อังกฤษ ปรับแนวทางต่างชาติท่องเที่ยวในประเทศ มีผล 8 ธ.ค

ตรวจโควิด
FILE PHOTO : MENAHEM KAHANA / AFP

อังกฤษ ปรับแนวทางการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ อายุ 12 ปีขึ้นไป ต้องตรวจโควิด “PCR-LFD” มีผลบังคับใช้ 8 ธ.ค. นี้ 

วันที่ 7 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กเพจ UK in Thailand ของสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เผยแพร่ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงแนะแนวการท่องเที่ยวของอังกฤษ ระบุว่า ผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ต้องรับการตรวจโควิด-19 แบบ RT-PCR หรือ Lateral Flow Device (LFD) ก่อนเดินทางไปยังอังกฤษจากต่างประเทศภายใน 48 ชั่วโมง

สำหรับผู้ต้องที่การเดินทางเข้าประเทศอังกฤษ มีทั้งผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส และยังไม่ได้รับวัคซีนครบโดส โดยสามารถอ่านรายละเอียดและกติกาการเดินทาง ได้ที่ https://www.gov.uk/

ส่วนผู้ที่ต้องการได้รับการพิจารณาว่า “ได้รับวัคซีนครบถ้วน” ต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนอย่างน้อย 14 วัน ก่อนเดินทางมาถึงอังกฤษ ตามยี่ห้อ ดังนี้

  • แอสตร้าเซนเนก้า (รวมล็อตที่ผลิตในไทยด้วย)
  • ไฟเซอร์
  • โมเดอร์นา
  • จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
  • ซิโนแวค
  • ซิโนฟาร์ม
  • โคแวกซิน

ในส่วนของหลักฐานการฉีดวัคซีน หากได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน ต้องมอบใบรับรองการฉีดวัคซีนเป็นหลักฐาน เป็นภาษาอังกฤษ และเอกสารต้องออกโดยหน่วยงานสาธารณะสุขระดับชาติหรือระดับรัฐ ที่มีการระบุ ชื่อ-นามสกุล วันเกิด ยี่ห้อวัคซีนและผู้ผลิต

ขณะที่ เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ระบุว่า สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (UKHSA) เปิดเผยว่า อังกฤษพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน เพิ่ม 86 ราย ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั้งหมดอยู่ที่ 246 ราย เมื่อวันเสาร์ (5 พ.ย.) ที่ผ่านมา ยอดผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน ทั้งหมดอยู่ที่ 160 ราย จึงเท่ากับว่า อังกฤษพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเกิน 50% ในวันเดียว

ส่วนยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ทั้งหมดเมื่อนับรวมสายพันธุ์อื่นอยู่ที่ 43,992 ราย ผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศซึ่งรวมถึงเด็กที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป จะต้องทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนออกเดินทาง 48 ชั่วโมง โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 11.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (8 ธ.ค.) ตามเวลาประเทศไทย