
รู้จัก “สมเกียรติ จันทรา” หนุ่มวัย 24 ปี คว้าชัย MOTO2 สนามอินโดฯ พร้อมเผยเส้นทางดาวรุ่งจากทีมเยาวชนสู่นักบิดตัวจริงในวันนี้
วันที่ 21 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี รุ่น โมโตทู 2022 สนาม 2 รายการ อินโดนีเซียน กรังด์ปรีซ์ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา
- ราคายางใกล้แตะ 50 บาท/กก. กระทบโรงงานน้ำยางข้นต้นทุนพุ่ง-จ่อปิดตัว
- เตือน 10 จังหวัด เตรียมพร้อมยกของขึ้นที่สูง รับมือสถานการณ์น้ำ
- ตำรวจไซเบอร์ บุกค้นบ้านบิ๊กโจ๊ก หลังพบเอี่ยวเครือข่ายพนันออนไลน์
ผลการแข่งขันปรากฏว่า นายสมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” คว้าแชมป์ด้วยการบิดเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก ด้วยเวลา 25 นาที 40.876 วินาที
ทางเพจเฟซบุ๊ก Race to The Dream ของเครือฮอนด้า แบ็กอัพคนสำคัญของเจ้าคิงคองก้อง ระบุไว้ตอนหนึ่งว่า “เป็นการสร้างประวัติศาสตร์เป็นคนไทยคนแรก ที่คว้าชัยชนะในการแข่งขันระดับเวิลด์กรังด์ปรีซ์ได้อย่างยิ่งใหญ่”
จากความสำเร็จของยอดนักบิดวัย 24 ปี “ประชาชาติธุรกิจ” พาไปรู้จักสิงห์นักบิดคนนี้กัน

กำแพงภาษา ด่านแรก
Youtube Channel: Motorsportlives TV สัมภาษณ์เจ้าก้อง – สมเกียรติ จันทรา เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 ในช่วงที่เจ้าตัวเตรียมตัวไปแข่งโมโตทูที่ประเทศออสเตรียว่า การใช้ชีวิตเป็นนักกีฬาที่ต่างประเทศคนเดียว เรื่องที่สำคัญที่สุดเรื่องแรก คือ ภาษา เพราะเมื่ออยู่คนเดียวต้องเก่งภาษาให้ได้ ไม่ว่าจะไปไหน จะคุยอะไรกับใครจะได้ง่ายขึ้น
ที่สำคัญคือ การสื่อสารกับทีมงานระหว่างการแข่งขัน ซึ่งต้องพยายามเรียนรู้ให้ได้
โดยส่วนตัว สมเกียรติใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเป็นหลัก แต่ยังไม่คล่องนัก ทำให้ช่วงแรก ๆ มีอุปสรรคมาก เพราะไม่สามารถบอกอาการของเครื่องยนต์ หรืออุปสรรคอื่น ๆ ให้ทีมงานเข้าใจได้ การฝึกภาษาของเจ้าตัวมีทั้งการเปิดพจนานุกรมและการลงเรียนเพิ่ม รวมทั้งการพูดคุยกับเจ้าของภาษาเยอะ ๆ ทำให้ค่อย ๆ พูดเป็นมากขึ้นเรื่อย ๆ
ส่วนการไปอยู่ต่างประเทศคนเดียว มีเหงาบ้างหรือไม่ เจ้าตัวตอบว่า การไปแข่งในแต่ละที่จะอยู่ร่วมกับนักแข่งคนอื่น ๆ 4 คน อยู่ด้วยกันทั้งการฝึกซ้อม กินข้าว และทำกิจกรรมอื่น ๆ ทำให้ไม่ค่อยเหงาเท่าไหร่ กลับเป็นดีไปในตัวด้วย
ขณะที่การกลับมาพักที่บ้าน หลังไปแข่งขันมายาวนาน 4-5 เดือน เจ้าก้องเล่าว่า ก็ยังมีปั่นจักรยาน ขับขี่มอเตอร์ครอส และการเข้ายิมฝึกซ้อมร่างกายให้แข็งแรงสม่ำเสมอ แต่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ในปีที่ผ่านมา สนามซ้อมส่วนใหญ่ปิดบริการ ทำให้หาสนามซ้อมยากพอสมควร
ต่อมามีการพูดคุยถึงไลฟ์สไตล์ส่วนตัว นักบิดหนุ่มตอบว่า เวลาว่างเมื่ออยู่ต่างประเทศ จะชมขึ้นเขา ไปชมวิว ไปทะเล และชอบชมเมือง เพื่อสำรวจภูมิประเทศในการแข่งขัน ส่วนของสะสมที่มีคุณค่าทางใจคือ หัวกันน็อกที่ใช้ในการแข่งขันในแต่ละรายการ เพื่อจดจำว่าได้ไปแข่งในรายการใด จบที่ตำแหน่งที่เท่าไหร่

ดาวรุ่งพุ่งแรง
