“ทวิตเตอร์” ให้พนักงาน 5,000 คน “ทำงานจากบ้าน” หวังยับยั้งไวรัสระบาด

สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า “ทวิตเตอร์” ประกาศอนุญาตให้พนักงานรวมราว 5,000 คน โดยเฉพาะในฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอีกหลายพื้นที่ทั่วโลกสามารถทำงานที่บ้านได้ เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัส “โควิด-19” จากที่ก่อนหน้านี้บริษัทได้ห้ามพนักงานทุกรายเดินทางโดยไม่จำเป็น และยังระงับการเข้าร่วมงานประชุมสื่อ “เซาท์ บาย เซาท์เวสต์” (SXSW) ที่จะจัดขึ้นในเดือนนี้ที่เมืองออสติน รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา

เจนนิเฟอร์ คริสตี้ หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ของทวิตเตอร์ ระบุว่า “เป้าหมายของเราคือการลดโอกาสในการแพร่ระบาดของโควิด-19 สู่พวกเราและคนรอบข้าง แม้ว่านี่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเรา แต่เราก้าวไปสู่จุดที่มีพนักงานของเรากระจายตัวอยู่ทั่วโลก เราให้บริการในระดับโลกและเรามุ่งมั่นจะให้ทุกคนสามารถทำงานได้ทุกที่ในทวิตเตอร์”

ทั้งนี้ ทวิตเตอร์ได้มีการสนับสนุนและพัฒนาวิธีการทำงานที่บ้านมาก่อนหน้านี้แล้ว โดยได้มีการประกาศแผนการทำงานทางไกลโดย แจ็ค ดอร์ซีย์ ประธานกรรมการบริหารของทวิตเตอร์ในปีที่ผ่านมา แต่การประกาศครั้งนี้ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัส นับเป็นการทดลองให้พนักงานทำงานจากที่บ้านครั้งใหญ่ของบริษัท

การเคลื่อนไหวครั้งนี้สอดคล้องกับมาตรการของหลายบริษัทในเอเชียที่อนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้ ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง เฟซบุ๊ก และ กูเกิล ก็ได้เลื่อนหรือยกเลิกการประชุมในสหรัฐแล้วหลายงาน รวมถึงการประชุม SXSW ที่เฟซบุ๊กก็ประกาศระงับเข้าร่วมเช่นเดียวกับทวิตเตอร์แล้วด้วย

ด้านพนักงานของกูเกิลในสำนักงานใหญ่กรุงดับลิน ไอร์แลนด์ จะทดสอบการทำงานจากที่บ้านในวันนี้ (3 มีนาคม) เพื่อประเมินความพร้อมของบริษัทในกรณีที่เกิดการระบาดในไอร์แลนด์ แต่คาดว่าพนักงานส่วนใหญ่กว่า 8,000 คนจะกลับเข้าทำงานในสำนักงานตามปกติในวันพรุ่งนี้

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสเพิ่มขึ้นกว่า 3,000 รายแล้ว ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่แพร่กระจายจากเอเชีย สู่สหรัฐอเมริกา ยุโรป และตะวันออกกลางแล้ว