กรมทรัพยากรน้ำ จัดงานวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก ประจำปี 2566 เน้นทุกภาคส่วนร่วมสร้างความตระหนักในการฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำ

กรมทรัพยากรน้ำ

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดงานวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลกประจำปี พ.ศ. 2566 ณ วัดคงคาราม (วัดบน) ตำบลบางปะกง อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อให้เกิดการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักเกี่ยวกับความสำคัญของการฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำในวงกว้าง

โดย นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เผยว่า สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติประกาศให้เป็นวันของการเฉลิมฉลองและรำลึกถึงการลงนามอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ หรืออนุสัญญาแรมซาร์ ที่จัดขึ้น ณ เมืองแรมซาร์ ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2514 ดังนั้น วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ของทุกปี จึงถือเป็นวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก โดยมีกรอบแนวคิดและหัวข้อสำหรับการรณรงค์ฯ คือ “ถึงเวลาแล้วสำหรับการฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำ” หรือ “It’s time for wetland restoration”

ปัจจุบันสถานการณ์พื้นที่ชุ่มน้ำทั่วโลกหลายแห่งมีความเสื่อมโทรมและถูกบุกรุกคุกคามจากการพัฒนาของสังคมมนุษย์ในรูปแบบต่าง ๆ ส่งผลให้พื้นที่ชุ่มน้ำถูกทำลายลง โดยปราศจากความตระหนักรู้ถึงคุณค่าและความสำคัญ ความเสื่อมโทรมเหล่านี้เองเป็นสาเหตุให้เกิดความสูญเสียอื่นๆ ตามมาในอนาคต ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนจะต้องลงมือทำเพื่อการฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำเหล่านั้น กรมทรัพยากรน้ำ ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจด้านพื้นที่ชุ่มน้ำ ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2565 มีบทบาทหลักในการดำเนินการเกี่ยวกับอนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ และมีหน้าที่ในการกำกับ ดูแล และเสนอแนะมาตรการ หลักเกณฑ์ รวมถึงวิธีการเพื่อการอนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรน้ำสาธารณะและพื้นที่ชุ่มน้ำ อีกทั้ง ยังมีสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 1 – 11 ที่ประจำอยู่ในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานในพื้นที่ต่อไป”

นายวิชา นรังศรี ประธานมูลนิธิพื้นที่ชุ่มน้ำไทย ให้ข้อมูลว่า จัดเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำชายฝั่งทะเลที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับชาติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2552 โดยแม่น้ำบางปะกงเกิดจากการไหลมาบรรจบกันของลำน้ำใหญ่ 2 สาย คือ แควหนุมานและคลองพระปรง ส่งผลให้ชุมชนริมน้ำสองฟากฝั่งมีทรัพยากรน้ำ ทรัพยากรพืชและสัตว์น้ำ ที่เป็นสาธารณะมาใช้เพื่อการอุปโภค บริโภค และประกอบอาชีพในด้านต่าง ๆ อย่างสมบูรณ์ แต่ปัจจุบันการพัฒนาด้านต่าง ๆ ส่งผลให้แม่น้ำบางปะกง เกิดเหตุการณ์น้ำเสียปีละหลายครั้ง และเกิดเป็นประจำทุกปี ส่งผลให้ชนิดและประชากรสัตว์น้ำลดลงอย่างต่อเนื่องจนขาดศักยภาพในการฟื้นฟูตัวเองให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิม ดังนั้น ความร่วมมือจากคนในชุมชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจึงเป็นความหวังที่สำคัญที่จะสามารถฟื้นฟูแม่น้ำบางปะกงให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิมได้อีกครั้ง

สำนักงานเลขาธิการอนุสัญญาแรมซาร์ ระบุถึงพื้นที่ชุ่มน้ำทั่วโลกที่ถูกทำลายไว้ว่า ปัจจุบันมีพื้นที่มากกว่า 35% ถูกทำลายตลอดระยะเวลา 50 ปี การสูญเสียมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ถึงเวลาแล้วที่ทุกภาคส่วนจะร่วมกันสร้างความตระหนักและลงมือทำเพื่อก่อให้เกิดปรากฎการณ์ระลอกคลื่นที่แผ่ออกไป สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดการร่วมกันฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำของทุกภาคส่วนต่อไป

สำหรับกิจกรรมภายในงาน อาทิ การสัมมนาเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “การอนุรักษ์ ฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำ และลำน้ำสาขา” แก้ปัญหาโดยใช้ธรรมชาติเป็นพื้นฐาน มีวิทยากรร่วมให้ความรู้และแลกเปลี่ยนมุมมองจากกรมทรัพยากรน้ำ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ มูลนิธิพื้นที่ชุ่มน้ำไทย และตัวแทนภาคีเครือข่ายบางปะกง กิจกรรมการสร้างความตระหนักในการฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำ เช่น การสร้างบ้านปลา การปล่อยพันธุ์ปลาและพันธุ์ปูท้องถิ่นลงแม่น้ำบางปะกง การปลูกป่าชายเลน เก็บขยะริมฝั่งน้ำบางปะกง มีการจัดนิทรรศการฟื้นฟูพื้นที่ชุ่มน้ำ อาทิ กรมทรัพยากรน้ำ และตัวอย่างพื้นที่ชุ่มน้ำที่กรมทรัพยากรน้ำร่วมอนุรักษ์ฟื้นฟู อาทิ พื้นที่ชุ่มน้ำบึงสีไฟ จ.พิจิตร พื้นที่ชุ่มน้ำหนองหาน กุมภวาปี จ.อุดรธานี พื้นที่ชุ่มน้ำหนองหาร จ.สกลนคร เป็นต้น