“คุณภาพและความปลอดภัยของเนื้อหมู” เป็นประเด็นที่ผมเคยให้ข้อมูลมาเป็นระยะๆ และย้ำมาโดยตลอดว่าทั้งคุณภาพและความปลอดภัย เป็นเรื่องที่ผู้ผลิตต้องให้ความสำคัญควบคู่กัน โดยเฉพาะในยุคที่ผู้บริโภคมีทางเลือกบริโภคอาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ
เมื่อพูดถึงคุณภาพของเนื้อหมู มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องตั้งแต่สายพันธุ์ของสุกร อาหารที่ใช้เลี้ยง การเลี้ยงดู ขั้นตอนชำแหละ กระบวนการจัดการเนื้อสุกรที่ได้หลังการชำแหละ ไปจนถึงขั้นตอนของการเก็บรักษา ที่สำคัญ คุณภาพของเนื้อหมู ต้องมาจากสุกรที่สุขภาพดี แข็งแรง ไม่ป่วยเป็นโรค ไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะ
- เรือสิงคโปร์ชนสะพานในสหรัฐ มีประวัติไม่ดีมาก่อน เรารู้อะไรแล้วบ้างตอนนี้ ?
- ราคาทองวันนี้ (29 มี.ค. 67) พุ่งกระฉูด 600 บาท ทองรูปพรรณบาทละ 39,050 บาท
- ยื่นภาษีปี 2567 หมดเขตเมื่อไหร่ ยื่นไม่ทันต้องทำอย่างไร
ปัจจุบัน ในอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรนำหลัก สวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare)มาใช้เพื่อให้สัตว์มีความสุข มีสุขภาพพื้นฐานที่ดี แข็งแรง สามารถเติบโตดีตามศักยภาพพันธุกรรมธรรมชาติ เป็นการลดความเสี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะ โดยเฉพาะบริษัทที่มีมาตรฐานสากลในการเลี้ยงและผลิตสุกร มีการปรับปรุงฟาร์มสุกรเป็นโรงเรือนระบบปิด ควบคุมอุณหภูมิด้วยการระเหยของน้ำ (EVAP) ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรค ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการส่งมอบเนื้อหมูที่สะอาด ปลอดภัย และมีคุณภาพสู่ผู้บริโภค
ความมั่นใจของผู้บริโภคด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยของเนื้อหมู จำเป็นต้องมีการใช้ระบบประกันคุณภาพการผลิต ที่ควรนำมาประยุกต์ใช้ในส่วนของการผลิตอาหาร หรือโรงชำแหละหมู อย่างน้อยควรปรับปรุงให้มีการบังคับใช้ระบบปฏิบัติที่ดี (Good Manufacturing Practices) ในกระบวนการผลิต เป็นระบบพื้นฐาน หรือผู้ประกอบการที่มีศักยภาพควรที่ส่งเสริมให้นำระบบการวิเคราะห์จุดวิกฤตและควบคุมอันตราย (Hazard Analysis Critical Control Point : HACCP ) ในโรงฆ่าสัตว์และสถานประกอบการที่ผลิตอาหาร ซึ่งเป็นระบบประกันคุณภาพการผลิตที่เป็นสากล
การนำระบบประกันคุณภาพการผลิตมาใช้ เป็นผลดีกับทุกฝ่าย เช่น ผู้บริโภคได้สินค้าที่มีคุณภาพดี ถูกสุขอนามัย สะอาด และปลอดภัย ผู้ผลิตก็ได้รับผลดีที่ผลิตสินค้าคุณภาพ มีมาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค
เนื้อหมู ยังถือได้ว่าเป็นอาหารยอดนิยมของผู้บริโภคในหลายประเทศ เห็นได้จากความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้นทุกๆปี รวมทั้งปริมาณการบริโภคเนื้อหมูของคนไทยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งการันตีได้ในเรื่องของคุณภาพและความปลอดภัย โดยในปี 2561 ปริมาณการบริโภคเนื้อสุกรของคนไทยอยู่ที่ 1.39 ล้านตัน และในปี 2562 อยู่ที่่ 1.48 ล้านตัน หรือคิดเป็นอัตราการบริโภค 22 กิโลกรัม/คน/ปี
กลุ่มอาหารประเภทเนื้อสัตว์และเนื้อหมู มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะเป็นแหล่งโปรตีนที่ให้พลังงานสูง ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย ซ่อมแซมเนื้อเยื่อส่วนที่สึกหรอ
เนื้อหมู จึงเป็นอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กในวัยกำลังโต วัยเรียน ในวัยผู้ใหญ่ที่ต้องใช้พลังงานมากในแต่ละวัน และผู้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อซึ่งต้องการโปรตีนมากกว่าปกติ