บีบีซีสัมภาษณ์พิเศษ อีลอน มัสก์ ถึง “ความเจ็บปวด” บริหารทวิตเตอร์ จนอาจคิดขาย

BBC อีลอน มัสก์ ให้สัมภาษณ์บีบีซีอย่างปัจจุบันทันด่วน

อีลอน มัสก์ ยอมรับว่า การบริหาร ทวิตเตอร์ “ค่อนข้างเจ็บปวด” และ “เหมือนรถไฟเหาะตีลังกา” ในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับบีบีซี

อภิมหาเศรษฐีหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ ยอมรับว่า เขาจะขายทวิตเตอร์ หากคนที่ใช่ติดต่อเข้ามาขอซื้อ

มัสก์ ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เทสลา และบริษัทด้านอวกาศ สเปซเอ็กซ์ ซื้อทวิตเตอร์ด้วยเงิน 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.5 ล้านล้านบาท เมื่อเดือน ต.ค. 2022

การให้สัมภาษณ์พิเศษกับบีบีซี มีการถ่ายทอดสดจากสำนักงานของทวิตเตอร์ในนครซานฟรานซิสโก และมีผู้เข้าชมพร้อมกันสูงสุดมากกว่า 3 ล้านคน

ในบทสนทนากับบีบีซี เขาตอบโต้ว่า เขาพยายามบริหารบริษัทอย่างดีที่สุดแล้ว

บีบีซีถามกลับไปว่า เขาเสียใจไหมที่ซื้อทวิตเตอร์ ชายผู้ร่ำรวยที่สุดอันดับ 2 ของโลก ระบุว่า “ระดับความเจ็บปวด มันสูงมาก มันไม่ใช่งานเลี้ยงเลย”

และเมื่อถามถึงการขึ้นบริหารทวิตเตอร์มาจนถึงตอนนี้ มัสก์ ตอบว่า “มันไม่น่าเบื่อนะ มันเหมือนรถไฟเหาะตีลังกา”

แต่มันก็ “เป็นสถานการณ์ที่ตึงเครียดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา” เขาเสริม แต่ย้ำว่า เขารู้สึกว่าการซื้อทวิตเตอร์ในเวลานั้น เป็นสิ่งที่ถูกต้อง

และสิ่งต่าง ๆ ก็ “ดำเนินไปค่อนข้างดี” พร้อมอธิบายว่า มีผู้เข้าใช้ทวิตเตอร์มากขึ้น และ “ทวิตเตอร์ยังทำงานดีอยู่”

แต่ปริมาณงานที่เขาต้องแบกรับ ทำให้ “ผมต้องนอนหลับในออฟฟิศบางครั้ง” พร้อมระบุว่า เขามีพื้นที่นอนพักผ่อนในห้องสมุดที่ “ห้ามคนอื่นเข้าไป”

Reuters

Reuters

มัสก์ ยังกล่าวถึงการทวิตข้อความหลายครั้งของเขา ที่กลายเป็นพาดหัวข่าวสร้างความไม่พอใจอย่างกว้างขวาง ว่า “ผมเหมือนยิงปืนใส่เท้าตัวเองหรือเปล่า จากการทวิตบ่อย ๆ ก็ใช่นะ”

“ผมคิดว่า ผมไม่ควรทวิตหลังตี 3” เขาเสริม

เมื่อถามถึงการตัดสินใจติดป้ายสถานะบนบัญชีทวิตเตอร์หลักของบีบีซีว่า “สื่อที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล” มัสก์ ตอบว่า “ผมทราบว่า บีบีซีไม่พอใจเท่าไหร่นัก ที่ถูกตีตราว่าสื่อของรัฐบาล”

ก่อนหน้านี้ บีบีซีได้ติดต่อทวิตเตอร์ ถึงการติดสถานะใน @BBC เพื่อให้แก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด

มัสก์ ตอบต่อว่า ทวิตเตอร์ได้ปรับสถานะของบีบีซี เป็น “ได้รับเงินทุนสนับสนุนสาธารณะ” แล้ว “เราพยายามให้เที่ยงตรงที่สุด”

“ผมเคารพบีบีซีมากนะ” มัสก์ เสริม พร้อมกล่าวว่า การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ “เป็นโอกาสที่จะได้ถามคำถาม” และ “ฟังผลตอบรับเพื่อให้เราได้ทำอะไรที่แตกต่างกว่าเดิม”

เมื่อถามด้านการเงินของทวิตเตอร์ มัสก์ระบุว่า ทางบริษัทตอนนี้ “อยู่ในสภาวะคุ้มทุน” หลังลูกค้าที่ลงโฆษณาส่วนใหญ่กลับมาแล้ว

เขายังยอมรับว่า การปรับลดพนักงานจากตอนที่ซื้อทวิตเตอร์นั้น มีพนักงานราว 8,000 คน เหลือ 1,500 คนนั้นไม่ใช่เรื่อง่าย

เขายอมรับอีกว่า ไม่ได้ไล่ทุกคนออกด้วยตนเอง “มันเป็นไปไม่ได้ที่จะคุยกับคนจำนวนมากด้วยตัวเอง”

การลาออกและถูกเลิกจ้างของวิศวกรคอมพิวเตอร์จำนวนมาก นับแต่ มัสก์ ซื้อทวิตเตอร์ ก่อให้เกิดความวิตกกังวลถึงเสถียรภาพของทวิตเตอร์

มัสก์เอง ยอมรับว่ามีการล้มลุกคลุกคลานบ้าง รวมถึงปัญหาการล่มของระบบ แต่เขายืนยันว่า ระบบล่มไม่นาน และตอนนี้ ทวิตเตอร์ทำงานเป็นอย่างดี

มีการประเมินว่า มัสก์ มีทรัพย์สินส่วนบุคคลเกือบ 190,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เขาถือเป็นบุคคลผู้ร่ำรวยที่สุดอันดับ 2 ของโลก ตามการจัดอันดับของฟอร์บส์

หมายเหตุ : ข่าว บีบีซีไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว