ชายจีนหวิดถูกฌาปนกิจ หลังเจ้าหน้าที่เซี่ยงไฮ้คิดว่าเสียชีวิตจากโควิดแล้ว

โควิด จีน
Photo by Hector RETAMAL / AFP

จีนลงโทษเจ้าหน้าที่เซี่ยงไฮ้ หลังเข้าใจผิดนำชายสูงวัยคิดว่าเสียชีวิต ใส่ถุงศพเตรียมไปฌาปนกิจ

วันที่ 3 พฤษภาคม 2565 บีบีซีรายงานว่า ทางการท้องถิ่นนครเซี่ยงไฮ้ สั่งลงโทษไล่ออกเจ้าหน้าที่จีน 4 คน หลังนำร่างชายสูงอายุรายหนึ่ง ซึ่งถูกเข้าใจว่าเสียชีวิตแล้วบรรจุใส่ถุงศพเพื่อเตรียมขนไปฌาปนกิจ ทว่าระหว่างกำลังขนย้ายเจ้าหน้าที่กลับพบว่าชายสูงวัยดังกล่าวยังมีชีวิตอยู่

รายงานระบุว่า ภาพจากคลิปวิดีโอซึ่งถูกถ่ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงเจ้าหน้าที่หน่วยคุมโควิดในเซี่ยงไฮ้ที่ใส่ชุดป้องกันอย่างมิดชิด กำลังเข้ามาเก็บ “ร่าง” ของชายสูงวัยรายหนึ่งในบ้านพักคนชราเขตผู่โถวของเซี่ยงไฮ้ โดยนำร่างของชายสูงวัยผู้นั้นเข้าใส่ในถุงบรรจุศพเพื่อเตรียมขนไปเข้าสู่กระบวนการฌาปนกิจ

ทว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ขนย้ายร่างมายังสถานที่เตรียมฌาปนกิจ กลับพบว่าร่างที่อยู่ในถุงบรรจุศพมีการขยับได้ เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดซิปออก ปรากฏว่าร่างที่อยู่ในถุงบรรจุศพไม่ใช่ศพ แต่เป็นผู้สูงอายุที่ยังมีชีวิตอยู่

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มีผู้บันทึกคลิปวิดีโอขณะเกิดเหตุไว้ได้ และถูกแชร์อย่างแพร่หลายในสื่อโซเชียลมีเดียของจีน ส่งผลให้เกิดกระแสวิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นจำนวนมาก

หลังเกิดเหตุดังกล่าว ทางการจีนได้ลงโทษเจ้าหน้าที่ 4 ราย รวมทั้งรองผู้อำนวยการสำนักกิจการพลเรือนในท้องที่ และผู้อำนวยการสถานดูแลผู้ป่วย ถูกไล่ออก ส่วนแพทย์อีกหนึ่งรายถูกยึดใบอนุญาตทางการแพทย์ชั่วคราวฐานไม่ตรวจสอบร่างของชายสูงวัยคนดังกล่าวอย่างละเอียดก่อนสั่งให้ขนไปเข้าสู่การฌาปนกิจ

อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเปิดเผยชื่อของชายสูงวัยคนดังกล่าว ขณะที่หลังถูกพบว่ายังไม่เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ได้นำชายสูงวัยคนดังกล่าวขึ้นรถเข็นกลับมาส่งยังศูนย์พักคนชราตามเดิม

ภายหลังมีการเผยชื่อสถานที่เกิดเหตุว่า สถานพยาบาลเซี่ยงไฮ้ซินฉางเจิง (Shanghai Xinchangzheng) ได้ออกขอโทษต่อความผิดพลาด ทั้งยกย่องพนักงานของตนเองที่สังเกตว่าชายคนดังกล่าวยังไม่เสียชีวิต

เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความตกใจให้กับผู้คนในจีนเป็นอย่างมาก ผู้ใช้งานเว่ยป๋อหลายรายวิจารณ์ว่า นี่มันเป็นสัญญาณของ “ความโกลาหล” ที่เกิดขึ้นในเซี่ยงไฮ้ “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพลเมืองเซี่ยงไฮ้ไม่ได้บันทึกเหตุการณ์นี้ไว้ได้” ขณะที่ชาวเน็ตอีกรายแสดงความเห็นว่า บ้านพักคนชราเสมือนที่พักพิงสุดท้ายของผู้สูงอายุจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่โดดเดี่ยว ถ้าเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก ใครจะกล้าส่งบุพการีของพวกเขาในความดูแลของบ้านพักคนชรา แล้วบ้านพักคนชรายังเป็นสถานที่ไว้ใจได้อยู่หรือไม่”