ไอคอนสยามหนุนสงกรานต์ขึ้นแท่นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ตอกย้ำแลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา

การถูกยกให้เป็น Global Destination แลนด์มาร์กระดับโลก ไม่ได้มากันง่ายๆ ต้องผ่านการยอมรับจากผู้คนทั่วโลก เช่นเดียวกับไอคอนสยามของไทยเวลานี้ ที่กลายเป็นแลนด์มาร์กริมแม่น้ำเจ้าพระยา หมุดหมายสำคัญของกรุงเทพมหานครและประเทศไทย 

นับแต่เปิดตัว “ไอคอนสยาม” อย่างยิ่งใหญ่ด้วยมูลค่าหลายหมื่นล้าน เมื่อปลายปี 2561 ด้วยการ Co-Creation ร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วน เป็นการเลี้ยวมาบรรจบกันระหว่างการดำเนินธุรกิจและการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย สร้างความตื่นตัวให้กับเศรษฐกิจริมน้ำเจ้าพระยา อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน 

สถานที่ตั้งของ “ไอคอนสยาม” คือตัวแทนประเทศไทยในทุกเทศกาลสำคัญ เช่นเดียวกับเมื่อปลายปี 2565 ที่ผ่านมา “ไอคอนสยาม” ถูกยกให้เป็น  1 ใน 10 สถานที่เคาน์ดาวน์ระดับโลกจาก CNN ที่คนทั่วโลกร่วมเฝ้ามองการนับถอยหลังเคาน์ดาวน์สู่ปีใหม่   

นอกจากนั้น ผลสำรวจจาก แกร๊บ ประเทศไทย พบว่า ไอคอนสยามเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่ชาวต่างชาติชอบไปมากที่สุด ตอกย้ำถึงความเป็นแลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยาเพียงหนึ่งเดียวที่นักท่องเที่ยวจะต้องมาเยือน

ถามไปที่คุณสุพจน์  ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด ได้รับคำตอบว่า ตั้งแต่ต้นปีพบว่านักท่องเที่ยวทั้งชาวจีน รวมถึงประเทศในแถบเอเชีย และจากทั่วโลกหลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก คาดการณ์ว่าปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยทั้งสิ้นถึง 30 ล้านคน เป็นสัญญาณบวกแสดงถึงการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว ที่ตามมาคือเศรษฐกิจขยายตัว ส่งผลให้แนวโน้มการใช้จ่ายประชาชนคึกคักมากกว่าทุกๆ ปี  ตลอดเดือนเมษายน ไอคอนสยามนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดของไทยไปสู่สายตาทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ชูเทศกาลมหาสงกรานต์และว่าวไทย ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกอีกครั้ง

Soft Power กระตุ้นการท่องเที่ยว 

เริ่มจากวันที่ 31 มีนาคม จนถึง 10 เมษายน 2566 ไอคอนสยาม ร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชน ร่วมสืบสานวัฒนธรรม จัดงาน “ICONSIAM Summer Kite Playground 2023” ครั้งที่ 3  เนรมิตริเวอร์ พาร์ค ให้เป็นสนามเล่นว่าวขนาดใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในงานมีกิจกรรมขบวนว่าวแฟนซียักษ์สุดอลังการ ว่าวเอ็กซ์คลูซีฟจาก 5 ศิลปินรุ่นใหม่ กิจกรรมเวิร์คช้อปที่สร้างประสบการณ์สุดพิเศษอีกมากมาย ตลอด 11 วันเต็ม 

เป็นการนำ Soft Power มากระตุ้นการท่องเที่ยว และดำรงไว้ซึ่งประเพณีการละเล่นว่าวของไทย  

เช่นกัน เทศกาลมหาสงกรานต์ที่กำลังมาถึง ในเมื่อสงกรานต์เป็นเทศกาลที่มี “น้ำ” เป็นองค์ประกอบสำคัญ ในขณะที่ไอคอนสยามมีที่ตั้งอยู่ริมโค้งน้ำ จุดที่สวยที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อแน่ว่าผู้คนทั้งไทยและนักท่องเที่ยวทั่วโลกจะมุ่งหน้าสู่ “ไอคอนสยาม” จำนวนมาก   

โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเพณีสงกรานต์ของไทยกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาขององค์การยูเนสโก (UNESCO) เพื่อยกให้เป็น “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม การเปิดพื้นที่ริเวอร์ พาร์ค เพื่อจัดเทศกาลให้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปีของไอคอนสยาม  จึงเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ส่งเสริมให้สงกรานต์วิถีไทย ก้าวสู่ความเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของประเทศเทียบเท่ามรดกโลก 

สอดคล้องกับ Core Value ของไอคอนสยามที่มีเป้าหมายในการนำมรดกทางวัฒนธรรมไทยมาเชิดชู ผสมผสานความร่วมสมัย นำเสนอสู่อนาคต หรือ Heritage to Future พร้อมกับการสืบสานและเสริมสร้างภาพลักษณ์มรดกทางวัฒนธรรมให้คงอยู่สืบไป 

