รัสเซียได้เปิดฉากโจมตีเมืองต่าง ๆ ของยูเครน ด้วยขีปนาวุธ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา พร้อมกับเพิ่มการโจมตีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า “วิตาลี คลิตช์โก” นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ เผยผ่านเทเลแกรมว่า ได้ยินเสียงระเบิดและไซเรนโจมตีทางอากาศในช่วงเช้าวันจันทร์ และ 80% ของประชาชนในเมืองไม่มีน้ำใช้ นอกจากนี้ ยังมีจำนวนมากที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ด้วย สาเหตุจากการโจมตีของรัสเซีย
หนึ่งในการโจมตีของรัสเซียยังกระทบต่อโรงงานพลังงาน ที่จ่ายไฟฟ้าให้กับอาคารที่พักอาศัย 350,000 แห่งในกรุงเคียฟ อย่างไรก็ตาม บริการฉุกเฉินกำลังพยายามทำให้สถานการณ์กลับมามีเสถียรภาพโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีรายงานการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในพื้นที่ตอนกลางของภูมิภาคเชอร์กาซี และคิโรโวกราด รวมถึงทางตะวันออกของภูมิภาคคาร์คีฟ และทางใต้ของซาปอริซเซีย
“วลาดิมีร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า การโจมตีครั้งนี้เป็น “ส่วนหนึ่ง” ในการตอบโต้การโจมตีกองเรือของรัสเซียในเมืองเซวาสโทพอลในไครเมีย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งรัสเซียกล่าวโทษว่ายูเครนอยู่เบื้องหลัง
ทั้งนี้ รัสเซียได้ยึดครองคาบสมุทรของยูเครนอย่างผิดกฎหมาย เมื่อปี 2557 และได้เข้าควบคุมอาณาเขตดังกล่าวตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ปูตินยังเตือนด้วยว่า การโจมตีครั้งนี้ “ไม่ใช่ทั้งหมดที่รัสเซียสามารถทำได้”
ด้านกองทัพยูเครนเผยว่า ได้กำจัดขีปนาวุธประมาณ 90% ที่รัสเซียใช้ในการโจมตี
กองทัพระบุว่า “ศัตรูได้โจมตีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโครงสร้างพื้นฐานทางทหารและพลเรือน ด้วยขีปนาวุธนำวิถีด้วยอากาศยาน 55 ลำ ในจำนวนนี้ 45 ลำถูกยิงโดยฝ่ายป้องกันของยูเครน”
ในช่วงบ่ายวันจันทร์ ไฟฟ้าบางส่วนยังไม่สามารถใช้การได้ในหลายพื้นที่ แม้ว่าจะมีการซ่อมแซมบางส่วนแล้วก็ตาม
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียได้ระดมโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและความร้อนของยูเครน
ดังนั้น ในช่วงก่อนการโจมตีเมื่อวันจันทร์ สถานการณ์ในยูเครนก็เลวร้ายอยู่แล้ว โดยเมื่อวันศุกร์ “โวโลดิมีร์ เซเลนสกี” ประธานาธิบดียูเครน กล่าวว่า ชาวยูเครนประมาณ 4 ล้านคนถูกจำกัดการใช้พลังงาน หลังการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในวันดังกล่าว