ย้อนผลงานโมโตทูปีนี้ของ “สมเกียรติ จันทรา” หลังสร้างประวัติศาสตร์คว้าที่ 1 และไต่อันดับเป็นที่ 3 ในการแข่งขันโมโตทูฤดูกาล 2022
วันที่ 6 เมษายน 2565 ผูัสื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 3 เมษายน 2565 นายสมเกียรติ จันทรา หรือก้อง สิงห์นักบิดชาวไทย เข้าร่วมการแข่งขันโมโตทู สนาม 3 ที่ประเทศอาร์เจนตินา ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ผิดหวัง สามารถพารถแข่งหมายเลข 35 เข้าป้ายในอันดับ 2 ตามหลัง วิเอ็ตติ ผู้ชนะเพียง 1.538 วินาที ส่วนอันดับ 3 เป็นของ ไอ โอกุระ ทีมเมทชาวญี่ปุ่นของ สมเกียรติ ที่พลิกแซง แอรอน คาเน็ต ในโค้งสุดท้าย
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- สหรัฐปรับ เอสซีจี พลาสติกส์ ละเมิดคว่ำบาตรอิหร่าน เรื่องเป็นอย่างไร บริษัทไหนเกี่ยวบ้าง ?
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
จบการแข่งขัน 3 สนาม สมเกียรติ ทะยานขึ้นมารั้งอันดับ 3 บนตารางคะแนนสะสม มีทั้งสิ้น 45 คะแนน ตามหลังจ่าฝูงอย่าง วิเอ็ตติ 25 คะแนน โดยสนามต่อไปของศึก โมโตทู ชิงแชมป์โลก 2022 จะมีขึ้นที่ เซอร์กิต ออฟ ดิ อเมริกาส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 8-10 เมษายนนี้
ทำให้ขณะนี้เจ้าตัวกลายเป็นนักกีฬาดาวรุ่งที่หลาย ๆ คนจับตามอง เพราะฝีมือดี และที่ผ่านมาเขาทำผลงานในการแข่งขันได้เป็นที่น่าพอใจมาโดยตลอด “ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมผลงานของเจ้าก้อง นับแต่เปิดฤดูกาลโมโตทูปีนี้มาให้ชมกันอีกครั้ง
แข่งโมโตทูปีที่ 4 เตรียมพร้อมตลอด
ย้อนกลับไปช่วงต้นเดือน ม.ค. 2565 กลุ่มเอพีฮอนด้า ประกาศส่งนักบิด 3 คน ลงแข่งในรายการจักรยานยนต์ทางเรียบใน 3 รายการ 1 ใน 3 นั้นคือเจ้าก้อง – สมเกียรติ จันทรา ที่จะลงชิงชัยรายการโมโตทูอีกครั้ง และเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน โดยเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก Race to The Dream ไว้เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2565 ถึงความพร้อมในการแข่งขันว่า
“ปีนี้ (2565) ได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ พยายามฟิตซ้อมร่างกายของตัวเองมาโดยตลอด เพื่อให้ได้สภาพ 100% มากที่สุด ปีที่แล้ว (2564) มีจุดบกพร่องหลาย ๆ อย่างในการขับขี่ พยายามแก้ในจุดพวกนั้นให้หมด ปีนี้ถือว่าพร้อมและจะทำให้เต็มที่ที่สุดครับ จะพยายามอยู่ใน TOP 10 ให้ได้ และจะเอาโพเดี้ยมมาฝากคนไทยด้วยครับ”
ในการแข่งขันรอบนี้ เจ้าก้องยังคงสังกัดทีม IDEMITSU Honda Team Asia สวมเสื้อหมายเลข 35 ลงแข่งขัน ซึ่งเจ้าตัวเปิดใจก่อนเหินฟ้าสู่ประเทศสเปน เพื่อเข้าโปรแกรมฝึกซ้อมโค้งสุดท้ายกับต้นสังกัด และเตรียมสตาร์ตการแข่งขันสนามแรกที่สนามโลแซล อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 4-6 มี.ค. 2565 ว่า
