กรมทางหลวงทุ่ม 900 ล้านต่อขยาย ทล.3 ช่วงสุดท้าย 23 กม. ปิดจ็อบ พ.ย.นี้

“กรมทางหลวง” เร่งงานต่อขยาย ทล.3 ถึงบ้านคลองจาก 23 กม. เทอีก 900 ล้านสานต่อให้จบ คาดเสร็จ พ.ย.นี้ หวังบูมเขตเศรษฐกิจตราดเชื่อมการค้า “กัมพูชา”

วันที่ 16 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายประชาสัมพันธ์กรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ตามที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงและมาตรฐานความปลอดภัยในเส้นทาง พร้อมให้เร่งดำเนินโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) สายตราด-หาดเล็ก ที่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างให้เสร็จสมบูรณ์ตลอดเส้นทาง

เพื่อรองรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดตราด สนับสนุนเขตเศรษฐกิจชายแดน (Special Economic Zone : SEZ) รองรับการขยายตัวของเมืองและแก้ไขปัญหาการจราจร เนื่องจากจังหวัดตราดได้รับการจัดตั้งให้พัฒนาเป็นหนึ่งในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษในระยะแรก โดยตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการค้าการขนส่งต่อเนื่องระหว่างประเทศและเป็นศูนย์กลางการบริการด้านการท่องเที่ยวระดับภูมิภาค อีกทั้งยังเป็นประตูการค้าชายแดน มีด่านการค้าบ้านหาดเล็ก ซึ่งมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กระจายสินค้า สามารถเชื่อมโยงกับเขตเศรษฐกิจพิเศษเกาะกง ราชอาณาจักรกัมพูชา

โดยที่ผ่านมากรมทางหลวงได้ขยายเส้นทางดังกล่าวเป็น 4 ช่องจราจรแล้วเสร็จระยะทางรวม 65.550 กม. ซึ่งขณะนี้คงเหลือช่วงสุดท้าย ตอนทางแยกเข้า ต.ไม้รูด-บ.คลองจาก ระยะทางประมาณ 23.450 กิโลเมตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจึงผลักดันให้แล้วเสร็จภายในปี 2564 ซึ่งหากโครงการแล้วเสร็จจะเสริมสร้างโครงข่ายทางหลวงให้สมบูรณ์ตลอดเส้นทาง 89 กม.

กรมทางหลวงรับมอบนโยบายดังกล่าว โดยสำนักก่อสร้างทางที่ 2 เร่งดำเนินโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) สายตราด-หาดเล็ก ตอนทางแยกเข้า ต.ไม้รูด-บ.คลองจาก จุดเริ่มต้นโครงการ กม.454+390 (กม.เก่า กม.55+300)-กม.477+840 (กม.เก่า กม.78+750) ระยะทางประมาณ 23.450 กม. ซึ่งผ่านพื้นที่อำเภอเมืองตราด และอำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ก่อสร้างเป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษ 4 ช่องจราจร ผิวทาง Asphalt Concrete Surface กว้างช่องละ 3.50 เมตร ไหล่ทางด้านนอกกว้าง 2.50 เมตร รวมงานก่อสร้างสะพานคอนกรีตอีก 7 แห่ง และก่อสร้างศาลาทางหลวงในบริเวณสองข้างทางเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนจำนวน 11 แห่ง พร้อมติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างตลอดเส้นทาง งบประมาณ 985,471,490 บาท ปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้าประมาณ 85% คาดว่าจะก่อสร้างจะแล้วเสร็จประมาณเดือนพฤศจิกายน 2564 นี้

ทั้งนี้ เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จจะเป็นเส้นทางที่มีความสำคัญด้านการสัญจรของประชาชนในพื้นที่ ส่งเสริมการขนส่งสินค้า การท่องเที่ยว และเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างประเทศไทยกับราชอาณาจักรกัมพูชา ที่มีอัตราการเพิ่มของปริมาณรถสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมของจังหวัดตราด รวมถึงช่วยสนับสนุนโครงการพัฒนาระเบียบเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของประเทศไทยอีกด้วย