
คณะนักวิทยาศาสตร์จีน ค้นพบหลักฐานใหม่ที่ได้จากยานสำรวจ จู้หรง ยืนยันว่าดาวอังคารในอดีตเคยมีน้ำอยู่ และมีแร่ธาตุที่มีโมเลกุลของน้ำ ที่แอ่งดาวอังคาร
วันที่ 13 พฤษภาคม 2565 สำนักข่าว ซินหัว รายงานว่า ผลการศึกษาจากวารสารไซเอนซ์ แอดวานซ์ (Science Advances) วันที่ 12 พ.ค.2022 เผยว่าแอ่งขนาดใหญ่บนดาวอังคารเคยมีน้ำสถานะของเหลวในยุคแอมะซอน (Amazonian epoch) ซึ่งเป็นยุคทางธรณีวิทยาล่าสุดของดาวอังคาร
การค้นพบจากการสำรวจของยานจู้หรง (Zhurong) ได้เพิ่มสัญญาณบ่งชี้ว่าดาวอังคารมีน้ำอยู่จริง ซึ่งบอกเป็นนัยว่ากิจกรรมเกี่ยวกับน้ำในสถานะของเหลวอาจคงอยู่บนดาวอังคารนานกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้มาก

การศึกษาเสริมว่าปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวมีแหล่งกักเก็บน้ำในรูปแบบแร่ธาตุที่มีโมเลกุลของน้ำเป็นส่วนประกอบและน้ำแข็งบนพื้นผิวจำนวนมาก การค้นพบนี้อาจนำไปใช้ประโยชน์ระหว่างการปฏิบัติภารกิจบนดาวอังคารในอนาคต

คณะนักวิจัยที่นำโดยนักวิจัยจากศูนย์วิทยาศาสตร์อวกาศแห่งชาติจีน สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน ใช้ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะตะกอนและแร่ธาตุทางตอนใต้ของยูโทเปีย พลานิเทีย (Utopia Planitia) ที่ราบขนาดมหึมาทางซีกเหนือของดาวอังคาร

คณะนักวิจัยอธิบายว่าหินสีสดใสที่กล้องของจู้หรงบันทึกภาพได้เป็น “ชั้นแข็ง” (duricrust) ซึ่งอาจถูกปั้นขึ้นโดยน้ำในสถานะของเหลวปริมาณมาก และบางทีอาจเป็นน้ำบาดาลที่พุ่งขึ้นหรือน้ำแข็งใต้ผิวดินที่ละลาย
ผลการศึกษาระบุว่าเปลือกแร่ซัลเฟตที่เป็นของแข็งนั้นแตกต่างจากชั้นแข็งที่บางและอ่อนกว่า ซึ่งสำรวจพบโดยยานสำรวจดาวอังคารลำอื่นๆ และอาจก่อตัวขึ้นจากการปฏิกิริยาของไอน้ำ
ผลการศึกษาของจีนอีกฉบับหนึ่งที่ตีพิมพ์ในวารสารเนเจอร์ จีโอไซแอนซ์ (Nature Geoscience) เมื่อเดือนมีนาคม 2022 เปิดเผยว่าบริเวณที่จู้หรงลงจอดนั้นอาจเคยประสบภาวะถูกกัดเซาะจากลมและน้ำ

วันเดียวกัน บีบีซีไทย รายงานถึงกระแสผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์แพลตฟอร์มต่าง ๆ พากันถกเถียงถึงภาพถ่ายน่าพิศวงของภูมิประเทศบนดาวอังคาร ซึ่งหุ่นยนต์ตระเวนสำรวจคิวริออซิที (Curiosity Rover) ขององค์การนาซาบันทึกภาพไว้ได้ เมื่อวันที่ 7 พ.ค.2022 ซึ่งก้อนหินบางส่วนในภาพนี้ดูเหมือนกับประตูทางเข้าสถานที่ลับสักแห่งไม่มีผิด
การก่อตัวของหินรูปทรงประหลาดที่เนินเขาบนดาวอังคาร ทำให้ผู้คนพากันจินตนาการว่ามันอาจเป็นทางเข้าฐานลับ วิหารประกอบพิธีทางศาสนา หรือสุสานใต้ดินของเอเลียนก็เป็นได้

ประตูปริศนาดังกล่าวเป็นภาพที่บันทึกได้จากภูเขาชาร์ป (Mount Sharp) ภายในแอ่งหลุมเกล (Gale Crater) ซึ่งหุ่นยนต์คิวริออซิทีทำการสำรวจในหลายจุดมาตั้งแต่ปี 2012
แม้องค์การนาซาซึ่งเป็นผู้เผยแพร่ภาพดังกล่าว ยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเพิ่มเติมในเรื่องนี้ แต่มีผู้ใช้เว็บไซต์เรดดิตบางรายสันนิษฐานว่า “ประตูเอเลียน” อาจเป็นเพียงรอยแตกเฉือน ในโครงสร้างของชั้นหิน ซึ่งเกิดจากแรงบีบให้แน่นตึง หรือการเปลี่ยนรูปร่างของหินเมื่อมีแรงภายนอกมากระทำ ซึ่งอาจเป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรงบนดาวอังคาร ซึ่งนาซาเพิ่งตรวจพบการสั่นสะเทือนในขนาดหรือแมกนิจูดระดับสูงสุดเท่าที่เคยพบมา เมื่อวันที่ 4 พ.ค.นี้เอง