ทันทีที่เปิดตัวครั้งแรกด้วยความตั้งใจพัฒนาให้ตอบโจทย์ทุกการใช้งานสำหรับคนที่ต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% คันแรกในชีวิต ‘MG EP’ ก็ครองใจลูกค้าทั้งในประเทศไทยไปจนถึงประเทศต่างๆ ในโซนยุโรป ด้วยจุดเด่นภายใต้แนวคิด ‘Brit Dynamic’ ตั้งแต่การออกแบบในสไตล์สเตชั่นแวกอน ความอเนกประสงค์สำหรับคนที่ต้องการความไม่เหมือนใคร เท่ทันสมัยด้วยกระจังหน้าแบบ Suspended Wing Grille ตกแต่งด้วยโครเมี่ยมและ Piano Black ไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์พร้อม LED Daytime Running Light มีระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟท้าย LED แบบ Electric Pulse Design และไฟเบรก LED ดวงที่ 3 ล้ออัลลอย 16 นิ้วดีไซน์สปอร์ต
รวมถึงความครบครันทั้งสมรรถนะ (Performance) การควบคุม (Handling) ความปลอดภัย (Safety) ต้นทุนการบำรุงรักษาและการเป็นเจ้าของ (Cost of Ownership) ที่คุ้มค่า
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
เพื่อตอกย้ำภาพผู้บุกเบิกรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างจริงจังในประเทศไทย รถพลังงานไฟฟ้าของ MG สามารถใช้ได้จริง ไม่ได้มีดีแต่เฉพาะดีไซน์ ล่าสุด บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายขึ้นไปอีกระดับใน ‘NEW MG EP PLUS’ เป็นต้นว่า
มิติตัวถังและพื้นที่การใช้งาน (Dimension) ขนาดใหญ่ ภายในมีพื้นที่บรรจุสัมภาระถึง 1,456 ลิตร พร้อมติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมทั้งชุดราวหลังคา (Roof Rail) รองรับน้ำหนักได้ 75 กิโลกรัม ติดตั้งระบบกรองอากาศ PM 2.5 สามารถดักจับและป้องกันฝุ่นจิ๋วภายในห้องโดยสาร มีเทคโนโลยีความปลอดภัยทั้งในรูปแบบ Active และ Passive Safety ครบครันเพื่อความมั่นใจทุกสภาพการขับขี่
ใครที่กังวลเรื่องสมรรถนะ (EV Performance) ยิ่งหายห่วง ‘NEW MG EP PLUS’ ชูจุดเด่นของการขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า กับแรงบิดสูงสุดที่มาตั้งแต่ต้น ทำให้ออกตัวได้อย่างรวดเร็วทันใจ จาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลาเพียง 8.8 วินาที ด้วยแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ทำให้วิ่งได้ไกลถึง 380 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
ถ้ามองด้านความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของ (Value) ก็ตัดสินใจง่ายมาก ด้วยค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว โดยมีค่าใช้จ่ายการชาร์จไฟฟ้าตั้งแต่ 0-100% เฉลี่ยเพียง 200 บาท หรือเฉลี่ยค่าใช้จ่ายไม่ถึง 1 บาทต่อกิโลเมตร เรียกว่าประหยัดกว่าพลังงานน้ำมัน 2-3 เท่า สำหรับค่าใช้จ่ายในการเช็กระยะตลอดระยะทาง 100,000 กิโลเมตร อยู่ที่ประมาณ 7,828 บาทเท่านั้น
พร้อมให้เป็นเจ้าของด้วยราคา 998,000 บาท มี 3 สีตัวถังให้เลือก ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีเงิน (Metallic Grey) และสีดำ (Black Knight)
ย้ำเรื่องสถานีชาร์จที่หลายคนเกรงว่าขับๆ ไป แล้วไม่รู้จะไปชาร์จไฟที่ไหน เพราะในบรรดารถพลังงานไฟฟ้าที่จำหน่ายในเมืองไทย ต้องถือว่าแบรนด์ MG คือผู้นำเทรนด์ตัวจริง ที่ในอนาคตยังมีแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของคนไทย ควบคู่ไปกับการลงทุนขยายสถานี MG Super Charge อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีอยู่กว่า 119 แห่งทั่วประเทศ และมีแผนจะขยายเพิ่มเติมอีกกว่า 500 แห่งในเร็วๆ นี้
และนอกจาก ‘NEW MG EP PLUS’ ซึ่งเป็นไฮไลต์ของรถพลังงานไฟฟ้าที่จะอวดโฉมในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2021 ยังมีรุ่นอื่นๆ ที่นำมาจัดแสดงพร้อมจำหน่ายในงานนี้เช่นกัน เป็นต้นว่า ‘ALL NEW MG5’ สปอร์ตคูเป้สุดเท่ ด้วยคอนเซ็ปต์ ‘BEYOND’ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART มาพร้อมฟังก์ชั่นสุดว้าวอย่างกุญแจดิจิทัล (Digital Key) เจ้าของรถสามารถส่งโค้ดผ่านแอปพลิเคชั่นทางมือถือ โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องใช้กุญแจสตาร์ตรถ
‘NEW MG EXTENDER’ กระบะพันธุ์ยักษ์ โฉมใหม่ ด้วยรูปลักษณ์ดุดัน ทรงพลัง ย้ำความเป็นสมาร์ทปิกอัพด้วยเทคโนโลยี i-SMART พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ระบบตรวจสอบสถานะรถ ระบบนำทางแบบ Real time และระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรปที่มีระบบช่วยผู้ขับขี่ที่ทำงานประสานกันมากถึง 9 ระบบ ติดตั้งกล้องมองรอบคัน มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยการรับประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร พร้อมฟรีค่าแรงเช็คระยะตลอดระยะทาง 100,000 กิโลเมตร
ปลั๊กอินไฮบริดในดีไซน์รถเอสยูวีที่คนไทยนิยม ‘MG HS PHEV’ ด้วยสมรรถนะเป็นเยี่ยม เครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 284 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาดใหญ่ 16.6 kWh ที่ทำให้มีระยะการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนถึง 67 กิโลเมตร ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสบาย และได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองความต้องการและยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้า ด้วยรางวัลสุดยอดนวัตกรรมสินค้า และบริการแห่งปี พ.ศ. 2564 (Product Innovation Awards) ประเภทยานยนต์ ในกลุ่มรถยนต์พลังงานทางเลือก
และ ‘ MG HS’ อีกระดับของรถเอสยูวีที่ผสานความหรูหราเข้ากับความสปอร์ตดุดันได้อย่างกลมกลืน มาพร้อมสมรรถนะทรงพลังภายใต้แนวคิด Brit Dynamic ใส่ใจในทุกรายละเอียดทั้งสมรรถนะ (Performance) การควบคุม (Handling) การออกแบบ (Design) และความปลอดภัย (Safety)