“ยังคงมีการเตรียมความพร้อมอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นการฝึกซ้อมรถจักรยานยนต์ทางฝุ่น การขี่จักรยาน การเข้าเวทเทรนนิ่ง และที่สำคัญได้เข้าร่วมแคมป์ฝึกซ้อมของไทยฮอนด้าที่มีความเข้มข้นเป็นอย่างมาก ตอนนี้สภาพร่างกายและจิตใจมีความสมบูรณ์เกิน 100 เปอร์เซ็นต์ ในปีนี้ผมจะนำประสบการณ์ที่ได้ไปแก้ไขรายละเอียดอีกเล็กน้อย เพื่อทำผลงานให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ฝากติดตามและเป็นกำลังใจเชียร์ผมด้วยครับ”
สิงห์สนามซ้อม
เมื่อเดินทางถึงประเทศสเปน รายงานข่าวเปิดเผยว่า การซ้อมรอบไพรเวทเทสต์ของนักบิดในรุ่นโมโตทู และโมโตทรี รอบแรกที่สนามริคาร์โด ตอร์โม เซอร์กิต เมืองบาเลนเซีย ประเทศสเปน เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2565 ที่ผ่านมา คิงคองก้องสามารถฝ่าขึ้นไปเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 35.342 วินาที
และรอบที่ 2 ที่กิโต เด เฆเรซ เซอร์กิต ประเทศสเปน การซ้อมทั้ง 2 วัน (8-9 ก.พ. 2565) เจ้าตัวทำเวลาเป็นอันดับ 1 ทั้งหมด ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 42.213 วินาที ในวันที่ 8 ก.พ. 2565 และเวลาต่อรอบ 1 นาที 41.466 วินาที ในวันที่ 9 ก.พ. 2565
ต่อมาในการซ้อมแบบออฟฟิเชียล 19-21 ก.พ. 2565 ที่ประเทศโปรตุเกส เจ้าตัวทำผลงานได้ดี ซึ่งทำเวลาต่อรอบเร็วสุดได้ดีขึ้นตลอดทั้ง 3 วันที่ลงสนาม และเมื่อสรุปผลเวลารวม รั้งอยู่ในอันดับที่ 15 ด้วยเวลา 1 นาที 42.807 วินาที ตามผู้นำ 1.255 วินาที
สนามแรก นิ้วก้อยหัก
และเมื่อการแข่งขันโมโตทูรายการแรก รายการ กาตาร์ กรังด์ปรีซ์ ที่สนามโลแซล อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศกาตาร์ เจ้าก้องประเดิมผลงานได้เยี่ยม คว้าอันดับ 8 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 59.702 วินาที ตามหลังจ่าฝูงอย่าง ออกุสโต้ เฟร์นันเดซ นักบิดสแปนิชเพียง 0.590 วินาทีเท่านั้น
แต่แล้วการแข่งขันในรอบจัดอันดับ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเจ้าก้องประสบอุบัติเหตุระหว่างการแข่งขัน ทำให้นิ้วก้อยขวาแตก จนต้องผ่าตัดดามเหล็กไว้ และต้องใช้ถุงมือที่ปรับแต่งพิเศษแบบเฉพาะกิจในการแข่งขัน และต้องถอนตัวจากการแข่งขันในสนามแรกไปอย่างน่าเสียดาย
รีเทิร์นสนาม 2 คว้าที่ 1 สำเร็จ
