รูัจักปัญหากรามใหญ่ ปรับรูปหน้าอย่างไรช่วยให้หน้าเรียวได้?

รู้จักปัญหากรามใหญ่

ใบหน้าสวยงามส่วนหนึ่งมาจากโครงสร้างใบหน้าที่เล็กและเรียว แต่เนื่องจากรูปหน้าของแต่ละคนมีความแตกต่างกันตามลักษณะพันธุกรรม เชื้อชาติ ซึ่งจะส่งผลต่อลักษณะโครงใบหน้า โดยเฉพาะชาวเอเชียที่มีสัดส่วนใบหน้าส่วนล่างใหญ่กว่าส่วนบน ใบหน้าจึงดูเหลี่ยม ส่วนที่ทำให้ใบหน้าดูเหลี่ยมคือกรามที่มีขนาดใหญ่ และอีกหนึ่งสาเหตุของกรามที่มีขนาดใหญ่ก็มาจากการรับประทานอาหาร
ทำให้กล้ามเนื้อและไขมันบริเวณกรามมีขนาดใหญ่ขึ้น

กรามใหญ่ เกิดจากอะไร ?

กรามใหญ่ เกิดจากลักษณะของกระดูกกรามที่มีขนาดใหญ่กว่ากะโหลกส่วนบนหรือเกิดจากคนที่มีกล้ามเนื้อและไขมันสะสมอยู่บริเวณกรามมาก แต่เพื่อให้เราทราบถึงที่มาของกรามใหญ่จึงได้จำแนกสาเหตุของกรามใหญ่ไว้ดังต่อไปนี้

พันธุกรรม เกิดจากลักษณะทางพันธุกรรม พบมากในชาวเอเชีย จึงมีกระดูกกรามใหญ่

การเจริญเติบโตของกระดูก เกิดจากอัตราการเจริญเติบโตกระดูกดีมาก กระดูกกรามจึงใหญ่ไปด้วย

กล้ามเนื้อกรามมาก เกิดจากการรับประทานอาหารที่แข็งและเหนียวทำให้ร่างกายสร้างกล้ามเนื้อมาก

ไขมันสะสมบนใบหน้า เกิดจากการสะสมของไขมันบริเวณใบหน้าจากการทานอาหารที่มีไขมัน

อ่านบทความเพิ่มเติม กรามใหญ่ สาเหตุเกิดจากอะไร แก้ด้วยวิธีไหน ได้ผลและไม่ได้ผลกับใครบ้าง?

กรามใหญ่มีกี่ประเภท ลักษณะเป็นอย่างไร?

กรามใหญ่แก้มเยอะ เกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างกระดูกขากรรไกรและการรับประทานที่มีไขมันสูงจนสะสมบริเวณแก้ม ทำให้ใบหน้ามีลักษณะใหญ่และอูมคล้ายผลแตงโมทำให้แก้มป่อง หน้าอ้วน

กรามใหญ่หน้าเหลี่ยม เกิดจากพันธุกรรมที่สืบทอดกันมา จึงทำให้โครงสร้างกระดูกขากรรไกรใหญ่ ทำให้โครงหน้าดูเหลี่ยม หากสุภาพบุรุษมีโครงหน้าแบบนี้ทำให้ดูดี แต่หากเกิดกับสุภาพสตรีจะทำให้ใบหน้าดูไม่อ่อนหวาน

กรามใหญ่ โหนกแก้มสูง เกิดจาก 2 สาเหตุ สาเหตุแรกเกิดจากพันธุกรรม อันเนื่องมาจากเกิดการยุบตัวของกระดูกรอบโหนกแก้มมากกว่าปกติทำให้กระดูกบริเวณโหนกแก้มดูยกสูงขึ้นจนเห็นกรามอย่างเด่นชัด และสาเหตุที่สองเกิดจากการมีอายุที่มากขึ้นส่งผลให้การสร้างคอลลาเจนมีประสิทธิภาพลดลง ทำให้บริเวณแก้มเกิดการยุบตัวจนเห็นกรามได้อย่างชัดเจน

