ป.ป.ช.กล่าวหานายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ กับพวก รวม 11 ราย ร่วมกันพิจารณาและอนุมัติเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้กับวัดในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อปีงบประมาณ 2554-2556 โดยมิชอบ
ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้รับเรื่องร้องเรียนกล่าวหานายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ กับพวก ร่วมกันพิจารณาและอนุมัติเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้กับวัดในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อปีงบประมาณ 2554-2556 โดยมิชอบ ซึ่งต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงในเรื่องกล่าวหาดังกล่าวนั้น จากการไต่สวนพบว่า
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ กับพวก ได้อนุมัติเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้กับวัดในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ระหว่างปีงบประมาณ 2554-2556 รวมจำนวน 68 โครงการเป็นเงิน 836,129,125 บาท ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้กับวัดในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการช่วงเวลาดังกล่าว จำนวน 20 โครงการ วงเงินงบประมาณ 338,753,750 บาท
ปรากฏข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า นายปกรณ์ เนตรประภา ซึ่งมีความสัมพันธ์สนิทสนมกับผู้บริหารขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ จะแสดงตัวเป็นตัวแทนหรือคนของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการไปประสานงานติดต่อกับวัดที่ขอรับเงินอุดหนุนเพื่อก่อสร้างเมรุหรือศาลาการเปรียญ มีการจัดทำคำขอ แบบแปลนและประมาณการราคานำไปให้เจ้าอาวาสวัดต่าง ๆ ลงนาม และได้รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดนำไปยื่นให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ
เมื่อองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการได้รับคำขอแล้ว นายอำนวย รัศมิทัต ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการในช่วงปีงบประมาณ 2554 และนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการในช่วงปีงบประมาณ 2555-2556 ได้ร่วมกับนายมนัส บุญอารีย์ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการในช่วงปีงบประมาณ 2554-2555
และนายสายัณห์ รักษนาเวศ ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการในช่วงปีงบประมาณ 2556 นายวิชัย จันทร์จำรูญ ผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม นายชัยยศ ตั้งจิตดำรง ผู้อำนวยการกองช่าง และนายอนุวัช ควรคิด รีบเร่งตั้งงบประมาณรายจ่ายหมวดเงินอุดหนุน เสนอและเห็นชอบโครงการเข้าแผนพัฒนาขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ
โดยที่ไม่ทำการตรวจสอบรายละเอียดโครงการ รายละเอียดแบบแปลนและประมาณราคาก่อสร้างซ่อมแซมศาสนสถานว่ามีความถูกต้อง เหมาะสมกับงบประมาณที่ขอมาหรือไม่ มีการจัดทำและประกาศใช้แผนพัฒนาขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ประกาศใช้ข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี
จนกระทั่งมีการอนุมัติเบิกจ่ายเงินให้แก่วัดตามวงเงินที่ขอมา โดยในขั้นตอนการรับเงินอุดหนุน เมื่อองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ อนุมัติเงินแล้ว นายปกรณ์ เนตรประภา จะแจ้งให้ทางวัดทราบล่วงหน้า เพื่อนัดหมายกับเจ้าอาวาสวัดให้ไปรับเช็คเงินอุดหนุน เมื่อทางวัดไปรับเช็คมาแล้ว ในวันเดียวกัน
นายปกรณ์ เนตรประภา จะร่วมกับเจ้าอาวาสหรือผู้แทนวัด นำเช็คไปขึ้นเงินที่ธนาคารพร้อมกับเบิกเงินและมอบให้นายปกรณ์ เนตรประภา เป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของวงเงินที่ได้รับการอุดหนุน จากนั้นบริษัท เอเวอร์กรีน เอ็กซ์พอลเรอร์ฯ ซึ่งมีนายปกรณ์
เนตรประภา เป็นกรรมการผู้จัดการ จะได้เข้ามาเป็นผู้รับจ้างดำเนินงานตามโครงการที่ได้รับเงินอุดหนุนภายหลังเมื่อองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ได้อนุมัติเบิกจ่ายเงินอุดหนุนให้แก่วัด และวัดได้รับเงินแล้ว นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ในฐานะนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ กับพวก กลับไม่ตรวจสอบติดตามการใช้จ่ายเงินอุดหนุน และการดำเนินงานในแต่ละโครงการว่าได้ดำเนินการเป็นไปตามแบบแปลนและประมาณการราคา คุ้มค่าและเหมาะสมกับงบประมาณที่อุดหนุนหรือไม่ การดำเนินโครงการแล้วเสร็จเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการหรือไม่
ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงว่า ทุกโครงการมีปัญหาจากการก่อสร้าง อันเกิดจากผู้รับจ้างไม่ปฏิบัติตามสัญญา มีการจ้างช่วง ทิ้งงาน อีกทั้งการก่อสร้างไม่ตรงตามแบบแปลน รายการปริมาณงานและประมาณการราคา เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อราชการ
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาสำนวนการไต่สวนแล้ว มีมติ ดังนี้
- การกระทำของนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม และนายอำนวย รัศมิทัต มีมูลเป็นการละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 และมีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และมาตรา 157
- การกระทำของนายสายัณห์ รักษนาเวศ นายวิชัย จันทร์จำรูญ นายชัยยศ ตั้งจิตดำรง นายมนัส บุญอารีย์ และนายอนุวัช ควรคิด มีมูลความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
- การกระทำของบริษัท เอเวอร์กรีน เอ็กซ์พอลเรอร์ฯ และนายปกรณ์ เนตรประภา มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151, 157 ประกอบมาตรา 86
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงว่า เรื่องนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช.จัดทำรายละเอียด และเตรียมส่งสำนวนให้กับอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อส่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ในพื้นที่ที่มีอำนาจวินิจฉัยต่อไป
ป.ป.ช.พิจารณาเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง มีการนำเรื่องส่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อรายงานความคืบหน้าอยู่เป็นระยะ ๆ ถ้าหลักฐานไม่พอก็ต้องกลับมาหาข้อมูลเพิ่มใหม่ ทุกอย่างมีไทม์ไลน์ที่สามารถตรวจสอบได้
ยืนยันไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่บังเอิญที่มาเสร็จในช่วงนี้พอดี อีกทั้งเรื่องนี้ต้องเร่งพิจารณา เพื่อให้เอาผิดทั้งทางวินัยและอาญาได้ควบคู่กันไป เนื่องจากยังมีผู้ถูกกล่าวหาที่ยังรับราชการอยู่