ชาร์ลส์ที่ 3 : บทบาทกษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญอังกฤษ และลำดับสืบราชสันตติวงศ์ในรัชสมัยใหม่

วันที่ 20 กันยายน 2565 - 09:59 น.

King Charles III speaks during his proclamation as King during the accession council at St James Palace in London on 10 September 2022

เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ องค์มกุฎราชกุมารผู้ดำรงพระยศ “เจ้าชายแห่งเวลส์” มาอย่างยาวนาน ได้ทรงสืบทอดราชบัลลังก์เป็นกษัตริย์ชาร์ลส์ที่สาม หลังสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคตอย่างสงบ เมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ปราสาทบัลมอรัล ในสกอตแลนด์ ขณะมีพระชนมพรรษา 96 พรรษา โดยพระองค์คือกษัตริย์ผู้ครองราชย์ยาวนานที่สุดของสหราชอาณาจักร คือ 70 ปี

บทบาทหน้าที่ของกษัตริย์พระองค์ใหม่

ตามรัฐธรรมนูญของสหราชอาณาจักร พระมหากษัตริย์เป็นประมุขของประเทศ ต้องเป็นกลางทางการเมืองและมีพระราชอำนาจเพียงในเชิงสัญลักษณ์และในทางพิธีการเท่านั้น

ในแต่ละวันจะทรงได้รับ “กล่องหนังสีแดง” จากรัฐบาลอังกฤษ ซึ่งภายในบรรจุเอกสารสรุปเนื้อหาของการประชุมสำคัญที่กำลังจะมีขึ้น รวมทั้งเอกสารที่ต้องทรงลงพระปรมาภิไธยด้วย

ตามปกติแล้วนายกรัฐมนตรีอังกฤษจะเข้าเฝ้าถวายรายงานทุกวันพุธที่พระราชวังบักกิงแฮม เพื่อกราบทูลให้ทรงทราบถึงกิจกรรมต่าง ๆ ของรัฐบาล โดยการเข้าเฝ้านี้จะมีขึ้นเป็นการส่วนพระองค์ และไม่มีการบันทึกเนื้อหาเอาไว้อย่างเป็นทางการ

กษัตริย์พระองค์ใหม่ยังต้องทรงปฏิบัติหน้าที่เพื่อรัฐสภาแห่งสหราชอาณาจักรดังต่อไปนี้

ทรงแต่งตั้งรัฐบาล โดยจะทรงโปรดให้ผู้นำพรรคการเมืองที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไป เข้าเฝ้าที่พระราชวังบักกิงแฮม เพื่อรับคำเชิญให้จัดตั้งรัฐบาลได้อย่างเป็นทางการ กษัตริย์ยังทรงเป็นผู้ยุบเลิกรัฐบาลชุดเก่าก่อนจะมีการเลือกตั้งทั่วไปอย่างเป็นทางการด้วย

ทรงเปิดสมัยการประชุมและมีพระราชดำรัสต่อรัฐสภา กษัตริย์จะเสด็จพระราชดำเนินไปในรัฐพิธีเปิดสมัยการประชุมของรัฐสภาในทุกปี โดยจะมีพระราชดำรัสแถลงถึงนโยบายของรัฐบาล ขณะประทับบนพระราชบัลลังก์ในสภาขุนนาง

The Queen and Prince Charles attend the State Opening of Parliament on 14 October 2019

พระราชทานพระบรมราชานุญาต เมื่อมีกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว กษัตริย์จะต้องทรงลงพระปรมาภิไธยเพื่อพระราชทานพระบรมราชานุญาตเสียก่อน จึงจะสามารถบังคับใช้กฎหมายนั้นได้ ครั้งสุดท้ายที่กษัตริย์อังกฤษทรงปฏิเสธแสดงความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายคือปี 1708

ทรงรับรองอาคันตุกะระดับประมุขและผู้แทนของรัฐ นอกจากนี้ยังทรงโปรดให้เอกอัครราชทูตและข้าหลวงใหญ่จากต่างประเทศเข้าเฝ้าในวาระต่าง ๆ

ทรงดำรงตำแหน่งประมุขเครือจักรภพ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของรัฐเอกราช 56 ประเทศ ที่มีประชากรถึง 2,500 ล้านคน ในจำนวนนี้ 14 ประเทศ มีกษัตริย์อังกฤษเป็นประมุขของรัฐ