นั่นทำให้งานสงกรานต์ของไอคอนสยามในปีนี้ คุณสุพจน์ยืนยันว่า ยิ่งใหญ่กว่าทุกๆ ปี และใช้ชื่องานว่า THE ICONIC SONGKRAN FESTIVAL 2023 “ไอคอนสยาม มหัศจรรย์เจ้าพระยา มหาสงกรานต์ ๒๕๖๖ โดยได้เตรียมงบฯ ไว้กว่า 20  ล้านบาท  เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก และมั่นใจว่า จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยือนไอคอนสยามเพิ่มขึ้น 100% เทียบกับปีที่ผ่านมา 

แน่นอนว่าการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของไอคอนสยามจะช่วยปลุกการฟื้นตัวของเศรษฐกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งโรงแรมที่พัก อาคารที่พักอาศัย การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ร้านอาหาร การท่องเที่ยวทางน้ำ ฯลฯ ควบคู่กันไปด้วยในตัว โดยเฉพาะเมื่อไอคอนสยามถูกยกให้เป็นแลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นหมุดหมายสำคัญการท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานครและประเทศไทย ขณะที่แนวทางไอคอนสยามเอง ก็มุ่งนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดของไทยสู่สายตาทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ย่อมต้องมีผู้คนมาเยี่ยมเยือนเพิ่มขึ้น 

ไอคอนสยาม มหัศจรรย์เจ้าพระยา มหาสงกรานต์ ๒๕๖๖ 

เมื่อเข้าไปดูรายละเอียดการจัดงานสงกรานต์  THE ICONIC SONGKRAN FESTIVAL 2023 “ไอคอนสยาม มหัศจรรย์เจ้าพระยา มหาสงกรานต์ ๒๕๖๖ ไอคอนสยามได้ผนึกกำลังพันธมิตรทั้งภาครัฐ และเอกชนได้แก่  กระทรวงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร  หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, เมืองสุขสยาม, บริษัท ห้าตะขาบ (ซิม เทียน ฮ้อ) จำกัด, แป้งตรางู, บ้านทองสมสมัย, น้ำอบนางลอย และสมาคมการค้าและธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร่วมกันจัดงานอย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ภายใต้แนวคิด Blooming ซึ่งสื่อถึงความเบิกบาน การเริ่มต้นใหม่ การได้กลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง  ปีนี้งานจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 จนถึง 17 เมษายน 2566 เพื่อตอบรับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ จึงมีครบทั้งขบวนแห่นางสงกรานต์ที่สวยงามวิจิตรแบบไทย เสริมสิริมงคลสรงน้ำพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง พร้อมสนุกสนานกับการสาดน้ำสงกรานต์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และการแสดงดนตรีของศิลปินชั้นนำ ครบทั้งสายมูที่มองหาความเป็นมงคล สายกิน สายช้อป ตอบโจทย์ครบทุกกลุ่มทั้งครอบครัว คนรุ่นใหม่ รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลก 

พิธีเปิดงาน ในวันที่ 11 เมษายน 2566 ไฮไลท์สุดพิเศษอยู่ที่นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมกับบรรยากาศขบวนแห่นางสงกรานต์ ที่งดงามและยิ่งใหญ่ที่สุดริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีนักแสดงสาวชื่อดัง ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ สวมบทบาทนางกิมิทาเทวี นางสงกรานต์ประจำปี 2566 เชื่อได้ว่าการแต่งกายด้วยชุดไทยอันวิจิตรสวยงาม พร้อมสวมใส่เครื่องประดับไทยโบราณ หาชมได้ยาก อายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี ต้องสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ได้มาชื่นชม 

อีกหนึ่งไฮไลท์คือขบวนแห่นางสงกรานต์ในวันมหาสงกรานต์ วันที่ 13 เมษายน 2566 จะมี อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ปี 2563 และผู้เข้ารอบ 10 คนสุดท้ายการประกวดมิสยูนิเวิร์สครั้งที่ 69 ในเครื่องแต่งกายเสมือนนางกษัตริยาสมัยสุโขทัย ประดับด้วยเครื่องถนิมพิมพาภรณ์ทองคำล้ำค่า 

นักท่องเที่ยวยังจะได้สัมผัสการแสดงทางวัฒนธรรมของไทย ผสานความสนุกสนานจากการสาดน้ำสงกรานต์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดทั้งวัน ภายใต้มาตรการความปลอดภัย ท่ามกลางบรรยากาศการตกแต่งดอกไม้นานาชนิดสีสันสดใส ณ ริเวอร์ พาร์ค ชั้น G  และสนุกสุดมันส์ไปกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชั้นนำ อาทิ Three Man Down, Tilly Birds, ATLAS และอีกมากมาย หมุนเวียนมาสร้างสีสันเป็นประจำทุกวัน 

