้อย”กักตัวที่บ้านเกิด 14 วัน ยังไม่เคาะสายการบินรับกลับไทย ขอหารือเอกชนก่อน เมินส่ง”การบินไทย”ไปรับ ส่วนมาตรการช่วยผู้ปรำกอบการเล็งเสนอครม.เศรษฐกิจสัปดาห์นี้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (4 มี.ค.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะนัดประชุมเรื่องการออกมาตรการรรองรับผู้ที่ประสงค์จะเดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีประมาณ 5,000 คน คาดว่าจะใช้แนวทางเดียวกับการรองรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่เดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน แต่คงไม่ใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นที่กักตัว เพราะที่อู่ตะเภามีศักยภาพรองรับได้แค่ 100 คน เท่านั้น

ส่งผีน้อย 5 พันคนกลับภูมิลำเนา

“เบื้องต้น จะให้ประชาชนที่กลับจากเกาหลีใต้ทั้งหมดเดินทางกลับภูมิลำเนาแทน เพื่อดำเนินการกักตัวที่บ้าน 14 วันตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะมีการเฝ้าระวังโดยประสานกระทรวงมหาดไทยสั่งการผู้ใหญ่บ้านคอยกวดขันดูแลลูกบ้านที่เดินทางกลับไป“

พร้อมกันนี้จะให้กระทรวงสาธารณสุขประสานไปยังอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ช่วยดูแลด้วย ในการขนส่งบุคคลเหล่านี้ จะประสานกับนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และนายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล ผู้อำนวยการบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จัดเตรียมรถโดยสาร ผู้ขับขี่ในการไปส่งผู้ที่เดินทางจากเกาหลีใต้ให้พร้อม โดยรถที่จะไปรับต้องทำความสะอาดให้เรียบร้อย และอาจจะให้มีการโดยสารฟรีด้วย

ส่วนที่มีการเรียกร้องขอเดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้ฟรีนั้น คงต้องถามสายเอกชนก่อน เพราะจำนวนคนที่กลับมาค่อนข้างมาก ไม่เหมือนการรับประชาชนจากเมืองอู่ฮั่น ซึ่งครั้งนั้นมีผู้โดยสารเพียง 100 กว่าคนเท่านั้น

ทยอยเดินทางกลับ

แต่ทั้งหมดไม่ได้เดินทางมาวันเดียว จะทยอยเดินทางกลับมาเรื่อยๆ แต่จะใช้เวลาขนส่งเท่าไหร่ ยังตอบไม่ได้ ส่วนจะให้การบินไทยจัดเครื่องบินไปรับเลยหรือไม่ ต้องถามการบินไทยก่อนว่าไหวหรือไม่ เพราะก็รู้ๆกันอยู่ว่าสถานการณ์ของการบินไทยในขณะนี้เป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าทั้งหมดสามารถเดินทางกลับเองได้ เพราะส่วนใหญ่น่าจะตีตั๋วไป-กลับกันอยู่แล้ว โดยกระทรวงการต่างประเทศก็ดูแลพวกเขาอยู่

ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้ร่วมกับบมจ.การท่าอากาศยานไทย, กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) จัดตั้งศูนย์ปฎิบัติการฉุกเฉิน (EOC) แล้ว โดยทุก 10.00 น. ของทุกวันจะะมีการประชุมปรึกษาหารือกัน ใช้ระบบ APPS ซึ่งสามารถแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวกับผู้โดยสาร ใช้ระบบ PMR เพื่อระบุชื่อ-นามสกุล/สนามบินต้นทาง/การแวะเปลี่ยนเครื่อง/หมายเลขที่นั่ง/หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น

นายกกำชับห้ามเดินทางตปท.

“หากพบว่ามีอาการป่วย ก็จะส่งต่อให้กระทรวงสาธารณสุขนำไปรักษาได้ทันที ทั้งนี้ จะมีการเสนอในที่ประชุมวันพรุ่งนี้ให้เพิ่ม กระทรวงมหาดไทย, กรมการขนส่งทางบก และบขส.เข้ามาร่วมด้วย”

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุมครม.ให้ข้าราชการและฝ่ายการเมืองของกระทรวงคมนาคมทั้งหมด ระงับการเดินทางไปต่างประเทศในช่วงนี้ทั้งหมด ส่วนตัวเมื่อเดินทางกลัจากประเทศเกาหลีใต้เมื่อปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ก็ได้เข้ารับการตรวจร่างกายแล้วพบว่า ไม่มีอาการป่วยแต่อย่างใด

เสนอครม.เศรษฐกิจออกมาตรการอุ้มผู้ประกอบการ

ส่วนมาตรการที่จะดูแลและเยียวยาผู้ประกอบการ จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้กำชับไปยังหน่วยงานต่างๆภายในกระทรวงให้รวบรวมมาที่กระทรวง เพื่อเสนอในที่ประชุมครม.เศรษฐกิจ

เช่น ทอท.จะมีมาตรการขยายเวลาชำระหนี้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง หรือกรมการขนส่งทางบก จะมีมาตรการช่วยเหลือแท็กซี่ เช่น ให้เจรจากระทรวงพลังงานลดราคาพลังงานทั้ง NGV LPG E20 หรือเจรจากับไฟแนนซ์ในการชะลอการชำระหนี้ เป็นต้น

ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ทอท.ได้เตรียมความพร้อมสนามบินในการดูแลทั้ง 6 แห่งแล้ว โดยเที่ยวบินที่ไม่ได้มาจากประเทศที่มีความเสี่ยงจะตรวจ 2 ครั้งบริเวณขาเข้า คือบริเวณรอยต่อก่อนเข้าอาคาร และบริเวณตม.

ส่วนเที่ยวบินที่มาจากประเทศที่มีความเสี่ยง ได้ประสานกับกระทรวงสาธารณสุขนำเครื่องเทอร์โมสแกนไปตั้งที่หน้าประตูขึ้นเครื่องบิน (Gate) ส่วนขาออกจะมีเครื่องเทอร์โมสแกนเฉพาะที่สนามบินสุวรรณภูมิเท่านั้น ส่วนสนามบินอื่นๆจะใช้ที่วัดไข้ขนาดเล็กแทน