โควิดสายพันธุ์เดลต้า ถล่ม อังกฤษ อิสราเอล ออสเตรเลีย

โควิด-19 สายพันธุ์ “เดลต้า” ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรกที่อินเดีย และแพร่ระบาดไปแล้วใน 92 ประเทศ กำลังถูกมองว่าจะเข้ามาเป็นโควิดสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดทั่วโลก โดยรายงานการทดลองที่อังกฤษระบุอัตราการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เดลต้า รุนแรงกว่าสายพันธุ์อัลฟ่า หรือสายพันธุ์ที่ถูกค้นพบครั้งแรกที่อังกฤษถึง 60%

เดอะ การ์เดี้ยน รายงานว่า หลายประเทศที่ก่อนหน้านี้ใกล้จะสามารถคุมโควิด-19 ได้แล้ว กำลังเผชิญกับการระบาดของสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งนอกจากทำให้การ “ปิดจ็อบ” ควบคุมโควิดไม่สำเร็จ ยังมีผลกระทบต่อการให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินตามปกติไม่ได้

ประเทศ “อิสราเอล” ซึ่งประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดสแล้วราว 57% และก่อนหน้านี้เคยประกาศชัยชนะจากโควิดแล้ว ล่าสุดช่วงกลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา มีอัตราผู้ติดเชื้อต่อวันเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้า นอกจากนี้ราว 50% ของผู้ติดเชื้อ ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว ซึ่งทำให้ทางการต้องกลับมาออกมาตรการบังคับใส่แมสก์ในที่ร่ม หลังจากก่อนหน้านี้ยกเลิกไปแล้ว

ขณะเดียวกัน “สหราชอาณาจักร” (ยูเค) เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ก่อนหน้านี้ควบคุมโควิด-19 ได้ระดับหนึ่ง ผ่านมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด และการฉีดวัคซีนที่รวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เริ่มมีการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลต้า ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน มิ.ย. ซึ่งได้ทำให้ทางการต้องเลื่อนการยกเลิกมาตรการป้องกันโรคระบาดทั้งหมดออกไปอีก 4 สัปดาห์

โดยล่าสุด สหราชอาณาจักรพบผู้ติดเชื้อในวันเดียวมากถึง 18,270 คน มากที่สุดในรอบเกือบ 5 เดือน ซึ่งพบว่า 99% เป็นการติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้า และเป็นการพบผู้ติดเชื้อราวแสนคนภายในสัปดาห์เดียว เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าถึง 50% และอาจทำให้แผนการยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งถูกเลื่อนมาแล้ว จะถูกเลื่อนออกไปอีก

ส่วนฝั่งสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด และมีอัตราการฉีดวัคซีนที่รวดเร็ว เพื่อเตรียมเปิดประเทศ อย่างไรก็ดี “อังเกลา แมร์เคิล” นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ออกมาเตือนว่า สายพันธุ์เดลต้ากำลังจะระบาดหนัก และคาดว่าในเดือน ส.ค.นี้ผู้ติดเชื้อ 90% จะเป็นการติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้า

โดยทางการได้เตือนให้เร่งฉีดวัคซีนให้ครบโดส เนื่องจากยังมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนแล้ว 1 โดส ซึ่งหากพบการระบาดที่เพิ่มมากขึ้น อาจจะมีผลกระทบต่อแผนการเปิดประเทศของอียูเดือน ก.ค.นี้ เพื่อรับการท่องเที่ยวช่วงฤดูร้อน ซึ่งจำเป็นต่อเศรษฐกิจของอียูอย่างมาก

นอกจากนี้ “ออสเตรเลีย” เป็นอีกหนึ่งประเทศที่สามารถควบคุมโควิดได้อย่างดีเยี่ยม ล่าสุดทางการเมืองซิดนีย์ รวมถึงเมืองรอบข้างประกาศมาตรการ “ล็อกดาวน์สูงสุด” บังคับให้ประชาชนราว 5 ล้านคน ทำตามมาตรการป้องกันโรคที่เคร่งครัด หลังเผชิญกับการระบาดของสายพันธุ์เดลต้า โดยพบผู้ติดเชื้อแล้วหลักร้อยคน ขณะที่รัฐบาล “สหรัฐอเมริกา” ได้ออกมาประกาศว่า โควิดสายพันธุ์เดลต้า เป็นภัยอันตรายที่สุดสำหรับการปราบปรามโควิด-19 แม้ประชาชนจะฉีดวัคซีนครบโดสแล้วถึง 46%