ที่มาของภาพ, Alamy

ลำดับสืบราชสันตติวงศ์ในรัชสมัยใหม่ของราชวงศ์อังกฤษ

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเป็นกษัตริย์ผู้ครองราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ คือ 70 ปี พระองค์สวรรคตเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2023 ขณะมีพระชนมพรรษา 96 พรรษา

เจ้าหญิงเอลิซาเบธ อเล็กซานดรา แมรี วินด์เซอร์ ประสูติเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 1926 ทรงขึ้นเป็นกษัตริย์หลังจากพระเจ้าจอร์จที่ 6 พระราชบิดา สวรรคตกะทันหันในปี 1952

พระองค์อภิเษกสมรสกับเจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ ในปี 1947 และมีพระราชโอรสพระราชธิดาด้วยกัน 4 พระองค์ คือเจ้าชายชาร์ลส์ เจ้าหญิงแอนน์ เจ้าชายแอนดรูว์ และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด

ดยุคแห่งเอดินบะระ ทรงเป็นคู่สมรสกษัตริย์ผู้อยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ ทรงยุติการทรงงานอย่างเป็นทางการในปี 2017 ก่อนที่จะสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2021

ลำดับการสืบราชบัลลังก์ของราชวงศ์วินด์เซอร์

กษัตริย์ชาร์ลส์ที่สาม

ปีพระราชสมภพ: 1948

กษัตริย์ชาร์ลส์ที่สาม ซึ่งเคยดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าชายแห่งเวลส์ เคยอภิเษกสมรสกับเลดี้ ไดอานา สเปนเซอร์ ที่ต่อมาดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าหญิงแห่งเวลส์ เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 1981

ทั้งคู่มีพระโอรสด้วยกัน 2 พระองค์ คือ เจ้าชายวิลเลียม และเจ้าชายแฮร์รี

เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ทรงหย่าขาดจากกันในปี 1996 จากนั้นในวันที่ 31 ส.ค. เจ้าหญิงแห่งเวลส์ได้สิ้นพระชนม์กะทันหันในอุบัติทางรถยนต์ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ภายหลังพระองค์ทรงเข้าพีธีสมรสทางกฎหมายกับและนางคามิลลา พาร์กเกอร์ โบลส์ เมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2005 โดยสมเด็จพระราชินีนาถได้ตรัสก่อนจะสวรรคตว่ามีพระราชประสงค์ให้ คามิลลา ซึ่งได้รับพระราชทานยศให้เป็น “ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์” ได้ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินี (Queen Consort) เมื่อเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์พระองค์ต่อไป

ลำดับการสืบราชสันตติวงศ์

1. วิลเลียม, เจ้าชายแห่งเวลส์

ปีที่ประสูติ: 1982

เจ้าชายวิลเลียมเป็นพระโอรสองค์โตของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่สาม และไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ปัจจุบันทรงเป็นผู้สืบสันตติวงศ์ลำดับแรก

เจ้าชายวิลเลียมมีพระชันษาเพียง 15 ปี ตอนที่พระมารดาสิ้นพระชนม์ พระองค์เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูวส์ ในสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระองค์ทรงได้พบและรู้จักกับ เคต มิดเดิลตัล พระชายาในอนาคต ทั้งคู่เข้าพิธีเสกสมรสในปี 2011

ดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์มีพระโอรสองค์แรกคือเจ้าชายจอร์จเมื่อปี 2013 ต่อมาคือเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ พระธิดา ประสูติในปี 2015 และทรงมีเจ้าชายลูอีส์ พระโอรสองค์สุดท้อง ในปี 2018

ในวันคล้ายวันประสูติปีที่ 21 ทรงได้รับการแต่งตั้งเป็น “มนตรีแห่งรัฐ” (Counsellor of State) ซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้แทนพระองค์ของควีนในงานพิธีที่เป็นทางการต่าง ๆ

เจ้าชายเวิลเลียมทรงเข้ารับการฝึกฝนวิชาทหารในทั้งสามเหล่าทัพ ก่อนจะเข้าประจำการในกองทัพอากาศของสหราชอาณาจักรเป็นเวลา 3 ปี โดยทรงเป็นนักบินของหน่วยปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยในทางตอนเหนือของแคว้นเวลส์