ในส่วนพุทธศาสนิกชนร่วมรับความสิริมงคลเนื่องในวันปีใหม่ไทย สรงน้ำพระพุทธรูปเกสรดอกไม้องค์จำลอง จากวัดสารพัฒนึก จังหวัดอุบลราชธานี  เป็นพระโบราณสมัยรัชกาลที่ 5  ที่สร้างเพียง 5 องค์ในประเทศไทยสร้างจากดอกไม้ที่ประชาชนนำมาถวายพระแก้วมรกต  หรือจะร่วมทำบุญพระพุทธรูปประจำวันเกิด ณ รัษฎา ฮอลล์ ชั้น 1 ตลอดจนเพลิดเพลินไปกับการเลือกซื้อสินค้า จากร้านดัง ทั้งของใช้ของฝากมากมายพร้อมด้วยกิจกรรมเวิร์กชอป ณ เจริญนคร ฮอลล์ ชั้น M

ผู้ร่วมงานมีโอกาสสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งวัฒนธรรม วิถีไทย วิถีชุมชน สืบสานวัฒนธรรมไทย 4 ภาค กับกิจกรรม “สุขสยาม สราญสุข ชื่นอุรา น่าสบาย” ตั้งแต่วันที่ 8-20 เมษายน 2566 ที่เมืองสุขสยาม ชั้น G ร่วมสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ ชมลีลาการชกมวยทะเล และการแสดงทางวัฒนธรรม อิ่มอร่อยกับเมนูอาหารจานเด็ด จากร้านค้าชุมชน กิจกรรมเวิร์คช้อปเอกลักษณ์ความเป็นไทย 

ส่วน “ไอซีเอส”  Lifestyle Complex แห่งใหม่ย่านฝั่งธนบุรี ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามไอคอนสยาม ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ในงาน ICS Songkran Festival ณ Event Space ชั้น M ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม – 17 เมษายน 2566 พบกับการออกร้าน และกิจกรรมรื่นเริงแบบจัดเต็มตลอดทุกวัน  

จัดหนักจัดเต็มโปรโมชั่น ครบทุกมิติ  

ไอคอนสยามสาดความสุขให้นักช้อปทุกท่าน กับโปรโมชั่นแคมเปญ ไอคอนสยาม สงกรานต์ มั่งมีศรีสุข 2023 ช็อปฉ่ำใจ กับโปรสุดเบิกบานรับสงกรานต์ แลกรับของรางวัลรวมมูลค่ากว่า 2.2 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 7 เม.ย. 66 –  6 พ.ค. 66 สำหรับสมาชิก VIZ ที่มี ONESIAM SuperApp เพียงซื้อสินค้าและบริการภายในไอคอนสยาม รวมสยาม ทาคาชิมายะ ครบตามเงื่อนไข สามารถแลกรับ VIZ COIN มูลค่าสูงสุด 400 บาท 

พิเศษไปกว่านั้น  ตั้งแต่วันที่ 13 – 17 เม.ย. 66 เพียง 5 วันเท่านั้น สำหรับ VIZ ที่มี ONESIAM SuperApp ช้อปครบตามเงื่อนไข แลกรับ Lotus’s Privé Cash Coupon และ VIZ COIN มูลค่าสูงสุด 800 บาท

สำหรับ ไอซีเอส ได้มอบความพิเศษในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กับแคมเปญโปรโมชั่น
ไอซีเอส สงกรานต์ มั่งมีศรีสุข 2023 ระหว่างวันที่ 7 เมษายน 2566 – 21 พฤษภาคม 2566  สำหรับ สมาชิก VIZ ที่มี ONESIAM SuperApp  ซื้อสินค้าภายในช็อปในไอซีเอส (ยกเว้นอาหาร เครื่องดื่ม แลกโลตัส พรีเว่) ครบ 1,500 บาท แลกรับ SUMMER BAG 1 ใบ มูลค่า 250 บาท หรือช็อปสินค้าภายในโลตัส พรีเว่, อาหาร และเครื่องดื่มภายในไอซีเอส ครบ 800 บาท รับคูปองส่วนลดจาก Lotus’s Privé  มูลค่า 50 บาททันที ***ตรวจสอบเงื่อนไข ณ จุดขาย 

คาดว่าจากแรงหนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ ความร่วมมือร่วมใจของภาคเอกชนและภาคประชาชน เพื่อสนับสนุนการเติบโตด้านเศรษฐกิจของประเทศ ในการร่วมมือร่วมใจจัดกิจกรรมอีเวนท์สุดยิ่งใหญ่ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ไทย เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้ใช้เวลาในช่วงวันหยุดยาวอย่างเต็มที่ จะส่งผลให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยได้ตามเป้าหมาย สร้างความคึกคักให้กับเศรษฐกิจไทยอย่างแน่นอน