กรามใหญ่ข้างเดียว เกิดจากการ 2 สาเหตุได้แก่ พันธุกรรมที่ทำให้กระดูกส่วนกรามโตมากเพียงข้างเดียวอย่างผิดปกติ ทำให้กรามทั้งสองข้างไม่เท่ากัน และอีกสาเหตุหนึ่งเกิดจากการคนที่มีนิสัยชอบเคี้ยวอาหารเพียงข้างเดียวประจำจนทำให้กรามใหญ่และไม่เท่ากัน

กรามใหญ่คางสั้น เกิดจากพันธุกรรมที่ส่งผลให้กระดูกกรามใหญ่ และระยะระหว่างปลายคางกับริมฝีปากล่างใกล้กันมากจนเห็นได้ชัดหรือกระดูกคางสั้น ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ใบหน้าดูกลมไม่เรียวงาม

วิธีแก้ไขปัญหากรามใหญ่มีอะไรบ้าง?

วิธีการแก้ไขกรามใหญ่ที่นำมาเสนอในวันนี้คือวิธีการที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน การเลือกแต่ละวิธี ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาลักษณะกรามที่มีขนาดใหญ่แต่ละประเภท งบประมาณที่ต้องจ่าย ระยะเวลาที่มีไม่เพียงพอต่อการรักษา และความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพหรือกังวลอาการเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นจากการรักษา วันนี้เราจึงรวบรวมวิธีการรักษากรามใหญ่ไว้ในหัวข้อนี้ทั้งหมดดังต่อไปนี้

  1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร

การรับประทานอาหารที่แข็งและเหนียวเป็นประจำจะทำให้เราออกแรงเคียวมากขึ้น เสมือนเป็นการบริหารกล้ามเนื้อของนักกล้าม จึงทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามมีขนาดใหญ่ขึ้น และยิ่งคนที่มีกระดูกกรามใหญ่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วจะยิ่งทำให้กรามใหญ่มากขึ้นอีก การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร จะช่วยลดการใช้กล้ามเนื้อบริเวณกรามลง ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามหดตัวลง

  1. โบท็อกกราม

การฉีดโบท็อกลดกรามเหมาะสำหรับกรามที่มีกล้ามเนื้อบริเวณกรามมาก การสังเกตกรามของเรามีกรามเนื้อมากหรือไม่ ให้เรากัดกรามแล้วคลำบริเวณกรามเพื่อหาก้อนเนื้อ หากพบก้อนเนื้อสามารถใช้วิธีโบท็อกแก้ปัญหากรามใหญ่ได้ ด้วยคุณสมบัติของโบท็อกที่ถูกฉีดเข้ากล้ามเนื้อ จะทำให้กล้ามเนื้อกลายเป็นอัมพาตชั่วคราว จากนั้นกล้ามเนื้อจะหยุดทำงานจนค่อยๆฝ่อและยุบตัวลงไป หากฉีดโบท็อกกรอบหน้าร่วมกันกับฉีดโบท็อกกราม ก็จะทำให้กรอบหน้าเรียวงามชัดเจนมากยิ่งขึ้น

  1. ทำ RF ใบหน้า

การทำ RF หรือ Radio-Frequency คือการยิงคลื่นเสียงจากเครื่องกำเนิดคลื่นเสียง ไปยังใบหน้าเพื่อกำจัดเซลลูไลท์ที่สะสมบนใบหน้า สาเหตุของใบหน้าหย่อนคล้อยจนทำให้กรามดูใหญ่ ให้กลับมายกกระชับขึ้นจนใบหน้ามีรูปทรงที่เรียวงาม แต่วิธีนี้จะใช้แก้ปัญหากรามใหญ่ที่เกิดจากกระดูกกรามหรือกล้ามเนื้อไม่ได้

  1. ฉีดฟิลเลอร์คาง

การฉีดฟิลเลอร์คางเป็นวิธีการแก้ปัญหากรามใหญ่ทางอ้อม ฉีดเพื่อลดความเด่นของกรามสำหรับคนที่มีกรามไม่ใหญ่มาก แต่มีโครงหน้าส่วนบนอ้วนกลมและใบหน้าส่วนล่างดูเหลี่ยม เป็นการปรับโครงสร้างใบหน้าโดยการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปที่บริเวณคางเพื่อให้คางยาวขึ้น ใบหน้าเรียวยาวมากขึ้น

  1. ร้อยไหมดึงแก้ม

เป็นการแก้ปัญหาของกรามใหญ่ที่ไม่ได้เกิดจากกรามโดยตรง แต่เกิดจากผิวหนังบริเวณแก้มหย่อนคล้อยตามแรงโน้มถ่วง จนตกลงมาบริเวณกรามทำให้ใบหน้าเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม การร้อยไหมจะช่วยดึงผิวหนังบริเวณแก้มบนมุมปากให้ยกขึ้นจนใบผิวหน้ากระชับเข้ารูป

  1. การผ่าตัดกราม

การผ่าตัดกรามถือเป็นการแก้ปัญหากรามใหญ่จากพันธุกรรมตั้งแต่กำเนิด โดยแพทย์ผ่าตัดเฉพาะทาง การผ่าตัดกรามจึงถือว่าเป็นการแก้ปัญหากรามใหญ่อย่างถาวร โดยแพทย์จะมีวิธีการผ่าตัดกรามอยู่ 2 ลักษณะคือ ผ่าตัดเปิดบาดแผลภายในช่องปาก และผ่าตัดเปิดบาดแผลภายนอกช่องปาก จากนั้นแพทย์จะฉีดยาชาและใช้อุปกรณ์ตัดกระดูกกรามออก โดยเหลือกระดูกกรามส่วนเกินเพียงเล็กน้อยให้ใกล้เคียงกับรูปแบบกรามที่เราต้องการ เพื่อทำการกรอเก็บรายละเอียดจนได้รูปทรงที่ต้องการ จึงเย็บปิดบางแผล ซึ่งภายหลังการผ่าตัดคนไข้จะมีอาการเจ็บปวดมากจึงต้องใช้เวลาพักฟื้นและดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้บาดแผลหายตามกำหนดและลดโอกาสการติดเชื้อ จึงเป็นวิธีแก้ไขปัญหากรามใหญ่ที่มีข้อปฏิบัติก่อนและหลังผ่าตัดเป็นจำนวนมาก

  1. นวดหน้าลดกราม

การนวดหน้าลดกรามคือวิธีการใช้แรงจากการนวดเพื่อปรับโครงสร้างของกระดูกและกล้ามเนื้อบริเวณกรามให้ไปตามแนวแรงที่กำหนด เพื่อให้ได้โครงสร้างใบหน้าที่เรียวและงดงาม วิธีนี้จึงต้องอาศัยระยะเวลาและต้องทำอย่างสม่ำเสมอ และมีข้อควรระวังในเรื่องของแรงที่ใช้ในการนวด หากทำโดยผู้ที่ขาดประสบการณ์ อาจเกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบและเกิดอาการเคล็ดได้

โบท็อกคืออะไร?

โบท็อก (BOTOX)  หรือ โบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin) เป็นสารสกัดในรูปแบบโปรตีนจากแบคทีเรียสายพันธุ์เฉพาะที่ชื่อว่า คลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) และถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมความสวยความงาม มีทั้งหมด 7 ชนิด โดยเริ่มตั้งแต่ โบทูลินั่ม ท็อกซิน ชนิด เอ (botulinum toxin type A) จนถึง โบทูลินั่ม ท็อกซิน ชนิด จี (botulinum toxin type G) จัดเป็นสารที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) ทำให้กล้ามเนื้อเป็นอัมพาตชั่วคราว

โบท็อกกรามคืออะไร?

โบท็อกกราม คือใช้สารสกัดในรูปแบบโปรตีนจากแบคทีเรียคลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) เฉพาะชนิด โบทูลินั่ม ท็อกซิน ชนิด เอ (botulinum toxin type A) ที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทยว่ามีความปลอดภัย ด้วยคุณสมบัติของโบท็อกที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามเป็นอัมพาตชั่วคราว จึงถูกนำมาฉีดเข้าบริเวณกล้ามเนื้อกรามที่มีขนาดใหญ่โดยตรง ในปริมาณที่เหมาะสม นั้นหมายความว่ากล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวจะหยุดทำงานและค่อยๆ ฝ่อ ผลจากกล้ามเนื้อกรามที่ฝ่อ จะทำให้กรามที่มีขนาดใหญ่ค่อยๆ ยุบตัวลงจนเกิดใบหน้าเรียวงามได้รูป

โบท็อกมียี่ห้ออะไรบ้าง

ปัจจุบันโบท็อกถูกผลิตเพื่อนำมาใช้ในอุตสาหกรรมความสวยความงามหลากหลายยี่ห้อ เราจึงต้องเลือกใช้โบท็อกของแท้มีคุณภาพ ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และเป็นยี่ห้อมีประสิทธิภาพสูงในการแก้ไขปัญหากรามใหญ่

  1. Allergan โบท็อกจากประเทศอเมริกา เป็นแบรนด์แรกที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA: United States Food and Drug Administration) เป็นโบท็อกที่มีความบริสุทธิ์ถึง 99.5% จุดเด่นคือออกฤทธิ์ได้เต็มประสิทธิภาพและยาวนานที่สุด เหมาะสำหรับฉีดเพื่อลดกรามปรับรูปหน้าและแก้ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า
  2. Dysport โบท็อกซ์จากประเทศอังกฤษ มียูนิตที่เฉพาะของตัวเอง จุดเด่นคือสามารถกระจายตัวได้ดีในชั้นผิว จึงเหมาะกับการฉีดลดกราม ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว ลดต้นแขน ลดน่อง และฉีดยกกระชับผิวบนใบหน้าทำให้ใบหน้าดูมีความเป็นธรรมชาติ
  3. Xeomin โบท็อกจากประเทศเยอรมัน จุดเด่นคือการใช้เทคโนโลยี XTRACT Technology™ ทำให้โมเลกุลของโบท็อกมีขนาดที่เล็กลง และสามารถกำจัดโปรตีนส่วนเกินออกจากโบท็อกจึงทำให้โบท็อกยี่ห้อนี้เห็นผลได้อย่างรวดเร็วและยาวนาน และยังช่วยลดโอกาสการดื้อ
    โบท็อกได้ดีอีกด้วย
  4. Nabota โบท็อกจากประเทศเกาหลี ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ (FDA: United States Food and Drug Administration) มีค่าความบริสุทธิ์ของตัวยาอยู่ที่ 98.7% จุดเด่นคือเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว เหมาะกับการลดกรามและริ้วรอยแบบเร่งด่วน นอกจากนั้นยังมีจุดเด่นในของราคาที่ถูกกว่าโบท็อกจากฝั่งอเมริกา อังกฤษ และเยอรมัน จึงทำให้โบท็อกซ์ยี่ห้อนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย
  5. Aestox โบท็อกจากประเทศเกาหลี มีความบริสุทธิ์สูง จึงมีโอกาสดื้อโบท็อกน้อย จุดเด่นคือผลลัพธ์ที่ได้ ดูเป็นธรรมชาติเมื่อเทียบกับในกลุ่มโบท็อกจากประเทศเกาหลี เหมาะสำหรับการใช้ปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย ฉีดแล้วเห็นผลไว แต่มีข้อเสียคือจะมีระยะการเห็นผลที่สั้นกว่าโบท็อกยี่ห้ออื่นๆ

ฉีดโบท็อกลดกรามต้องฉีดกี่ยูนิต?

โดยปกติแล้วปริมาณที่เหมาะสมสำหรับการฉีดโบท็อกจะอยู่ที่ 20-30 ยูนิยต่อกราม 1 ข้าง แต่หากจะให้การรักษาเห็นผลควรปรึกษาแพทย์เนื่องจากปัญหาของกรามของแต่ละคนต่างกัน จึงทำให้การคำนวณปริมาณโบท็อกที่จะใช้ฉีดต่างกัน