นอกจากนี้ ยังทรงเคยทำงานเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์แบบไม่เต็มเวลา ให้กับบริษัทขนย้ายผู้ป่วยเอกชน East Anglian Air Ambulance เป็นเวลา 2 ปี ก่อนจะลาออกมาปฏิบัติพระกรณียกิจของราชวงศ์อย่างเต็มที่ในปี 2017

เจ้าชายวิลเลียมยังทรงรับการสืบทอดพระยศดยุคแห่งคอร์นวอลล์ต่อจากพระราชบิดาด้วย อีกทั้งได้รับการสถาปนาให้เป็นเจ้าชายแห่งเวลส์ ขณะที่แคทเธอรีน พระชายาทรงเป็นเจ้าหญิงแห่งเวลส์พระองค์ใหม่

ในฐานะผู้สืบสันตติวงศ์ลำดับแรก เจ้าชายวิลเลียมทรงมีหน้าที่สนับสนุนและถวายความช่วยเหลือ เพื่อแบ่งเบาพระราชกรณียกิจของกษัตริย์พระองค์ใหม่

2. เจ้าชายจอร์จแห่งเวลส์

ปีที่ประสูติ : 2013

เจ้าชายจอร์จแห่งเคมบริดจ์ประสูติเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2013 ที่โรงพยาบาลเซนต์แมรีส์ ในกรุงลอนดอน

เจ้าชายวิลเลียมประทับอยู่ในห้องคลอดของโรงพยาบาลด้วยตอนที่พระโอรสประสูติโดยมีน้ำหนัก 3.8 กิโลกรัม

เจ้าชายจอร์จทรงเป็นรัชทายาทลำดับที่สองต่อจากพระบิดา

3. เจ้าหญิงชาร์ลอตต์แห่งเวลส์

ปีที่ประสูติ : 2015

ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์และเคมบริดจ์ มีประสูติการพระธิดาองค์ที่สองเมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2015 ที่โรงพยาบาลเซนต์แมรีส์ ในกรุงลอนดอน โดยเจ้าชายวิลเลียมประทับอยู่ด้วยในห้องคลอดของโรงพยาบาล

เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ เอลิซาเบธ ไดอานา มีน้ำหนักแรกประสูติ 3.7 กิโลกรัม ทรงเป็นรัชทายาทลำดับที่สามต่อจากพระบิดาและพระเชษฐา

4. เจ้าชายลูอีส์แห่งเวลส์

ปีที่ประสูติ : 2018

ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์และเคมบริดจ์ มีประสูติการพระโอรสองค์สุดท้อง ซึ่งมีน้ำหนักแรกประสูติ 3.8 กิโลกรัม ที่โรงพยาบาลเซนต์แมรีส์ ในกรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2018 โดยที่มีเจ้าชายวิลเลียมประทับอยู่ในห้องคลอดด้วยเช่น 2 ครั้งที่ผ่านมา

เจ้าชายลูอีส์ ทรงเป็นรัชทายาทลำดับที่สี่แห่งราชวงศ์วินด์เซอร์

5. เจ้าชายแฮร์รี ดยุคแห่งซัสเซกซ์

ปีที่ประสูติ : 1984

เจ้าชายแฮร์รีทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยทหารบกแซนด์เฮิร์สต์ ก่อนเข้ารับราชการเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบกโดยติดยศร้อยโท ทรงเคยร่วมรบในสมรภูมิอัฟกานิสถานถึงสองครั้ง ระหว่างปี 2012-2013 โดยทรงรับหน้าที่นักบินเฮลิคอปเตอร์อาปาเช่และทหารปืนใหญ่

ในปี 2015 ทรงลาออกจากกองทัพและหันมามุ่งทรงงานการกุศลอย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงงานอนุรักษ์ธรรมชาติในทวีปแอฟริกา และทรงจัดการแข่งขัน “อินวิกตัส เกมส์” (Invictus Games) เพื่อให้การสนับสนุนทหารผ่านศึกที่ได้รับบาดเจ็บ

นอกจากนี้ยังทรงงานในฐานะผู้แทนพระองค์ของควีนมาแต่ครั้งทรงได้รับการแต่งตั้งเป็น “มนตรีแห่งรัฐ” เมื่อมีพระชันษาครบ 21 ปี เช่นเดียวกับพระเชษฐา

