กรมทรัพยากรทางทะเลฯ พบโรคแถบสีเหลืองระบาดปะการัง “สัตหีบ-แสมสาร”

โรคปะการังแถบสีเหลือง

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้สำรวจแนวปะการัง พบโรคปะการังแถบสีเหลืองบริเวณหมู่เกาะสัตหีบ-แสมสาร จังหวัดชลบุรี

วันที่ 28 ตุลาคม 2565 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้สำรวจแนวปะการังและพบโรคปะการังแถบสีเหลืองครั้งแรกในปี 2564 บริเวณหมู่เกาะสัตหีบ เจ้าหน้าที่จึงทำการสำรวจการแพร่กระจายทั่วอ่าวไทย พร้อมได้ทำการศึกษาอัตราการลุกลามและผลกระทบต่อปะการังมาอย่างต่อเนื่อง

จากการสำรวจระบบนิเวศแนวปะการัง ในปี 2564-2565 จำนวนทั้งสิ้น 90 สถานี ครอบคลุม 5 จังหวัด ได้แก่ ตราด จันทบุรี ระยอง ชลบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ในบริเวณอ่าวไทยตอนบนและตอนกลาง พบว่าโรคแถบสีเหลืองนั้นกระจายตัวอยู่ เฉพาะบริเวณเกาะสัตหีบ-แสมสาร จังหวัดชลบุรี จำนวน 11 สถานี นับเป็นรายงานการพบโรคนี้ครั้งแรกในประเทศไทย

ปะการังส่วนใหญ่ที่สำรวจพบว่าเป็นโรค ได้แก่ ปะการังโขด (Porites spp.) และปะการังเขากวาง (Acropora spp.) โดยปริมาณการพบคิดเป็นร้อยละ 1-10 ของปะการังทั้งสองชนิด ทั้งนี้ สามารถพบโรคได้ในปะการังชนิดอื่น ๆ ด้วย แต่พบในปริมาณที่น้อย ได้แก่ ปะการังลายดอกไม้ (Pavona spp.) ปะการังดอกไม้ (Goniopora sp.) ปะการังดอกกะหล่ำ (Pocillopora sp) ปะการังวงแหวน (Favia spp.) ปะการังช่องเล็ก (Montipora spp.) และปะการังช่องเหลี่ยม (Favites sp.)

ลักษณะอาการของโรคพบว่าเนื้อเยื่อของปะการังเปลี่ยนเป็นสีเหลืองชัดเจน หลังจากนั้นเนื้อเยื่อจะตาย และเริ่มมีสาหร่ายมาปกคลุมส่วนที่ตาย การลุกลามประมาณ 1 เซนติเมตร/เดือน ในปะการังโขด Porites และประมาณ 1-6 เซนติเมตร/สัปดาห์ ในปะการังเขากวาง Acropora และหากส่วนไหนของปะการังเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้วนั้น ปะการังส่วนนั้นจะตาย

ส่วนสาเหตุการเกิดโรค ณ ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคดังกล่าวได้ แต่จากรายงานในต่างประเทศพบว่า เกิดจากแบคทีเรีย Vibrio alginolyticus

สถานการณ์ปัจจุบัน เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2565 เจ้าหน้าที่กรม ทช. ร่วมกับกองทัพเรือภาค 1 มูลนิธิกิจกรรม วิทยาศาสตร์ทางทะเลและการอนุรักษ์ บมจ.เอจีซี วีนิไทย คณะเทคโนโลยีทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตจันทบุรี และอาสาสมัครนักดำน้ำ ร่วมปฏิบัติการแยกปะการัง ส่วนที่เป็นโรคแถบสีเหลือง ออกมาจากปะการังที่ไม่เป็นโรค เพื่อป้องกันการติดต่อลุกลามและหยุดยั้งการตายของปะการัง บริเวณเกาะขาม จังหวัดชลบุรี

อย่างไรก็ตาม จากการปฏิบัติการดังกล่าวสามารถนำปะการังที่เป็นโรคออกมาได้แค่บางส่วน แต่ยังคงเหลืออีกจำนวนมากทั้งบริเวณเกาะขามและในหลายพื้นที่บริเวณสัตหีบ-แสมสาร สำหรับการดำเนินงานของกรม ทช. ได้ทำการประสานกับหลายภาคส่วน ได้แก่ คณะเทคโนโลยีทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตจันทบุรี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อร่วมกันศึกษาระบาดวิทยา ของโรคที่พบในปะการัง

ในขณะเดียวกัน ทช.กำลังเร่งดำเนินการแยกปะการังที่เกิดโรคออกจากบริเวณดังกล่าว โดยอาศัยความร่วมมือจากนักดำน้ำอาสาสมัครและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป