“ลุฟท์ฮันซ่า” ชี้ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ฟื้นเร็ว ดีมานด์เมืองไทยแกร่ง เผยกรุงเทพฯ เป็นจุดหมายปลายทางทั้งผู้โดยสารเดินทางท่องเที่ยว-เพื่อธุรกิจ เตรียมใช้เครื่องบิน A380 บินเส้นทางกรุงเทพฯ-มิวนิก ตั้งแต่ 29 ต.ค. 66 นี้
นางสาวเอลิเซ่ เบกเกอร์ รองประธานประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก กลุ่มสายการบินลุฟท์ฮันซ่า เปิดเผยว่า แม้เส้นทางบินเอเชียเหนือยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่ลุฟท์ฮันซ่ามีความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมการบิน โดยเส้นทางบินเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตเหนือกว่าระดับปี 2562 ก่อนการระบาดของโควิด-19 แล้ว
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ไทย และหลายชาติ ออกแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องปล่อยตัวประกันในกาซา
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
“ความต้องการการบินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีสูงมาก ซึ่งประเทศไทยมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว” นางสาวเอลิเซ่กล่าว
ด้านนางสาวอันลี โด ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง กลุ่มบริษัทลุฟท์ฮันซ่า กล่าวว่า ลุฟท์ฮันซ่าเตรียมให้บริการเครื่องบินแอร์บัส A380 เครื่องบินโดยสารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในเส้นทางกรุงเทพฯ-มิวนิก ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นเที่ยวบินเดียวในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่ใช้เครื่องบิน A380 ให้บริการ
ทั้งนี้ คาดว่าสัดส่วนผู้โดยสารจะเป็นชาวยุโรป 60% และผู้โดยสารในภูมิภาคอีก 40% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ผู้โดยสารส่วนใหญ่จะเป็นชาวยุโรป
“เครื่องบินแอร์บัส A380 ของสายการบินลุฟท์ฮันซ่าบรรทุกผู้โดยสารรวม 509 ที่นั่ง ให้บริการ 4 ชั้นโดยสาร ได้แก่ ที่นั่งชั้นหนึ่ง 8 ที่นั่ง ที่นั่งชั้นธุรกิจ 78 ที่นั่ง ที่นั่งชั้นประหยัดพรีเมี่ยม 52 ที่นั่ง และที่นั่งชั้นประหยัด 371 ที่นั่ง” นางสาวอันลีกล่าวและว่า ปัจจุบันลุฟท์ฮันซ่ามีเครื่องบิน A380 จำนวน 8 ลำ ใช้ทำการบินไปยังนิวยอร์ก บอสตัน ลอสแองเจลิส และกรุงเทพฯ
นางสาวเอลิเซ่กล่าวเสริมว่า เหตุผลที่เลือกใช้เครื่องบิน A380 มายังกรุงเทพฯ เนื่องจากความต้องการเดินทางที่สูง สภาพตลาดที่เหมาะสม ผู้โดยสารสามารถใช้กรุงเทพฯเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อเที่ยวบินไปยังเมืองอื่น ๆ ในภูมิภาคได้ อีกทั้งกรุงเทพฯเป็นจุดหมายปลายทางทั้งผู้โดยสารเดินทางท่องเที่ยวและผู้โดยสารเดินทางธุรกิจ มีอัตราการจองบัตรโดยสารออนไลน์สูงอันดับ 6 ในเอเชีย-แปซิฟิก
สอดคล้องกับ นางสาวซาบริน่า วินเทอร์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก กลุ่มสายการบินลุฟท์ฮันซ่า ที่กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียมีการเติบโตของคนชั้นกลางมากขึ้น ทำให้ความต้องการการเดินทางยังคงอยู่ในระดับสูง และผู้คนใช้กรุงเทพฯเป็นฐานเชื่อมต่อการบินของภูมิภาค
“ลุฟท์ฮันซ่าอยู่ระหว่างการลงทุนปรับปรุงฝูงบิน โดยรับเครื่องบินรุ่นใหม่ เช่น แอร์บัส A320neo แอร์บัส A350 โบอิ้ง 787 โบอิ้ง 777-9X ซึ่งประหยัดน้ำมัน เข้าประจำการประมาณ 200 ลำ” นางสาวซาบริน่ากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันกลุ่มสายการบินลุฟท์ฮันซ่า ซึ่งประกอบด้วยสายการบินลุฟท์ฮันซ่า สายการบินสวิสอินเตอร์เนชั่นแนล และสายการบินออสเตรียน ทำการบินเชื่อมไทยและกลุ่มประเทศยุโรป ผ่านเมืองใหญ่ ๆ เช่น มิวนิก เวียนนา และซูริก รวมเป็น 21 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
สำหรับโครงการลงทุนปรับปรุงฝูงบินนั้น ลุฟท์ฮันซ่าได้ใช้เม็ดเงินลงทุนประมาณ 2,500 ล้านยูโร หรือประมาณ 95,571 ล้านบาท โดยใช้ในการปรับปรุงห้องโดยสารเครื่องบินปัจจุบัน และจัดหาเครื่องบินรุ่นใหม่เข้าประจำการ