เจ้าชายแฮร์รีเสกสมรสกับเมแกน มาร์เคิล นักแสดงหญิงชาวอเมริกัน เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2018 และได้รับพระราชทานฐานันดรศักดิ์เป็นดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์

ทว่าสองปีต่อมาทั้งคู่ได้ประกาศถอนตัวจากการเป็นพระบรมวงศ์ แล้วเริ่มแบ่งเวลาไปใช้ชีวิตทั้งในสหราชอาณาจักรและที่ภูมิภาค ทวีปอเมริกาเหนือ เนื่องจากมีพระประสงค์จะ “ทำงานเลี้ยงชีพตัวเองเพื่อให้มีอิสระทางการเงิน”

สำนักพระราชวังบักกิงแฮมแถลงยืนยันในหนึ่งปีต่อมาว่า ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์จะไม่ทรงกลับมาปฏิบัติกรณียกิจของราชวงศ์อีกต่อไป โดยทรงคืนยศทางทหารทุกตำแหน่ง และยกเลิกการเป็นองค์อุปถัมภ์ขององค์กรต่าง ๆ ด้วย

6. อาร์ชี แฮร์ริสัน เมาท์แบตเทน-วินด์เซอร์

ปีเกิด : 2019

บุตรคนแรกของดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ เกิดเมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2019 มีน้ำหนักแรกเกิด 3.2 กิโลกรัม โดยดยุคแห่งซัสเซกซ์ประทับอยู่ด้วยในห้องคลอดของโรงพยาบาล

การเลือกตั้งชื่อและนามสกุลเช่นนี้ แสดงว่าดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ทรงตัดสินพระทัยไม่ให้โอรสมีพระยศเป็นเจ้าชาย ทั้งแสดงถึงพระประสงค์ที่จะเลี้ยงดูเด็กชายอาร์ชีเยี่ยงสามัญชนทั่วไป

7. ลิลีเบต ไดอานา เมาท์แบตเทน-วินด์เซอร์

ปีเกิด : 2021

บุตรคนที่สองของดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ เกิดเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2021 ที่เมืองซานตาบาร์บาราของสหรัฐฯ เด็กหญิง ลิลีเบต ไดอานา ได้รับการตั้งชื่อตามพระนามลำลองของควีน ในฐานะพระราชปนัดดาคนที่ 11 ทั้งยังมีชื่อกลางว่าไดอานา ตามพระนามของพระอัยยิกา ซึ่งด่วนสิ้นพระชนม์ไปเมื่อเจ้าชายแฮร์รีมีพระชันษาเพียง 12 ปี

8. ดยุคแห่งยอร์ก

ปีที่ประสูติ : 1960

เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุคแห่งยอร์ก ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่สองของควีน และเจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ

พระองค์ทรงเป็นเจ้าฟ้าชายพระองค์แรกของราชวงศ์อังกฤษในรอบ 103 ปี ที่ประสูติจากสมเด็จพระราชินีนาถในขณะที่ทรงครองราชย์อยู่

เจ้าชายแอนดรูว์เสกสมรสกับซาราห์ เฟอร์กูสัน เมื่อปี 1986 และได้รับพระราชทานฐานันดรศักดิ์เป็นดยุคและดัชเชสแห่งยอร์กในคราวเดียวกัน ทั้งสองมีพระธิดาคือเจ้าหญิงเบียทริซ ที่ประสูติในปี 1988 และเจ้าหญิงยูเชนี ที่ประสูติในปี 1990 ในเวลาต่อมาทั้งสองทรงตัดสินพระทัยแยกกันอยู่ ก่อนที่จะหย่าร้างในปี 1996

ดยุคแห่งยอร์กทรงรับราชการในราชนาวีอังกฤษนานถึง 22 ปี และได้เข้าร่วมรบในสงครามเกาะฟอล์กแลนด์เมื่อปี 1982 นอกจากจะทรงปฏิบัติกรณียกิจทางการต่าง ๆ ของราชวงศ์แล้ว ยังทรงเป็นผู้แทนพิเศษทางการค้าให้กับรัฐบาลอังกฤษจนถึงปี 2011 อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ดยุคแห่งยอร์กได้ยุติการทรงงานตามหน้าที่ของพระราชวงศ์ไปในปี 2019 หลังประทานสัมภาษณ์กับบีบีซีเรื่องความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างพระองค์กับเจฟฟรีย์ เอปสตีน นักธุรกิจการเงินชาวอเมริกันที่ฆ่าตัวตาย ระหว่างรอการตัดสินของศาลในคดีค้ากามและค้ามนุษย์

ดยุคแห่งยอร์กถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเรื่องที่ทรงคบหานายเอปสตีนเป็นพระสหายสนิท และแม้จะทรงปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นในธุรกิจมืด หรือพบความผิดปกติน่าสงสัยใด ๆ ขณะเสด็จเยือนคฤหาสน์ของนายเอปสตีน แต่ก็ทรงออกแถลงการณ์ว่าจะคืนยศทางทหาร และยุติการเสด็จออกงานสาธารณะ รวมทั้งตรัสว่าทรง “เสียพระทัยอย่างแท้จริง” ต่อการที่ผู้คนตัดสินว่าความสัมพันธ์ระหว่างพระองค์กับนายเอปสตีนไม่เหมาะสม

ในเดือน ก.พ. 2022 ทรงตกลงยอมจ่ายเงินค่าเสียหายในจำนวนที่ไม่มีการเปิดเผยเพื่อให้หนึ่งในเหยื่อขบวนการค้ากามของนายเอปสตีนยอมความในคดีประทุษร้ายทางเพศที่เธอฟ้องดำเนินคดีแพ่งต่อเจ้าชายแอนดรูว์ ซึ่งทรงปฏิเสธข้อกล่าวหานี้มาโดยตลอด

9. เจ้าหญิงเบียทริซแห่งยอร์ก

ปีที่ประสูติ : 1988

เจ้าหญิงเบียทริซเป็นพระธิดาองค์โตในดยุคและดัชเชสแห่งยอร์ก ไม่ทรงมีนามสกุลที่เป็นทางการ แต่ทรงใช้สร้อยพระนาม “แห่งยอร์ก” ต่อท้ายพระนามตามธรรมเนียม

ทรงเสกสมรสกับนายเอโดอาร์โด มาเปลลี มอซซี มหาเศรษฐีด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่โบสถ์น้อยหลวงภายในพระราชวังวินด์เซอร์ เมื่อเดือน ก.ค. 2020 โดยพิธีเสกสมรสครั้งนี้เลื่อนจากกำหนดการเดิมที่จะมีขึ้นในเดือน พ.ค. เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

10. เซียนนา เอลิซาเบธ มาเปลลี มอซซี

ปีเกิด: 2021

เจ้าหญิงเบียทริซมีประสูติการพระธิดาที่ชื่อ เซียนนา เอลิซาเบธ ในเดือน ก.ย. ปี 2021 ซึ่งเป็นพระราชปนัดดาคนที่ 12 ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และถือเป็น รัชทายาทลำดับที่ 10 แห่งบัลลังก์วินด์เซอร์

นอกจากนี้ เจ้าหญิงเบียทริซยังทรงมีฐานะเป็นแม่เลี้ยงของเด็กชายคริสโตเฟอร์ มาเปลลี มอซซี หรือ “วูล์ฟฟี” บุตรของนายเอโดอาร์โดที่เกิดกับอดีตแฟนสาว ดารา ฮวง สถาปนิกชาวอเมริกันเชื้อสายจีนอีกด้วย

11. เจ้าหญิงยูเชนีแห่งยอร์ก

ปีที่ประสูติ : 1990

เจ้าหญิงยูเชนีเป็นพระธิดาองค์เล็กในดยุคและดัชเชสแห่งยอร์ก ไม่ทรงมีนามสกุลที่เป็นทางการเช่นเดียวกับพระภคินี แต่ทรงใช้สร้อยพระนาม “แห่งยอร์ก” ต่อท้ายพระนามตามธรรมเนียม

ทรงเสกสมรสกับนายเจมส์ บรูกส์แบงก์ ผู้จัดการไนต์คลับหรูในย่านเมย์แฟร์ของกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นคนรักที่ทรงคบหาดูใจมานานหลายปี โดยพิธีเสกสมรสมีขึ้นที่พระราชวังวินด์เซอร์ เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2018

12. ออกัสต์ ฟิลิป ฮอว์ก บรูกส์แบงก์

ปีเกิด : 2021

เด็กชายออกัสต์เป็นบุตรของเจ้าหญิงยูเชนีกับนายเจมส์ บรูกส์แบงก์ เกิดเมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2021 และเป็นพระราชปนัดดาคนที่ 9 ของควีน

13. เอิร์ลแห่งเวสเซกซ์

ปีที่ประสูติ : 1964

เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด พระราชโอรสองค์สุดท้องของควีน ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ขุนนางเป็นเอิร์ลแห่งเวสเซกซ์ และไวเคานต์เซเวิร์น เมื่อปี 1999 หลังทรงเข้าพิธีเสกสมรสกับโซฟี รีส โจนส์ ซึ่งได้รับการสถาปนาเป็นเคาน์เตสส์แห่งเวสเซกซ์ในเวลาต่อมา

ก่อนหน้านี้เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดทรงรับราชการเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ในกองกำลังราชนาวิกโยธิน ก่อนจะทรงก่อตั้งบริษัทผลิตรายการโทรทัศน์ของพระองค์เอง และทรงปฏิบัติงานสนับสนุนพระราชกรณียกิจที่เป็นทางการของควีน รวมทั้งทรงงานการกุศลสาธารณะด้วย

14. เจมส์, ไวเคานต์เซเวิร์น

ปีเกิด : 2007

เจมส์ เมาท์แบตเทน-วินด์เซอร์ บุตรชายคนเล็กของเอิร์ลและเคาน์เตสส์แห่งเวสเซกซ์ มีบรรดาศักดิ์ขุนนางเป็นไวเคานต์เซเวิร์นเช่นเดียวกับบิดา เนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดตัดสินพระทัย ไม่ให้โอรสธิดาของพระองค์มีพระยศเป็นเจ้าชายหรือเจ้าหญิง เพื่อหลีกเลี่ยงภาระหนักบางประการที่ต้องแบกรับในฐานะพระราชวงศ์

15. เลดี้ ลูอิส วินด์เซอร์

ปีเกิด : 2003

ลูอิส เมาท์แบตเทน-วินด์เซอร์ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ เลดี้ ลูอิส วินด์เซอร์ เป็นธิดาคนโตของเอิร์ลและเคาน์เตสส์แห่งเวสเซกซ์ เธอสามารถใช้คำนำหน้าชื่อว่า “เลดี้” หรือท่านผู้หญิงได้ ตามธรรมเนียมของธิดาขุนนางที่มีบรรดาศักดิ์ “เอิร์ล” ขึ้นไป

16. เจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี

ปีที่ประสูติ : 1950

เจ้าหญิงแอนน์ประสูติเป็นลำดับที่สองในหมู่พระราชโอรสและพระราชธิดาของควีน แต่ก็เป็นพระราชธิดาพระองค์แรกและพระองค์เดียวเท่านั้น เมื่อแรกประสูติทรงเป็นรัชทายาทลำดับ 3 และได้รับการสถาปนาพระอิสริยยศเป็น “พระราชกุมารี” (Princess Royal) ในปี 1987

เจ้าหญิงแอนน์เสกสมรสสองครั้ง โดยครั้งแรกกับร้อยเอก มาร์ก ฟิลลิปส์ ผู้เป็นบิดาของปีเตอร์ ฟิลลิปส์ และซาราห์ ทินดัลล์ ต่อมาภายหลังการหย่าร้าง ทรงเสกสมรสอีกครั้งกับ พลเรือโท ทิโมธี ลอเรนซ์ แต่ไม่มีบุตรด้วยกัน

เจ้าหญิงแอนน์ทรงเป็นพระราชวงศ์พระองค์แรกที่ใช้นามสกุล “เมาท์แบตเทน-วินด์เซอร์” ในเอกสารของทางการ ซึ่งก็คือทะเบียนสมรสที่ทรงจดกับร้อยเอกมาร์ก ฟิลลิปส์ นั่นเอง นอกจากนี้ยังทรงเป็นนักกีฬาขี่ม้าและเป็นตัวแทนของสหราชอาณาจักร ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่นครมอนทรีออลของแคนาดา เมื่อปี 1976

ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์องค์กรการกุศลหลายแห่ง รวมทั้งองค์กรช่วยเหลือเด็ก Save the Children ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งประธานมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี 1970

