ในหลวง พระราชทานทุนการศึกษา บุคลากร นักเรียนวชิราวุธวิทยาลัย 

ในหลวง พระราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งไปพระราชทานทุนการศึกษ ณ หอประชุมวชิราวุธวิทยาลัย เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 17.45 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปพระราชทานประกาศนียบัตร ทุนการศึกษา และรางวัลแก่นักเรียน และบุคลากรวชิราวุธวิทยาลัย ประจำปีการศึกษา 2562 – 2564 ณ หอประชุมวชิราวุธวิทยาลัย เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร

ทรงวางพานพุ่มดอกไม้และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จากนั้นเสด็จไปยังหอประชุมวชิราวุธวิทยาลัย ทรงฉลองพระองค์ครุยองค์บรมราชูปถัมภกวชิราวุธวิทยาลัย นักเรียนร้องเพลงมหาวชิราวุธราชสดุดีสรรเสริญพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

ศาสาตราจารย์นายแพทย์เกษม วัฒนชัย นายกกรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัย กราบบังคมทูลถวายรายงานกิจการทั่วไปของโรงเรียน และพระราชทานเข็มเพชร แก่กรรมการอำนวยการวชิราวุธวิทยาลัยที่ครบวาระ เสื้อครุยอาจารย์ แก่กรรมการอำนวยการฯ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งใหม่ จำนวน 13 ราย โล่เกษียณอายุ เข็มเพชรและครุยอาจารย์ แก่บุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่และทำการสอนสนองพระเดชพระคุณครบตามกำหนดเวลาจำนวน 27 ราย และพระราชทานของที่ระลึกแก่ผู้ช่วยเหลือกิจการโรงเรียน จำนวน 1 ราย

การนี้ พระราชทานพระราชวโรกาสให้บุคลากรใหม่จำนวน 35 รายเข้าเฝ้าฯ ถวายตัว จากนั้นพระราชทานประกาศนียบัตรแก่นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาประจำปีการศึกษา 2562 – 2564 จำนวน 168 ราย  พระราชทานรางวัลเรียนดีและทุนการศึกษาแก่นักเรียนจำนวน 81 ราย พระราชทานรางวัลชนะเลิศการแข่งขันกีฬาและการแข่งขันระเบียบแถว จำนวน 9 ราย

โอกาสนี้พระราชทานพระบรมราโชวาท จบแล้ว นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ร้องเพลง Graduates Song Goodbye และนักเรียนทุกคนร้องเพลง “อีกสี่สิบปี”

จากนั้นพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ร่วมเข็นรถพระที่นั่งส่งเสด็จตามประเพณีที่ได้ปฏิบัติมาตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ด้วยทรงประจักษ์ในความจงรักภักดีของนักเรียนจึงมีพระราชดำริให้รักษาประเพณีนี้ไว้จวบจนปัจจุบัน