เว็บไซต์เมนสแตน เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 สรุปเส้นทางอาชีพไว้อย่างน่าสนใจ โดยเขาเริ่มต้นชีวิตบนหลังอานมอเตอร์ไซค์ครั้งแรก โดยเข้ามาเป็นเด็กฝึกในโครงการ Honda Race to the Dream เพื่อผลักดันนักแข่งชาวไทยไปไกลถึงการแข่งขันระดับโมโตจีพีภายในปี 2025 (2568)
รายการแรกที่เจ้าตัวทำผลงานยอดเยี่ยมเป็นครั้งแรกคือการแข่งขัน Shell Advance Asia Talent Cup 2015 (2558) แต่ขณะนั้นเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บ ทำให้พลาดการแข่งขันไปในบางสนาม
ปีถัดมา 2016 (2559) สามารถกลับมาคว้าแชมป์รายการเดียวกันได้เป็นผลสำเร็จ ได้รับโอกาสไปแข่งในรายการ MOTO3 ชิงแชมป์โลกรอบเยาวชนในปี 2017-2018 (2560-2561)
ก่อนจะได้รับ “Wild Card” (ใบขับขี่ที่อนุญาตให้เฉพาะนักแข่งในประเทศเจ้าภาพ หรือในภูมิภาคนั้นเข้าร่วมแข่งขันเฉพาะสนาม) ลงแข่ง MOTO3 รายการ PTT Thailand Grand Prix ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2018 (2561) คว้าอันดับ 9 ไปครอง ได้สิทธิ์ไปแข่งใน MOTO2 กับทีม Idemisu Honda Team Asia ตั้งแต่ปี 2019 (2562) เป็นต้นมา
ต่อมาในปี 2021 (2564) การแข่งขัน MOTO2 ที่สนามประเทศออสเตรีย สามารถจบด้วยอันดับ 5 ในรายการ Austrian motorcycle Grand Prix และเป็นนักขับที่ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุด (fastest lap) ในการแข่งขันด้วย รวมถึงการคว้าอันดับ 8 ในการแข่งขัน Styrian motorcycle Grand Prix และจบอันดับ 9 ในการแข่งขัน Catalan motorcycle Grand Prix ด้วย
แม้จะเก็บผลงานมาดีและต่อเนื่อง แต่สมเกียรติยังไม่หยุดพัฒนาตัวเอง วางแผนฝึกซ้อมที่ จ.บุรีรัมย์ ทำทุกอย่างทั้งการเข้ายิมฝึกซ้อมร่างกายให้แข็งแรง รวมถึงการซ้อมขับบนสนามที่ทำจากดินด้วย
และติดต่อกับหัวหน้าช่าง เพื่อวางแผนการฝึกซ้อมและเตรียมตัวสำหรับฤดูกาลถัดไป โดยมี “รัฐภาคย์ วิไลโรจน์” หรือฟิล์ม อดีตนักแข่งมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชาวไทย ที่ลงแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกรุ่น GP 250 เป็นโค้ช
“ภาษาของน้องดีขึ้นทั้งภาษาอังกฤษและสเปนมีการพัฒนาขึ้น ซึ่งการสื่อสารอาจจะยากกว่าการขับขี่รถให้เร็วขึ้น เพราะหากคุยกับทีมงานไม่เข้าใจ จะขับขี่ในสนามยาก” เว็บไซต์ดังกล่าวถ่ายทอดความรู้สึกอดีตนักบิดชื่อดัง
สำหรับข้อมูลทั่วไป ก้องเกิดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2541 ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี งานอดิเรกคือการเล่นฟุตบอล เขาเคยให้คำนิยามเกี่ยวกับตัวเองเมื่อครั้งยังแข่งขันในรายการ Asia Talent Cup ว่า “ความฝันของผมคือการเป็นนักแข่งรายการ MOTOGP นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมผมถึงมาเป็นส่วนของการแข่งขันรายการ Asia Talent Cup นี้”
นี่คือส่วนหนึ่งของชีวิตนักบิดหนุ่มมาแรงคนนี้ หลังจากนี้แม้การแข่งขัน MOTO 2 จะเหลืออีก 19 รอบ โดยรอบถัดไปจะเป็นการแข่งขันที่ประเทศอาร์เจนตินาในรายการ Gran Premio Michelin de la República Argentina ในวันที่ 4 เมษายน 2565 นี้ มาร่วมส่งใจเชียร์คิงคองก้องกันอีกครั้ง !