17. ปีเตอร์ ฟิลลิปส์

ปีเกิด : 1977

นายปีเตอร์ ฟิลลิปส์ เป็นพระราชนัดดาคนแรกของควีน สมรสกับออทัมน์ เคลลี ชาวแคนาดา เมื่อปี 2008 และมีบุตรสาวด้วยกันสองคน แต่ทั้งคู่ประกาศว่าจะหย่าขาดจากกันเมื่อเดือน ก.พ. ปี 2020

โอรสธิดาของพระราชกุมารีนั้นไม่มียศเป็นเจ้าชายหรือเจ้าหญิง เนื่องจากเป็นการสืบสกุลในสายของพระราชวงศ์สตรี ยิ่งไปกว่านั้น ปีเตอร์ ฟิลลิปส์ ยังปฏิเสธไม่ขอรับบรรดาศักดิ์ขุนนางระดับเอิร์ล ซึ่งควีนได้ทรงเตรียมจะพระราชทานให้เมื่อคราวที่เขาสมรสอีกด้วย ทำให้ลูกสาวทั้งสองของปีเตอร์ ฟิลลิปส์ ไม่สามารถใช้คำนำหน้าชื่อว่า “เลดี้” ได้

18. ซาวันนาห์ ฟิลลิปส์

ปีเกิด : 2010

เด็กหญิงซาวันนาห์ ฟิลลิปส์ เป็นบุตรสาวคนโตของปีเตอร์ ฟิลลิปส์ และออทัมน์ เคลลี ทั้งยังเป็นพระราชปนัดดาคนแรกของควีนอีกด้วย

19. ไอลา ฟิลลิปส์

ปีเกิด : 2012

เด็กหญิงไอลา ฟิลลิปส์ เป็นบุตรสาวคนที่สองของปีเตอร์ ฟิลลิปส์ และออทัมน์ เคลลี

20. ซารา ทินดัลล์

ปีเกิด : 1981

นางซารา ทินดัลล์ หรือที่มีชื่อก่อนสมรสว่า ซารา ฟิลลิปส์ ประสบความสำเร็จในการเดินตามรอยเท้าของพ่อแม่ โดยเอาดีในทางกีฬาขี่ม้าและสามารถคว้ารางวัลในการแข่งขันใหญ่หลายรายการมาครอง รวมทั้งเหรียญเงินในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงลอนดอน เมื่อปี 2012

ซาราสมรสกับนายไมก์ ทินดัลล์ อดีตนักกีฬารักบี้ทีมชาติอังกฤษเมื่อปี 2011 โดยมีบุตรสาวสองคนคือ มีอา และเลนา ในปี 2014 และ 2018 ตามลำดับ ต่อมาในเดือน มี.ค. ปี 2021 ซาราคลอดลูกคนสุดท้องคือเด็กชาย ลูคัส ฟิลิป ทินดัลล์

21. มีอา เกรซ ทินดัลล์

ปีเกิด : 2014

เด็กหญิงมีอา เกรซเป็นบุตรสาวคนแรกของนางซารา ทินดัลล์ และมีศักดิ์เป็นพระราชปนัดดาของควีน

22. เลนา เอลิซาเบธ ทินดัลล์

ปีเกิด : 2018

เด็กหญิงเลนาเป็นบุตรสาวคนที่สองของนางซารา ทินดัลล์ และมีศักดิ์เป็นพระราชปนัดดาคนที่ 7 ของควีน เธอเกิดที่โรงพยาบาลแม่และเด็กในมณฑลกลอสเตอร์เชียร์ โดยมีน้ำหนักแรกเกิด 4.1 กิโลกรัม ชื่อกลาง “เอลิซาเบธ” ถูกตั้งเพื่อถวายพระเกียรติแด่ควีนผู้เป็นยายทวดของเธอ

23. ลูคัส ฟิลิป ทินดัลล์

ปีเกิด : 2021

เด็กชาย ลูคัส ฟิลิป ทินดัลล์ เป็นทายาทของซาราและไมก์ ทินดัลล์ เกิดเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2021 โดยมีน้ำหนักแรกเกิด 3.7 กิโลกรัม ถือเป็นพระราชปนัดดาคนที่ 10 ของควีน และเป็นรัชทายาทลำดับที่ 23 ของราชวงศ์อังกฤษ ต่อจากพี่สาวทั้งสอง

…..

ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว