น้ำมันโลกราคาพุ่ง คาดปลายปีแตะ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

Photo by GEORGE FREY / AFP

ราคาน้ำมันดิบเบรนต์และเทกซัสพุ่งแพงสุดรอบ 7 ปี ขณะที่โกลด์แมน แซกส์คาดจ่อแตะ 100 เหรียญต่อบาร์เรล

วันที่ 19 มกราคม 2565 รอยเตอร์สรายงานว่า Goldman Sach เปิดรายงานวิเคราะห์ว่า ในปี 2022 นี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือ จะพุ่งแตะระดับ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในไตรมาสแรกของปีนี้ และมีแนวโน้มทะยานขึ้น 95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในไตรมาสสอง กระทั่งไตรมาสสามและสี่ อาจพุ่งถึงระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และยังมีแนวโน้มทะยานถึง 105 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในต้นปี 2023

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสที่ซื้อขายในตลาดเอเชียเมื่อ 18 มกราคม งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ปรับสูงขึ้นที่ 85.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2014 ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนต์ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ทำสถิติขยับอยู่ที่ 88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบในตลาดหลัก 2 ตลาดของโลกปรับตัวทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี หลังมีความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้น อันเนื่องจากมีการคาดการณ์ในแง่บวกว่าเศรษฐกิจโลกกำลังจะเติบโตเพิ่มขึ้น แต่ด้วยสต๊อกน้ำมันดิบในประเทศกลุ่มสต๊อกน้ำมันดิบในกลุ่มประเทศ OECD กำลังร่อยหรอลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2000 ในช่วงฤดูร้อนนี้ เนื่องจากการระบาดของโควิด-19

ขณะที่บรรดากลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันหรือ OPEC และชาติพันธมิตร OPEC+ ยังไม่ได้ส่งสัญญาณเพิ่มกำลังการผลิตมากเท่าที่ควร โดยประเมินว่า กำลังผลิตของ OPEC+ ในปี 2022 จะเพิ่มขึ้นเพียง 2.5 ล้านบาร์เรล/วัน จากการชะงักงันในการเพิ่มกำลังผลิตของ OPEC ประกอบกับการผลิตที่น่าผิดหวังในบราซิลและนอร์เวย์ รวมถึงรัสเซียที่กำลังดิ้นรนในการเพิ่มกำลังผลิต สวนทางกับความต้องการน้ำมันในตลาดโลกที่จะเพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้

ขณะเดียวกันยังมีความกังวลจากปัจจัยความมั่นคงในภูมิภาคที่เกิดขึ้น หลังจากที่กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนโจมตีในกรุงอาบูดาบีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ส่งผลให้รถบรรทุกน้ำมัน 3 คันระเบิดใกล้กับคลังเก็บน้ำมัน Mussafah ของบริษัทน้ำมันแห่งชาติอาบูดาบี ( ADNOC) ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการจัดหาน้ำมันจากภูมิภาคที่เป็นแหล่งน้ำมันดิบ ขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กล่าวว่า จะตอบสนองต่อการโจมตีของผู้ก่อการร้ายนี้อย่างสาสม

ขณะเดียวกันความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครน ซึ่งเป็นสมาชิก OPEC+ ยังเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาน้ำมันทั้งสองตลาดปรับตัวสูงขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับปริมาณและเสถียรภาพของน้ำมันที่จะออกสู่ตลาด

รายงานวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซกส์ สอดคล้องกับคำกล่าวของเจ้าหน้าที่โอเปก ต่อรอยเตอร์สว่า มีแนวโน้มที่ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นอาจยืดเยื้ออีก 2-3 เดือนข้างหน้า เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันฟื้นตัว ประกอบกับ OPEC+ ผลิตน้ำมันไม่ได้ตามเป้า