“นกแอร์” ชิงยื่นแผนฟื้นฟูฯ หวังปรับโครงสร้างหนี้-การบริหาร ยันให้บริการตามปกติ

“นกแอร์” ชิงยื่นแผนฟื้นฟูกิจการฯ เผยเบื้องต้นต้องการปรับโครงสร้างหนี้ โครงสร้างการบริหารจัดการองค์กร ปรับปรุงเส้นทางบิน-ฝูงบิน หวังฟื้นฟูกิจการสำเร็จก่อนโควิด-19 จบ ชี้เป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เหตุปัญหาไม่ได้เกิดจากปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจ พร้อมยันยังให้บริการบินทุกเส้นทางตามปกติ

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานคณะกรรมการบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ วาระพิเศษครั้งที่ 8/2563 เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2563 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ในฐานะลูกหนี้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการฯ และให้เสนอผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการฯ ต่อศาลล้มละลายกลางภายใต้พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483

โดยบริษัทฯ ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ต่อศาลล้มละลายกลางในวันที่ 30 กรกฎาคม 2563 เมื่อเวลา 11.00 น. และศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการฯ ไว้พิจารณาแล้วในวันเดียวกัน เป็นคดีดำ ฟฟ 21/2563 และนัดไต่สวนคำร้องฯ ในวันที่ 27 ตุลาคม 2563 เวลา 09.00 น.

นายประเสริฐกล่าวว่า แนวทางเบื้องต้นของการฟื้นฟูกิจการบริษัทฯคือ การปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อแก้ไขหนี้สินที่มีอยู่ให้เสร็จสิ้นโดยคำนึงถึงประโยชน์ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เป็นธรรมและสอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทฯ การบริหารจัดการกิจการของลูกหนี้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และสามารถชำระหนี้ได้ตามแผนฟื้นฟูกิจการฯ

เช่น ปรับปรุงเครือข่ายเส้นทางบินและปรับฝูงบิน การปรับปรุงกลยุทธ์ด้านการพาณิชย์และความสามารถในการหารายได้ การปรับปรุงโครงสร้างองค์กร เพิ่มประสิทธิภาพในการทางานของพนักงาน ปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น พัฒนาและปรับปรุงระบบการบริหารงานบุคคล

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เสนอให้ บริษัท แกรนท์ ธอนตัน สเปเชียลิสท์ แอ็ดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด ร่วมกับนายปริญญา ไววัฒนา, นายไต้ ชอง อี, นายเกษมสันต์ วีระกุล, นายวุฒิภูมิ จุฬางกูร และนายชวลิต อัตถศาสตร์ กรรมการของบริษัทฯ เป็นผู้ทำแผน

“การยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการที่จะเปลี่ยนแปลงบริษัทฯ ไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้โดยสาร ลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางการค้า ลูกหนี้ เจ้าหนี้ พนักงานบริษัทฯ ผู้ลงทุน ประชาชนรวมถึงระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย” นายประเสริฐกล่าว และว่า

โดยบริษัทฯ ได้เล็งเห็นแล้วว่าในขณะนี้ประชาชนและนักท่องเที่ยวยังมีการเดินทางกันไม่มากนักเพราะการระบาดของโควิด-19 ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ สามารถฟื้นฟูกิจการได้อย่างคล่องตัวและรวดเร็วมากกว่าในภาวะปกติ ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องฟื้นฟูกิจการให้สำเร็จก่อนการระบาดโควิด-19 จะยุติลง ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ จะมีความพร้อมอย่างเต็มที่และสามารถให้บริการอย่างดีเยี่ยมเพื่อตอบสนองความต้องการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ รวมถึงประชาชนทั่วไปได้เป็นอย่างดี

นายประเสริฐกล่าวด้วยว่า การยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ มีสาระสำคัญโดยสรุปคือ บริษัทฯ ในฐานะลูกหนี้เป็นผู้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลฯ เนื่องจากเห็นว่าการฟื้นฟูกิจการนั้นเป็นแนวทางที่เหมาะสมและดีที่สุดสำหรับการแก้ปัญหาสภาพคล่องทางการเงินชั่วคราวของบริษัทฯ ภายใต้การกำกับดูแลของศาลฯ เพื่อให้กิจการของบริษัทฯ สามารถดำเนินการต่อไปได้ตามปกติ

การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการในครั้งนี้ บริษัทฯ ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายในการที่จะเลิกหรือชำระบัญชีบริษัทฯ หรือไม่ได้มุ่งหมายให้บริษัทฯ ต้องตกเป็นบุคคลล้มละลายแต่อย่างใด ตรงกันข้ามบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นและแน่วแน่เป็นอย่างยิ่งในการที่จะดำเนินกิจการต่อไปให้มีความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรือง เพราะปัญหาในปัจจุบันของบริษัทฯ ไม่ได้เกิดจากปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจ แต่เกิดจากปัจจัยหลายประการ รวมถึงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ทำให้บริษัทฯ เกิดข้อติดขัดและอุปสรรคในการดำเนินกิจการ หากมีการปรับโครงสร้างภายใต้กระบวนการฟื้นฟูอย่างเหมาะสม บริษัทฯ จะสามารถดำเนินธุรกิจให้เติบโตก้าวหน้าต่อไปได้อย่างแน่นอน

การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการฯ ในครั้งนี้ จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของแผนฟื้นฟูธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพตามขั้นตอนต่าง ๆ ซึ่งมีกฎหมายรองรับและให้ความคุ้มครองแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นธรรม ทั้งบริษัทฯ ยังสามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้ตามปกติในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการฟื้นฟูกิจการฯ ไม่ว่าจะเป็นการให้การบริการขนส่งผู้โดยสารและการขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ทางอากาศ