นึกว่าไมโครโฟนปิดอยู่ ประธานาธิบดี ไบเดนสบถใส่นักข่าว ที่จี้ถามเรื่องภาวะเงินเฟ้อว่า “ไอ้เวร” หลุดออกไมค์ แต่ทำไมเรื่องนี้กลับไม่ถูกขยายความแบบสมัยทรัมป์
วันที่ 26 มกราคม 2565 ซีเอ็นเอ็น รายงานวิเคราะห์ กรณี โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา สบถใส่ ปีเตอร์ ดูซี นักข่าวสังกัด ฟ็อกซ์ นิวส์ หลุดออกไมโครโฟน ว่า “stupid son of a bitch” (โธ่..ไอ้เวรงี่เง่า) ขณะถูกจี้ถามว่าสถานการณ์ปัญหาเงินเฟ้อเป็นเงื่อนไขทางการเมืองหลังเลือกตั้งกลางเทอมหรือไม่
- เช็กที่นี่ ออมสิน-ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อปิดหนี้นอกระบบ 20,000 บาท ใครกู้ได้บ้าง!
- กรุงเทพฯ กปน.หยุดจ่ายน้ำ 21 มี.ค. 18 พื้นที่ รับมือน้ำไม่ไหล เช็กที่นี่
- เร่งสายสีแดง มธ.รังสิต-มหิดล ศาลายา คอนโดฯ-บ้านเดี่ยวจ่อเปิดตัวรับเทรนด์ปีมังกร
เหตุการณ์ช่วงแถลงข่าววันจันทร์ที่ 24 ม.ค. เป็นบรรยากาศเดือดดาลในทำเนียบขาวไม่น้อย แต่ภายในชั่วโมงเดียว ไบเดนก็โทรศัพท์ไปขอโทษนักข่าวของฟ็อกซ์ ไม่ให้เรื่องบานปลาย
คริส ซิลลิซา บ.ก.ภาคสนามของซีเอ็นเอ็นมองว่า เมื่อเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้ที่เกิดขึ้นในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ตำหนิและดูถูกสื่อสารพัด แต่ไม่เคยขอโทษสักครั้ง
เดือน มี.ค. 2563 ทรัมป์ตอกหน้าปีเตอร์ อเล็กซานเดอร์ นักข่าวสำนักข่าวเอ็นบีซี ว่า “ผมพูดว่าคุณเป็นนักข่าวยอดแย่ นั่นเป็นสิ่งที่ผมพูด ผมคิดว่าเป็นคำถามที่แย่มากและผมคิดวาเป็นสัญญาณร้ายที่คุณกำลังพูดถึงชาวอเมริกัน”
ก่อนหน้านั้น ปลายปี 2561 ทรัมป์ตำหนิ จิม อคอสตา ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า “คุณเป็นคนหยาบคายและแย่สุดๆ คุณแม่ควรทำงานกับซีเอ็นเอ็น”
การแถลงข่าวคราวเดียวกันนั้นเอง ทรัมป์กล่าวหา ยามิชี อัลซินดอร์ นักข่าวหญิงสำนักข่าวพีบีเอส ซึ่งเป็นคนผิวดำว่า “เหยียดผิว” ที่ถามคำถามเกี่ยวกับกลุ่มคนผิวขาวที่สนับสนุนตน
นอกจากนี้ ทรัมป์เคยต่อว่าสื่อมวลชนต่อหน้าว่า “ศัตรูของประชาชน” และยังเคยโพสต์ข้อความนี้ในทวิตเตอร์ด้วย
แทนที่จะขอโทษ แตทรัมป์กลับโจมตีผู้ที่รายงานข่าวเกี่ยวกับตัวเขาซึ่งมักจะตำหนิสื่อเป็นการส่วนตัวและยังแนะสื่อว่าตนเป็นเพียงคนเดียวในประเทศที่พูดความจริงกับสื่อ
การลดระดับความสัมพันธ์ระหว่างประธานาธิบดีกับสื่อเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของทรัมป์ที่จะปูพื้นฐานความเป็นประธานาธิบดียุคใหม่เหมือนที่ทรัมป์โพสต์ในทวิตเตอร์ แต่ความจริง การทำเช่นนี้เป็นมารยาทไม่ดี และยังใช้ความหยาบคายกลายเป็นกลยุทธ์ทางการเมือง
กรณีที่ไบไดนด่านักข่าวว่า “ไอ้เวร” เป็นเรื่องไม่สง่างามเอาเลย แต่ก็ยังดีที่โทรศัพท์ขอโทษนักข่าวคนนั้น
“ต้องไม่ลืมความจริงที่ว่า ตอนนี้เรามีประธานาธิบดีอีกครั้ง ในฐานะคนที่ต้องจัดการเรื่องต่างๆ อย่างมีมารยาททางสังคมและสุภาพ ดังนั้นเมื่อประธานาธิบดีทำสิ่งที่ควรทำ มันจะค่อยๆ ส่งผลทางสังคมที่เหลือ ซึ่งสิ่งที่เราเห็นมาตลอด 4 ปีก่อนหน้านี้ กลับเป็นมุมที่ตรงกันข้าม”