นักลงทุนทั่วโลกกำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อมีข้อมูลว่าบริษัท เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ (Berkshire Hathaway) ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ ขายหุ้นแอปเปิล (Apple) ออกไปเกือบครึ่งในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา
วันที่ 3 สิงหาคม 2024 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า นักลงทุนทั้งในไทยและต่างประเทศกำลังสนใจและอยากทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อมีข้อมูลว่า เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ (Berkshire Hathaway) บริษัทโฮลดิงของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทแอปเปิล (Apple Inc.) ได้ขายหุ้นแอปเปิลออกไปแล้วเกือบครึ่งหนึ่งในไตรมาส 2 ปี 2024 ที่ผ่านมา หลังจากที่ขายออกไป 13% ในไตรมาสแรก ขณะที่ฝั่งแอปเปิลนั้น เพิ่งรายงานผลการดำเนินงานว่ามีกำไรสุทธิในไตรมาส 3 (เมษายน-มิถุนายน) ของปีงบการเงิน 2024 ทำสถิติสูงสุด 21,448 ล้านดอลลาร์
ซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานในวันที่ 3 สิงหาคมว่า เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ เปิดเผยว่า ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2024 บริษัทถือหุ้นแอปเปิลอยู่เป็นมูลค่า 84,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทของบัฟเฟตต์ได้ขายหุ้นแอปเปิลออกไปถึง 49.4% ของจำนวนที่เคยถืออยู่เมื่อเริ่มต้นไตรมาส
ทั้งนี้ บัฟเฟตต์ลดการถือหุ้นของแอปเปิลลง 13% ในไตรมาสแรกของปีนี้ และแย้มในการประชุมประจำปีของเบิร์กเชียร์เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านว่า เหตุผลที่ขายออกไปนั้นเป็นเพราะเหตุผลด้านภาษี และบัฟเฟตต์บอกว่าการขายหุ้น “แอปเปิลจำนวนเล็กน้อย” ในปีนี้จะส่งผลดีต่อผู้ถือหุ้นของเบิร์กเชียร์ในระยะยาว หากรัฐบาลสหรัฐต้องการขึ้นอัตราภาษีกำไรจากการขายหุ้นในอนาคต เพื่ออุดช่องว่างทางการคลังที่เพิ่มสูงขึ้น
ถึงแม้บัฟเฟตต์จะบอกเหตุผลแบบนั้น แต่ขนาดของการขายหุ้นครั้งนี้บ่งชี้ว่าอาจมีเหตุผลมากกว่าแค่เรื่องการประหยัดภาษี
ทั้งนี้ ราคาหุ้นของแอปเปิลร่วงลงในไตรมาสแรกของปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าแอปเปิลจะล้าหลังในด้านนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) แต่ในไตรมาสที่ 2 หุ้นแอปเปิลก็พุ่งขึ้นถึง 23% สู่ระดับสูงสุดใหม่ หลังจากที่บริษัทได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมแก่ผู้ลงทุนเกี่ยวกับอนาคตในด้านปัญญาประดิษฐ์
ซีเอ็นบีซีระบุว่า ยังไม่ชัดเจนว่าเหตุใดนักลงทุนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านการเน้นลงทุนระยะยาวอย่างบัฟเฟตต์จึงขายหุ้นที่ซื้อมาเมื่อ 8 ปีก่อน อาจจะเป็นเหตุผลของบริษัทเอง หรือการประเมินมูลค่าตลาด หรือเพราะข้อกังวลด้านการจัดการพอร์ตโฟลิโอ (โดยปกติแล้วบัฟเฟตต์ไม่อยากให้หุ้นตัวใดตัวหนึ่งมีสัดส่วนในพอร์ตใหญ่มากเกินไป) ซึ่งหุ้นแอปเปิลที่เบิร์กเชียร์ถืออยู่นั้น ครั้งหนึ่งเคยมีจำนวนมากจนกินสัดส่วนครึ่งหนึ่งของพอร์ต
นอกจากหุ้นแอปเปิลแล้ว เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ ของบัฟเฟตต์ได้ขายหุ้นธนาคารแบงก์ออฟอเมริกา (Bank of America) อย่างต่อเนื่อง 12 วันติดต่อกัน นับถึงวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่า 3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ โดยภาพรวมรายงานประจำไตรมาส 2/2024 ของเบิร์กเชียร์แสดงให้เห็นว่าบัฟเฟตต์เทขายหุ้นออกไปในไตรมาสดังกล่าว ในช่วงที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 (S&P 500) พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่มีการคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะ “ชะลอตัว” และล่าสุด ความสามารถในการนำเศรษฐกิจสหรัฐลงจอดอย่างนุ่มนวล (Soft Landing) ของเฟดถูกตั้งคำถาม เนื่องจากรายงานตัวเลขการจ้างงานเดือนกรกฎาคมที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม ออกมาต่ำกว่าคาด
ด้านรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ดูเหมือนว่าวอร์เรน บัฟเฟตต์ มีความกังวลเกี่ยวกับหุ้นมากขึ้น จึงเลือกที่จะไม่ใช้เงินลงทุนแล้วปล่อยให้เงินสดของเบิร์กเชียร์สูงเกือบ 277,000 ล้านดอลลาร์ และยังขายหุ้นแอปเปิลออกไปจำนวนมาก แม้ว่าแอปเปิลจะรายงานกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 2 ทำสถิติกำไรรายไตรมาสสูงที่สุดก็ตาม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- บัฟเฟตต์ขายหุ้น Bank of America ออก 12 วันติด มูลค่า 3,800 ล้านเหรียญ
- Berkshire Hathaway เงินสดทุบสถิติใหม่ เป็นปัญหากวนใจ “บัฟเฟตต์”
- จับตา 5 ไฮไลต์ ประชุม Berkshire Hathaway ปีแรกที่ไม่มี “ชาร์ลี” อยู่ข้าง “บัฟเฟตต์”
- จดหมาย วอร์เรน บัฟเฟตต์ ยกย่อง ชาร์ลี มังเกอร์ เป็นสถาปนิก เปรียบตัวเองเป็นผู้รับเหมา