ไทยแอร์เอเชีย ตั้งเป้าปี’69 มีฝูงบิน 72 ลำหนุนรายได้ 5.8 หมื่นล้าน

สันติสุข คล่องใช้ยา
สันติสุข คล่องใช้ยา

“ไทยแอร์เอเชีย” ตั้งเป้าปี’66 ผู้โดยสารแตะ 20 ล้านคน มั่นใจกลับมาทำกำไรอีกครั้งได้ พร้อมรุกเพิ่มเที่ยวบินสู่จีน คาดไตรมาส 2-3 นี้ทะลุ 100 ไฟลต์ต่อสัปดาห์ เผยแผน 3 ปีรับเครื่องบินใหม่ปีละ 5 ลำ ตั้งเป้าปี’69 รายได้แตะ 5.8 หมื่นล้าน เชื่อรัฐบาลใหม่ให้ความสำคัญกับภาคท่องเที่ยว ชี้เป็นเครื่องยนต์ด้านเศรษฐกิจเดียวที่ยังทำงานอยู่

นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานสำหรับปี 2566 ว่า ปีนี้สายการบินวางเป้าหมายขนส่งผู้โดยสารจำนวน 20 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 90% ของการขนส่งผู้โดยสารในปี 2562 โดยมีจำนวนผู้โดยสารจากเที่ยวบินภายในประเทศจำนวน 65% และผู้โดยสารชาวต่างประเทศจำนวน 35% และมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยที่ 87%

มั่นใจปี’66 กลับมามีกำไร

โดยพบว่าไตรมาส 1/2566 สายการบินมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย (Average Load Factor) ราว 90% โดยได้รับโมเมนตัมจากการท่องเที่ยวช่วงต้นปี และเมื่อประเมินจากยอดสำรองที่นั่งล่วงหน้าคาดว่าไตรมาสที่ 2 นี้ สายการบินอาจมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนหน้า

นายสันติสุขกล่าวว่า ปัจจุบันสายการบินเริ่มกลับมาใช้เครื่องบินทำการบินเพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าให้ปีนี้มีอัตราการใช้เครื่องบิน (Aircraft Utilization) เฉลี่ยที่ 12.5 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งจะทำให้ต้นทุนต่อปริมาณด้านการผลิตของผู้โดยสารไม่รวมค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง (cost per available seat kilometres excludes fuel : CASK ex-fuel) เริ่มกลับสู่ระดับใกล้เคียงกับปี 2562 ที่ประมาณ 1.03 บาท/ที่นั่ง-กิโลเมตร

“ปีนี้เราจะใช้เครื่องบินคุ้มค่ามากขึ้น โดยนำเครื่องบินไปทำการบินเส้นทางจีนและอินเดีย ซึ่งทำการบินในเวลากลางคืน ทำให้คาดว่าเรากลับมากำไรได้” นายสันติสุขกล่าว

อีก 3 ปีเพิ่มฝูงบินเป็น 72 ลำ

นายสันติสุขกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันสายการบินไทยแอร์เอเชียมีเครื่องบินในฝูงบินทั้งสิ้น 53 ลำ สูงกว่าคู่แข่ง 3 เท่า โดยไตรมาสที่ 2 นี้ คาดว่าจะสามารถใช้เครื่องบิน 48 ลำ และตั้งเป้าหมายใช้เครื่องบินครบทั้ง 53 ลำในช่วงไตรมาส 4 และมีอัตราการใช้ประโยชน์ของเครื่องบิน 12.5 ชั่วโมงต่อวัน จากปัจจุบันที่ 11 ชั่วโมงต่อวัน

ส่วนการขยายฝูงบินในปีนี้ บริษัทจะประเมินอีกครั้งหลังเทศกาลสงกรานต์และวันแรงงานในเดือนพฤษภาคม 2566 หากมีความจำเป็นสายการบินอาจนำเครื่องบินเข้าประจำการ 5 ลำ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 นี้ ทำให้สายการบินมีเครื่องบินในฝูงบินรวม 58 ลำ

นอกจากนี้ ยังวางแผนขยายฝูงบินต่อเนื่องในปี 2567-2569 โดยเพิ่มเฉลี่ยปีละ 5 ลำ ซึ่งจะทำให้มีเครื่องบินรวม 72-73 ลำ ในปี 2569 อีกทั้งสายการบินเตรียมรับเครื่องบินแบบแอร์บัส A321 และ A321XLR เข้าประจำการมากขึ้น เพื่อให้บริการในเส้นทางที่ระยะไกล เช่น จีน (ปักกิ่ง) ญี่ปุ่น อินเดีย มากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายขนส่งผู้โดยสารในปี 2569 ที่จำนวน 26 ล้านคน มีรายได้จากการให้บริการที่ 58,000 ล้านบาท

เพิ่มบินจีน 100 ไฟลต์/สัปดาห์

สำหรับตลาดนักท่องเที่ยวจีนนั้น นายสันติสุขกล่าวว่า ไทยแอร์เอเชียคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะทะลักมาประเทศไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 นี้ เนื่องจากต้นทุนการเดินทางที่ยังมีราคาสูง ทำให้นักท่องเที่ยวอาจไม่เดินทางไปประเทศระยะไกล ๆ เช่น ยุโรป อเมริกา และหันมาเที่ยวประเทศโซนเอเชีย ซึ่งรวมถึงประเทศไทยมากขึ้น

ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยแอร์เอเชียให้บริการเส้นทางบินสู่ประเทศจีน จำนวน 8 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ (ดอนเมือง) สู่กว่างโจว, คุนหมิง, ฉงชิ่ง, เสิ่นเจิ้น, ฉางชา, อู่ฮั่น, หางโจว และหนานจิง รวม 40 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

โดยไตรมาสที่ 2 และ 3 ของปีนี้ สายการบินเตรียมเพิ่มเส้นทางบิน กรุงเทพฯ (ดอนเมือง)-เฉิงตู, เจียหยาง, ซีอาน และเปิดเส้นทางบิน เชียงใหม่-ฉางชา, เชียงใหม่-เสิ่นเจิ้น, หางโจว, ปักกิ่ง (ต้าชิ่ง-PKX) รวมทั้งเพิ่มความถี่เที่ยวบินเส้นทางที่มีอยู่เดิม เพื่อให้สายการบินมีเส้นทางบินสู่จีนรวม 100 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

หวังรัฐบาลใหม่มีนโยบายต่อเนื่อง

นายสันติสุขยังกล่าวถึงการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงด้วยว่า ในฐานะผู้ประกอบการต้องการเห็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีนโยบายต่อเนื่อง และเชื่อว่าทุกรัฐบาลที่เข้ามาน่าจะให้ความสำคัญกับภาคท่องเที่ยว เพราะปัจจุบันถือเป็นเครื่องยนต์ด้านเศรษฐกิจเดียวที่ยังทำงานอยู่

“ในปี 2566 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในกรณีที่ดีที่สุด (best case scenario) ที่จำนวน 30 ล้านคน ในจำนวนดังกล่าวคาดว่าเป็นนักท่องเที่ยวจีนสูงถึง 7-8 ล้านคน” นายสันติสุขกล่าว