พิธา ก้าวไกล ไปงานศพพ่อไม่ทัน เรืองไกร ร้อง กกต.ผิด 4 ประเด็น

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

เรื่องไกร ลีกิจวัฒนะ พลังประชารัฐ ไม่ยกเว้น ยื่นเรื่องร้องเรียน กกต. พิธา พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์รายการทีวี ไปงานศพพ่อไม่ทัน อาจผิด พ.ร.ป. 4 ประเด็น

วันที่ 28 เมษายน 2566 ที่สำนักงาน​คณะกรรมการ​การ​เลือกตั้ง​ (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ พรรคพลังประชารัฐ เดินทางมายื่นหลักฐานต่อ กกต.ขอให้ตรวจสอบกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลที่ให้สัมภาษณ์ผ่ายรายการของนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ถึงการร่วมงานศพคุณพ่อ ในช่วงรัฐประหาร​ 19 กันยายน 2549

นายเรืองไกร​กล่าวว่า วันนี้จำเป็นต้องมายื่นร้องเรียน เพราะกรณีดังกล่าว เข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปี 2561 มาตรา 73 (5) และต้องการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้โดยเร็ว เพราะเกี่ยวข้องกับมิติทางการเมืองที่หาเสียง

ทั้งที่ขณะนี้ก็อยู่ในบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่กลับมีคำพูดให้เกิดประเด็นทางสังคม ซึ่งเมื่อนำบทสัมภาษณ์ในรายการของสรยุทธไปเทียบกับรายการของนางสุริวิภา​ กุลตังวัฒนา​ หรือหนูแหม่ม ​ที่นายพิธา​ ได้ให้สัมภาษ​ณ์เมื่อปี 2552 ซึ่งพิธาก็ได้ออกมาบอกว่าเป็นข้อเท็จจริงทั้งคู่

นายเรืองไกร​ จึงต้องยื่นร้องต่อ กกต. ซึ่งมีทั้งสิ้น 4 ประเด็น

Advertisment
  • ประเด็นแรกเรื่องที่นายพิธา อ้างว่านายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย เป็นเลขาธิการสหประชาชาติ (UN) ซึ่งความจริงแล้วขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี ของนายทักษิณ ชินวัตร
  • ประเด็นที่สอง นายพิธาบอกว่าคุณพ่อเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. 2549 ขณะที่นายพิธา ได้โชว์ภาพกระดานงานศพ กำหนดจัดงาน ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. 2549 โดยมีเจ้าภาพเป็นภรรยาและบุตร
  • ประเด็นที่สาม นายพิธาบอกว่า ตนทำงานเป็นข้าราชการการเมือง ช่วยงานนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ในสมัยรัฐบาลของนายทักษิณ แต่นายพิธาชี้แจงว่า ขณะนั้นตนเรียนหนังสือที่บอสตัน ทำให้ข้อมูลไม่ตรงกัน
  • ประเด็นที่สี่ นายพิธาบอกว่า ตนเองถูกอายัดเงินในบัญชี 2-3 เดือน และไม่สามารถนำเงินมาจัดงานศพคุณพ่อได้ แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น เพราะการควบคุมบัญชีต้องผ่านคำสั่งของ คมช. โดยขณะนั้นตนเองทำงานอยู่ที่ สตง. ไม่เคยเห็นรายชื่อของนายพิธาเข้าข่ายโครงการที่จะต้องตรวจสอบ

พร้อมกันนี้ นายเรืองไกรยังได้ยกคำ วินิจฉัยของ กกต. เรื่องการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลท่าแลง เขตเลือกตั้งที่ 1 และเขตเลือกตั้งที่ 2 อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี ว่ามีการหาเสียงอันเป็นเท็จ ต้องถูกดำเนินคดี

นายเรีองไกรระบุว่า “หากตรวจสอบคนอื่นได้ ตนเองก็ต้องตรวจสอบได้เช่นกัน ในฐานะเป็นบุคคลสาธารณะ กกต.ต้องรีบดำเนินการพรรคที่อ้างว่า เป็นฝ่ายประชาธิปไตย ต้องตรวจสอบกันเอง เรื่องแบบนี้ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ขอให้ตรงไปตรงมา ตนเองอยู่การเมืองมา เคยตรวจสอบแล้วทุกฝ่าย”

เมื่อถามว่า กังวลว่าจะถูกฟ้องอีกหรือไม่ นายเรืองไกรกล่าวว่า ไม่กลัว เพราะอย่างไรก็แล้วแต่ นายพิธาเป็นนักการเมืองมาแล้ว 4 ปี กรณีที่นายพิธาเคยฟ้อง คือ มาตรา 326 และ มาตรา 328 แต่มีมาตรา 329 คุ้มครอง ต่อมาทางกรรมการพรรคอนาคตใหม่บางท่านได้มาพูดคุยกับตน และในที่สุดเมื่อขึ้นศาล ทนายของพรรคก็ได้เจรจา และถอนไป ก็ขอบคุณ ตนร้องเรียนปกติ ถ้าวันนี้จะฟ้องอีก ตนก็ยินดี จะได้พิสูจน์ที่นายพิธาเคยระบุว่า ทุกคนควรถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่พอนายพิธาโดนเองกลับมาฟ้อง นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ประชาชนควรได้รับทราบ

นายเรืองไกรกล่าวด้วยว่า “ผมอยู่การเมืองมา ผมตรวจมาแล้วทุกฝ่ายทุกคน คุณพิธาก่อนหน้านี้ก็ตรวจ พอตรวจเสร็จ ก็ฟ้องหมิ่นประมาทผม ท่านจะแก้กฎหมายหมิ่นประมาท แต่ท่านฟ้องหมิ่นประมาทผม ท่านจำได้ใช่ไหม แล้วตอนหลังมาขอคุย แล้วขอยกไป ท่านฟ้องผม ผมก็บอก ฟ้องก็ฟ้อง แล้วตอนหลังมาคุยกันว่าไม่ควร ฟ้องในฐานะพรรคก้าวไกล ฟ้องนายเรืองไกร ลงชื่อนายพิธา อย่างนี้ก็มี ผมมั่นใจในข้อเท็จจริงที่เพียงพอที่จะนำสู่การร้องต่อ กกต.ในวันนี้”

Advertisment

เมื่อถามว่า ไม่ได้เป็นการสกัดกระแสของพรรคก้าวไกลที่กำลังนำอยู่ขณะนี้ใช่หรือไม่ นายเรืองไกรกล่าวว่า ตนไม่ได้ห่วงเรื่องกระแส ถ้านายพิธาไม่ได้พูดกับนายสรยุทธวันนั้นก็ไม่เกิดประเด็น ตนก็ตามดูว่าความเข้าไปยุ่งหรือไม่ แต่พอเห็นที่นายพิธามาแก้ต่างด้วยภายในโทรศัพท์มือถือและอ้างข่าว ตนจึงนำข่าวมายันกลับ ว่าสิ่งที่พูด ข้อเท็จจริง อะไรใช่หรือไม่ใช่ กกต.คงเรียกมาสอบ ซึ่งหลักฐานเอกสารตนไม่ได้แต่งเติมข้อความที่เป็นเท็จแต่อย่างใด ว่ากันไปตามระบบ ใครทำผิดทำพลาดอะไรก็ต้องยอมรับกติกาสังคม

ก่อนหน้านี้เมื่อ เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์ ยื่นคำร้องขอให้ กกต. ดำเนินการไต่สวน สอบสวน และวินิจฉัย กรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในประเด็นเดียวกัน

ส่องธุรกิจตระกูล “ลิ้มเจริญรัตน์” ของแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล