บล.กรุงศรี คาดดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัว 1,635-1,655 จุด แม้ราคาน้ำมันจะหนุนแต่ความตึงเครียดจากประเด็นยูเครนยังคงอยู่ บวกกับเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค.นี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อจะกดดันตลาด
วันที่ 27 มกราคม 2565 บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี หรือ บล.กรุงศรี คาดดัชนีหุ้นไทย (SET) แกว่งตัว 1,635-1,655 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นตามสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน ประกอบแรงซื้อดักงบและเงินปันผลปี 2564 อย่างไรก็ตาม การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค. เพื่อสกัดเงินเฟ้อนั้นจะกดดันต่อทิศทางการลงทุน ดังนั้นจึงแนะนำลงทุนแบบซื้อรายตัว (Selective buy) กลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
สำหรับประเด็นสำคัญวันนี้ FED มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.0-0.25% ตามเดิม และปรับลดวงเงิน QE ที่ 3 หมื่นล้านเหรียญต่อเดือนเพื่อยุติโครงการในเดือน มี.ค.ปีนี้ อย่างไรก็ตาม เฟดส่งสัญญาณจะเร่งขึ้นดอกเบี้ยหลังจากที่อัตราเงินเฟ้อยังพุ่งสูง ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกตั้งแต่เดือน มี.ค. 2565
ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้นอีก 1.75 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 87.35 ดอลลาร์/บาร์เรล ปัจจัยบวกยังเป็นเรื่องเดิมคือนักลงทุนกังวลเหตุการณ์ตึงเครียดในยูเครนจะกระทบอุปทานพลังงาน หลังจากล่าสุดรัสเซียออกมาระบุว่าจะทำการตอบโต้อย่างรวดเร็ว หากสหรัฐและพันธมิตรปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัสเซีย และยังคงดำเนินนโยบายที่แข็งกร้าวที่จะรวมยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต้
ขณะที่วานนี้ (26 ม.ค.) บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC แจ้งว่าได้เกิดเหตุการณ์น้ำมันรั่วออกจากท่อส่งน้ำมัน ไต้ทะเลของบริษัทห่างจากท่าเรือมาบตาพุดประมาณ 20 ก.ม.คาดว่าจะมีปริมาณน้ำมันดิบรั่วออกมาประมาณ 1.6-1.8 แสนลิตร คาดไม่กระทบการดำเนินงานเนื่องจาก SPRC มีสินค้าคงคลังรองรับการผลิต 4.5 ล้านบาร์เรล หรือรองรับการผลิตได้อีก 30 วัน ด้านความเสียหาย SPRC มีประกันความเสียหายต่อทรัพย์สิน การหยุดชะงักของธุรกิจ การขนส่งสินค้าทางทะเล และความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ไว้อยู่แล้วจึงแนะนำซื้อเป้าหมายราคาที่ 12 บาท
บล.กรุงศรี แนะนำหุ้นเด่นวันนี้ ได้แก่
– PTTEP หรือบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ได้ประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ด้านแนวโน้มงบฯไตรมาส 4/64 คาดมีกำไรสุทธิ 9.2 พันล้านบาท ทรงตัว QOQ แต่เพิ่มขึ้นแรงกว่า 263% YOY
– SPRC หรือบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ราคาปิดที่ 9.6 บาทต่อหุ้น แนะนำซื้อ/เป้าหมายราคาที่ 12 บาทต่อหุ้น ราคาลดลงมากเกินไป เราคาดว่าเหตุการณ์น้ำมันรั่วไม่กระทบการดำเนินงาน มีสินค้าคงคลังรองรับการผลิตได้อีก 30 วัน ด้านความเสียหายมีประกันครอบคลุมไว้อยู่แล้ว อาทิ ประกันความเสียหายต่อทรัพย์สิน การหยุดชะงักของธุรกิจ การขนส่งสินค้าทางทะเล และความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