หลังจากชวดการแข่งขันในสนามแรก เจ้าก้องเหินฟ้าสู่ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อทำการแข่งขันสนามที่ 2 ณ สนามมันดาลิกา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งโชคดีที่แพทย์อนุญาตให้เจ้าตัวลงแข่งขันได้ โดยการซ้อม 2 ครั้ง เจ้าตัวทำคะแนนได้ดี ปิดรอบที่ 1 นาที 37.303 วินาที
และเมื่อลงสู่การแข่งขันเจ้าก้องสร้างผลงานประวัติศาสตร์ให้คนไทย เมื่อเจ้าตัวสามารถบิดเข้าเส้นชัยเป็นคันแรก ด้วยเวลา 25 นาที 40.876 วินาที ซิวแชมป์ครั้งแรกในชีวิตให้กับตนเองได้สำเร็จ ถือเป็นคนไทยคนแรก ที่คว้าชัยชนะในการแข่งขันระดับเวิลด์กรังด์ปรีซ์ได้
ซึ่งความสำเร็จนี้ ก็ดังไกลเข้าไปถึงตึกไทยคู่ฟ้าด้วย เมื่อนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความยินดีกับนายสมเกียรติ จันทรา และชื่นชมความสามารถและความพยายามฝึกซ้อมอย่างหนักของนักกีฬา จนสามารถคว้าชัยชนะได้อย่างยิ่งใหญ่ สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ
ตลอดจนขอบคุณความทุ่มเททำงานหนักของทีมงานทุกคนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ พร้อมเชิญชวนพี่น้องชาวไทยร่วมส่งกำลังใจเชียร์นักกีฬาในการแข่งขันรายการต่อไปที่จะมีขึ้นในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ด้วย
เหินฟ้าอาร์เจนฯ คว้าที่ 2 สนามที่ 3
หลังจากเฉลิมฉลองชัยชนะกันพอสมควร ก็ได้เวลาที่เจ้าตัวจะไปต่อกับสนามที่ 3 ซึ่งครั้งนี้แข่งขันที่ประเทศอาร์เจนตินา สนามเทอร์มาส เดอ ริโอ ฮอนโด้ ในรอบซ้อม เจ้าก้องเปิดตัวด้วยผลงานที่ 3 ในการซ้อม ก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุล้มในการซ้อมรอบที่ 2 แต่ยังประคองตัวคว้าที่ 7 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 43.671 วินาที
และเมื่อลงสนามจริง เจ้าตัวก็คว้าโพเดี้ยมลำดับที่ 2 ในการแข่งขันได้เป็นผลสำเร็จ ตามหลังแชมป์แค่ 1.538 วินาที โดยเจ้าก้องให้สัมภาษณ์หลังแข่งขันว่า ขอบคุณแฟน ๆ ชาวไทยทุกคนที่เป็นกำลังใจเชียร์ผม วันนี้ผมคว้าที่ 2 ได้แล้ว จะทำเต็มที่ สู้เต็มที่ในการแข่งขันต่อ ๆ ไป ฝากแฟน ๆ ชาวไทยเชียร์ด้วยนะครับ ขอบคุณมาก ๆ ครับ
ฝ่าฟันอีก 18 สนาม
แม้ตอนนี้คะแนนรวมของเจ้าก้องจะอยู่ที่ 45 คะแนน รั้งอันดับ 3 ของการแข่งขัน แต่หลังจากนี้ สมเกียรติยังต้องฝ่าฟันการแข่งขันอีก 18 รายการที่จะเวียนแข่งตามประเทศต่าง ๆ ตลอดทั้งปี โดยสนามถัดไปที่เจ้าตัวต้องแข่งขันคือ สนามที่ 4 รายการ Red Bull Grand Prix of the Americas ที่สนาม Circuit of the Americas ที่นครออสติน มลรัฐเท็กซ์ซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 8-10 เมษายน 2565 นี้
แม้จะเหลือสนามให้ชิงชัยอีกมากและคู่แข่งระดับโลกที่อยู่ข้างหน้าก็มากมี แต่เราคนไทยส่งใจไปซ้อม ฝากใจไปแข่ง เชียร์เจ้าก้องขาดใจ ให้คว้าที่ 1 การแข่งขันโมโตทูให้ได้ต่อไปแน่นอน
