ซีกเกอร์ บริษัทผลิตอีวี สัญชาติจีนอ้างเก๋งอีวีรุ่นใหม่มีแบตเตอรี่ที่ชาร์จได้เร็วที่สุดในโลก มีกำหนดเปิดขายตั้งแต่สัปดาห์หน้า ด้านยอดขายอีวีทั่วโลกในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 21 % จากเดือนเดียวกันของปีก่อน แรงหนุนมาจากยอดขายในจีนขยายตัวมากที่สุด 31 % แม้ดีมานด์ลดในตลาดอียู
วันที่ 14 สิงหาคม 2024 บีบีซีรายงานว่า บริษัทผลิตรถพลังงานไฟฟ้าหรืออีวี สัญชาติจีน Zeekr หรือซีกเกอร์ อ้างแบตเตอรี่รถอีวีรุ่นใหม่ที่บริษัทผลิต ชาร์จได้เร็วที่สุดในโลก โดยเร็วกว่ารถคู่แข่งใดๆรวมถึงแบรนด์ชั้นนำของอุตสาหกรรมอีวีอย่างเทสลา (Tesla) และบีวายดี (BYD)
บริษัทอ้างว่า ทางบริษัทได้อัพเกรดแบตเตอรี่ที่สามารถชาร์ตได้10 -80 % ของสมรรถนะสูงสุดภายในเวลา 10 นาที 30 วินาที โดยใช้สถานีชาร์จไฟที่เร็วที่สุดของบริษัท หากนำมาเปรียบเทียบกัน รถเทสลาของอีลอน มัสก์รุ่น Model 3 ชาร์จ 15 นาที แล่นได้ 282 กิโลเมตร น้อยกว่าครึ่งของระยะทางเต็มที่ที่รถรุ่นนี้แล่นได้
รถอีวี ซีดาน หรือรถเก๋งอีวี พลังงานไฟฟ้า รุ่น 007 ของ ซีกเกอร์ ซึ่งมีกำหนดขายตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไปนี้ จะเป็นยานยนต์แรกของบริษัทที่มีแบตเตอรี่ใหม่ดังกล่าว คุณสมบัติแบตเตอรี่ทำงานได้ดีแม้ในสภาพอากาศหนาว ซึ่งชาร์จได้ตั้งแต่ 10-80 % ของสมรรถนะสูงสุดในเวลาน้อยกว่าครึ่งชั่วโมงที่อุณหภูมิต่ำสุด -10 องศาเซลเซียส
นายทู หลี่ (TU Le) ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการจัดการบริษัทที่ปรึกษา “ชิโน ออโต อินไซต์ส” กล่าวว่า เทคโนโลยีชาร์จไฟของเทสลาไม่ได้เป็นผู้นำของอุตสาหกรรมอีวีอีกต่อไปและไม่ได้เป็นมาสักระยะหนึ่งแล้วด้วย และว่า การอ้างที่ช่างกล้าของ ซีกเกอร์นั้น สามารถเชื่อถือได้ แต่ที่สำคัญกว่า คือ ต่อให้ไม่ได้เป็นแบตเตอร์รี่อีวีที่เร็วที่สุดในโลก แต่การเป็นหนึ่งในแบตเตอรี่อีวีที่เร็วที่สุด ยังคงถือเป็นก้าวกระโดดอย่างมากสำหรับ ซีกเกอร์ อยู่ดี
นายมาร์ก เรนฟอร์ด ผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรมรถยนต์ในจีนกล่าวว่า การแข่งขันในจีนดุเดือดเหลือเชื่อและในขณะที่แบรนด์อย่างบีวายดีที่มียอดการผลิตและยอดขายอันดับต้นแล้ว แบรนด์อย่าง ซีกเกอร์ (Zeekr),หลี่ ออโต (Li Auto) และนีโอ ( Nio) กำลังมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์การชาร์จ และเสริมว่า บริษัทแม่ของซีกเกอร์ อย่าง จีลี่ (Geely) เป็นธุรกิจที่มีการบูรณาการในแนวตั้งอย่างมาก และมีทรัพยากรในการดำเนินงาน
จีลี่ เป็นเจ้าของแบรนด์รถหลายแบรนด์รวมถึงรถสปอร์ตหรูในอังกฤษอย่างแบรนด์โลตัสและวอลโวของสวีเดน ซึ่งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หุ้นของซีกเกอร์ เริ่มซื้อขายในตลาดหหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange) นับเป็นการเปิดตัวในตลาดสหรัฐครั้งใหญ่ครั้งแรกโดยบริษัทสัญชาติจีน นับตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งปัจจุบันหุ้นซื้อขายกันที่ราคาต่ำกว่า 27 % เมื่อเทียบราคาไอพีโอ ท่ามกลางความกังวลเพิ่มมากขึ้นจากเจ้าหน้าที่ในสหรัฐและสหภาพยุโรปหรืออียูและตลาดรถยนต์แห่งอื่นๆเกี่ยวกับการขยายไปต่างประเทศของบริษัทอีวีจีนหลายบริษัท
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา รอยเตอร์รายงานว่า ยอดขายรถอีวีแบบเต็มรูปแบบ (BEV) และแบบปลั๊กอิน ไฮบริด (PHEV) ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 21 % ในเดือนกรกฎาคม จากเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า ปัจจัยจากยอดขายในจีนช่วยหนุน ซึ่งเติบโตแข็งแกร่งมากที่สุดในปีนี้ แม้ดีมานด์ลดลงในยุโรป
โร โมชั่น (Rho Motion) บริษัทวิจัยตลาดระบุอีกว่า รถอีวี ทั้งรถอีวีแบบเต็มรูปแบบ (BEV) และแบบปลั๊กอิน ไฮบริด (PHEV) ขายไปแล้วทั่วโลกจำนวน 1.35 ล้านคันในเดือนกรกฎาคมและ ในจำนวนนี้ 0.88 ล้านคันถูกขายในจีน ซึ่งในจีนมียอดขายเพิ่มขึ้น 31 % เมื่อเทียบปีต่อปี
บีวายดี ผู้ผลิตอีวีรายใหญ่ที่สุดของโลกแจ้งว่า ในช่วง 7 เดือนแรกปีนี้ ยอดขายเพิ่ม 13 % และ 44 % สำหรับยอดขายอีวีแบบเต็มรูปแบบและแบบปลั๊กอิน ไฮบริด ตามลำดับ จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ในสหภาพยุโรปหรืออียู ยอดขายรายเดือนลดลง 7.8% ในเดือนกรกฎาคมจากเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า และในเยอรมนี ซึ่งเป็นตลาดอีวีที่ใหญ่ที่สุดของอียู ยอดขายอีวีลดลง 12 % ในช่วง 7 เดือนแรกของปี เมื่อเทียบช่วงเดียสกันของปีก่อนหน้า “ในสหภาพยุโรป เอ็มจี มอเตอร์ ( MG Motor) ซึ่งเป็นของบริษัท SAIC Motor Corp ของจีน คาดว่าจะได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากภาษีชั่วคราวที่บังคับใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้าจากจีน” นายชาร์ลส เลสเตอร์ ผู้จัดการข้อมูลของโร โมชั่น ระบุ ส่วนในสหรัฐและแคนาดา ยอดขายอีวีเพิ่มขึ้น 7.1 % ในเดือนกรกฎาคม จากเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า