สิงคโปร์แอร์ไลน์เป็นหนึ่งในสายการบินจำนวนมากที่พยายามหารูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปช่วงโควิด-19 ระบาด
วันนี้ (13 ต.ค. 2563) สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า สิงคโปร์แอร์ไลน์ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเมื่อเดือนที่แล้ว สายการบินประกาศจะปลดพนักงาน 4,300 คนหรือประมาณ 20%
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
ล่าสุดสายการบินแห่งชาติสิงคโปร์กำลังจะเปิดให้บริการอาหารกลางวัน แบบรับประทานบนเครื่องบินที่จอดอยู่ในสนามบินชางงี โดยจะใช้เครื่องบินแอร์บัส A380 จำนวน 2 ลำ ให้บริการลำละ 3 ชั่วโมง และแต่ละลำรองรับลูกค้าเพียง 50% ของที่นั่งทั้งหมด เพื่อเว้นพื้นที่ตามระเบียบการเว้นระยะทางสังคม
ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเลือกคลาสของที่นั่งได้ โดยเริ่มจากอีโคโนมี ราคาเริ่มต้นประมาณ 39 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีภาพยนต์เปิดให้ชมระหว่างรับประทานอาหารด้วย
หลังจากที่เปิดขายบัตรที่นั่งของตารางบริการ 2 วันแรก (24-25 ต.ค. 2563) บัตรขายหมดภายในครึ่งชั่วโมงถึงแม้บางที่นั่งจะมีราคาสูงถึง 496 ดอลลาร์สหรัฐ สิงคโปร์แอร์ไลน์จึงจะเปิดให้บริการเพิ่มอีกสองวัน ซึ่งมีคนสนใจเข้าคิวรอซื้อบัตรจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังมีบริการจัดส่งอาหารที่ให้ภาชนะเหมือนที่ใช้บนเครื่องบินด้วย
ทั้งนี้ สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (Iata) ได้เตือนว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ตำแหน่งงานด้านสายการบินหลายแสนตำแหน่งตกอยู่ในความเสี่ยง และปริมาณเที่ยวบินในปีนี้จะต่ำกว่าปีที่แล้ว 66%
ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ทุกสายการบินไม่สามารถทำเที่ยวบินได้มากเหมือนแต่ก่อน นอกจากสิงคโปร์แอร์ไลน์แล้ว สายการบินอื่น ๆ ก็พยายามหาโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ มาช่วยพยุงบริษัทเช่นเดียวกัน อาทิ อีวีเอแอร์ สายการบินสัญชาติไต้หวัน และควอนตัส สายการบินสัญชาติออสเตรเลีย กำลังจะให้บริการเที่ยวบินแบบชมวิว ที่ขึ้นเครื่องและลงจอดที่สนามบินเดียวกัน ซึ่งเดือนกันยายนที่ผ่านมาสิงคโปร์แอร์ไลน์ก็มีแผนจะเปิดบริการเช่นเดียวกันนี้ แต่ได้ล้มเลิกไป