หากพูดถึง “แฟ้มสะสมผลงาน” (Portfolio) เชื่อว่าคนทำงานส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าเหมาะสำหรับคนในสายงานครีเอทีฟหรือกราฟิกเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงทุกสายงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่เพิ่งเรียนจบและกำลังหางาน “แฟ้มสะสมผลงาน” ถือเป็นสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญไม่น้อย
เพราะอย่าลืมว่าคุณเพิ่งเริ่มต้นทำงาน ฉะนั้น คุณอาจจะยังไม่มีผลงานหรือประสบการณ์มากพอที่จะทำให้องค์กรสนใจในตัวคุณ ยิ่งเมื่อคุณถูกเรียกเข้าไปสัมภาษณ์ด้วยแล้ว แฟ้มสะสมผลงานจะเป็นเครื่องช่วยยืนยันได้ว่าคุณมีความน่าสนใจและเหมาะสมกับตำแหน่งงานที่สมัครมากน้อยแค่ไหน
- มอเตอร์โชว์ 2024 เริ่มแล้ว
- บัตรเครดิตซิตี้ ย้ายไป UOB บัตรประเภทไหน เปลี่ยนแปลงอย่างไร
- คำแนะนำจาก ซีอีโอ “ฮั่วเซ่งเฮง” ยุคทอง (โคตร) แพง ต้องลงทุนอย่างไร ?
อีกทั้งยังสามารถบ่งบอกถึงทักษะ ความคิดสร้างสรรค์ และตัวตนของคุณให้องค์กรได้เห็นเป็นอย่างดีอีกด้วย
“แสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์” ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการเว็บไซต์จ๊อบไทยดอทคอม (JobThai.com) ในฐานะผู้คร่ำหวอดในธุรกิจการหางานและสมัครงานมากว่า 17 ปี จึงแนะนำเทคนิคดีๆ สำหรับ 5 ภาพที่ต้องมีในแฟ้มสะสมผลงาน สำหรับมือใหม่หางาน ดังนี้
· เล่าชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยด้วยภาพกิจกรรม – เช่น เคยเป็นประธานรุ่น-ประธานเชียร์ เคยเข้าร่วมกิจกรรมในชมรม รวมถึงการแสดงในวันสำคัญต่างๆ เป็นต้น
เพื่อแสดงให้องค์กรเห็นว่าคุณมีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับผู้อื่น รู้จักการทำงานเป็นทีม ซึ่งเหล่านี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีในโลกการทำงาน
· บอกความสามารถด้วยภาพตอนได้รับรางวัล หรือภาพผลงานที่ประทับใจ – ภาพรางวัลหรือผลงานที่เลือกมาใส่ในแฟ้มสะสมผลงาน ควรเลือกผลงานเด่นๆ ที่คุณภาคภูมิใจมากที่สุด ถ้าเป็นไปได้ควรเป็นผลงานที่สอดคล้องกับตำแหน่งที่ต้องการสมัคร
ส่วนนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำแฟ้มสะสมผลงาน เพราะเป็นส่วนที่คุณจะได้นำเสนอและโน้มน้าวใจให้องค์กรเห็นว่าคุณมีทักษะความสามารถมากเพียงใด เหมาะสมกับตำแหน่งที่คุณสมัครหรือไม่
และถึงแม้ว่าผลงานของคุณอาจจะไม่เคยได้รับรางวัลอะไรเลยก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ยังแสดงให้เห็นว่าคุณมีความสนใจ และมีความมุ่งมั่นในการทำสิ่งดังกล่าว
· สะท้อนตัวตนด้วยภาพตอนทำกิจกรรมนอกรั้วมหาวิทยาลัย – เช่น การทำกิจกรรม CSR การไปเข้าค่ายหรือไปทัศนศึกษา เป็นต้น ซึ่งส่วนนี้จะแตกต่างกับภาพการทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัยตรงที่ต้องการแสดงให้องค์กรเห็นว่าคุณมีปฏิสัมพันธ์กับโลกภายนอกอย่างไรบ้าง เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมหรือต้องพบเจอบุคคลที่ไม่คุ้นเคย คุณมีวิธีการวางตัวอย่างไร สามารถปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่นได้หรือไม่
· บอกเล่าประสบการณ์ด้วยภาพตอนฝึกงาน – ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นภาพการฝึกงานที่เกี่ยวข้องกับสายงานที่สมัครเท่านั้น แม้กระทั่งการทำงานพาร์ทไทม์ตามร้านสะดวกซื้อก็สามารถหยิบมาใส่ในประวัติส่วนนี้ได้ ยิ่งคุณมีประสบการณ์ในการฝึกงานหรือทำงานพาร์ทไทม์มากเท่าไหร่ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อตัวคุณเอง
เพราะองค์กรจะได้เห็นว่าคุณมีประสบการณ์จากการทำงานมาบ้างแล้ว อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความเตรียมพร้อมและความกระตือรือร้นที่จะก้าวเข้าสู่โลกแห่งการทำงานอย่างแท้จริง
· บอกเล่าตัวตนด้วยภาพงานอดิเรก หรือความสามารถพิเศษ – ในส่วนนี้แนะนำให้โชว์ความสามารถพิเศษที่คนทั่วไปมีอยู่น้อยเพื่อสร้างความโดดเด่นและน่าสนใจมากขึ้น เช่น การเป็นพิธีกร
แต่ถ้าไม่มีก็เป็นความสามารถพิเศษทั่วๆไป เช่น ร้องเพลง เล่นดนตรี เล่นกีฬา หรืองานอดิเรกยามว่างของคุณก็สามารถนำมาเสริมให้เข้ากับสายงานที่สมัครได้ เช่น ชอบถ่ายภาพ อ่านหนังสือ เขียนบทความออนไลน์ ก็จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการสมัครงานทางด้านนักเขียน เป็นต้น
“นอกเหนือจากเทคนิคการเลือกภาพประกอบในแฟ้มสะสมผลงานที่กล่าวมาข้างต้น สิ่งสำคัญที่ห้ามลืมในการทำแฟ้มสะสมผลงานคือ การเรียบเรียงเนื้อหาให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายและกระชับ ด้วยการแบ่งประเภทของผลงานในแต่ละส่วนให้ชัดเจน”
“นอกจากนี้ ควรใส่ความเป็นตัวตนลงไปอย่างสร้างสรรค์ผ่านคอนเซ็ปต์ การเล่าเรื่อง การจัดวางข้อมูลในแฟ้มสะสมผลงาน และเพื่อให้องค์กรสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลของคุณ อย่าลืมเตรียมไฟล์ผลงานให้อยู่ในรูปแบบออนไลน์ พร้อมย่อขนาดไฟล์เพื่อให้ส่งผ่านอีเมลได้ง่าย ซึ่งเทคนิคเหล่านี้จะช่วยทำให้คุณดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น”