อุตสาหกรรมความงาม และเครื่องสำอาง เป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ให้กับประเทศ และยังเป็นฮับในการผลิตเครื่องสำอางที่สำคัญ รวมทั้งมีอัตราการเจริญเติบโตมากที่สุดในตลาดอาเซียน
นอกจากเครื่องสำอางของไทยจะถูกจริตคนในตลาดอาเซียนแล้ว ในประเทศไทยเอง “เครื่องสำอางสัญชาติเกาหลี” ก็เป็นที่ถูกจริตคนในประเทศไทยเช่นเดียวกัน…”Bangkok Beauty Show 2018” งานแสดงสินค้าด้านนวัตรรม และผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมความงามครบวงจรระดับนานาชาติแห่งภูมิภาคเอเชีย จัดโดย KINTEX ผู้ที่จัดงานยักษ์ใหญ่อย่าง “K-Beauty Expo” ที่จะจัดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศในวันที่ 12-14 กรกฎาคมนี้ จะเป็นงานที่รวมรวมทุกอย่างในวงการความงามไว้ในที่เดียวแบบ One Stop Service คาดจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ตลาดเครื่องสำอางไทยโตพรวด!
ข้อมูลจากงานเสวนาพิเศษในหัวข้อม”ส่องเทรนด์ความงามเกาหลีปี 2018 กับโอกาสธุรกิจความงามและเครื่องสำอางไทยสู่อาเซียน” ระบุว่า ตลาดความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเองของประเทศไทยในปี 2559 นั้นมีมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 4.36 ล้านล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ประเทศไทยเองยังมีตลาดความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเองใหญ่ที่สุดมีสัดส่วน 1 ใน 3 ของภูมิภาคอาเซียน และยังมีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 3 ของเอเชียอีกด้วย
ด้านนางลักษณ์สุภา ประภาวัต ประธานคลัสเตอร์เครื่องสำอางไทย เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมความงามของไทยมีอัตราการเติบโตขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ปัจจุบันนี้ธุรกิจดังกล่าวมีมูลค่าตลาดในประเทศสูงถึง 2.8 แสนล้านบาท แบ่งเป็นตลาดในประเทศ 60 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดเป็นมูลค่า 1.68 แสนล้านบาท ขณะที่ตลาดส่งออกนั้นทำรายได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ มูลค่ากว่า 1.12 แสนล้านบาท
“ในตลาดโลกนั้นประเทศไทยครองอันดับ 17 ในฐานะผู้ผลิต และผู้ส่งออกเครื่องสำอางรายสำคัญ และรั้งเบอร์หนึ่งในภูมิภาคอาเซียน ขณะที่มูลค่าตลาดเครื่องสำอางทั่วโลกอยู่ที่ 9.3 ล้านล้านบาท” ประธานคลัสเตอร์เครื่องสำอางไทย กล่าว และว่า
ทั่วประเทศนั้นมีบริษัทที่จดทะเบียนอยู่จำนวน 1,800 ราย มีมูลค่าการจดทะเบียนรวมสู.ถึง 1.1 หมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 40 เปอร์เซ็นต์ สามารถแบ่งตามพื้นที่ได้นั้นแบ่งเป็น กรุงเทพฯ 53.5 เปอร์เซ็นต์ ภาคกลาง 27.5 เปอร์เซ็นต์ และภาคเหนือ 6.2 เปอร์เซ็นต์
เทรนด์ผลิตภัณฑ์แนวสุขภาพ-ธรรมชาติ มาแรง เน้นเจาะเซกเมนต์รายบุคคล
ขณะที่เรื่องเทรนด์ของเครื่องสำอางที่มาแรงในปีนี้นั้น รองศาสตราจารย์ ดร.สุรพล นธการกิจกุล นายกสมาคมนักเคมีเครื่องสำอางไทยเปิดเผยว่า “Wellness Cluster” จะเป็นเทรนด์ความงามของโลก คือ ด้าน Wellness และ Health ขณะที่ด้านเครื่องสำอางนั้นจะเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์เพื่อผิว และผม รวมถึงผลิตภัณฑ์เจาะจงเฉพาะรายบุคคล (Customized or Personal Skincare) ด้วยการนำเทคโทโลยีเข้ามาใช้เพื่อประเมินสภาพผิวและทำผลิตภัณฑ์ให้ออกมาเหมาะกับแต่ละบุคคล
“ในนาคตผมจะเน้นไปที่เครื่องสำอางกินได้ เพราะว่าภาคเหนือของไทยนั้นมีจุดเด่นที่สมุนไพร ธรรมชาติ นำภูมิปัญญาของท้องถิ่นมาทำให้เกิดอุตสาหกรรมได้ และสิ่งที่จะทำให้เกิดตลาดที่ดีที่สุดคือ ความที่คนเราอายุยืน ที่เน้นความงามจากข้างในก็คือ ความเป็นธรรมชาติ ”
ทั้งนี้สำหรับเทรนด์ความงามของเกาหลีในปีนี้นั้นคือ เทรนด์ความงามที่เน้นเรื่องความกระจ่างใสไร้ริ้วรอย ที่มีชื่อว่า “Cloudless Skin” หรือ ผิวละมุนดุจปุยเมฆ
Bangkok Beauty Show จัดใหญ่ กรุยทางเครื่องสำอางไทยสู่อาเซียน
สำหรับงาน Bangkok Beauty Show ที่จะจัดขึ้นในครั้งนี้จะเป็นที่รวบรวมอุตสาหกรรมความงาม และเครื่องสำอางตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำเข้าด้วยกัน ตั้งแต่ผู้ผลิต ผูรับผลิตเครื่องสำอาง เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ไปจนถึงเจ้าของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น One Stop Service โดยจะมีรูปแบบเชิงธุรกิจระหว่างผู้ค้า กับผู้ค้าด้วยกัน (B2B) ประกอบไปด้วย
ใครอยากเริ่มเป็นเจ้าของธุรกิจ อยากจะมาอัพเดทเทรนด์ เพิ่มเติมความรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมความงาม และเครื่องสำอาง ก็ห้ามพลาด เพราะงานนี้มีแค่ 3 วันเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 12-14 กรกฎาคม ณ ไบเทค บางนา
