“บอดินไม่อินเผด็จการ” ผิดหวัง ส.ว. ยื้อเวลาญัตติแก้ “รัฐธรรมนูญ”

บอดินไม่อินเผด็จการ

กลุ่มบอดินไม่อินเผด็จการ ชี้ ผิดหวัง ส.ว. ยื้อเวลาญัตติแก้รัฐธรรมนูญ ส่วนการชุมนุมบริเวณตรงข้ามโรงเรียน ย้ำจุดยืน หยุดคุกคามนักเรียน ปฏิรูปการศึกษา และยกเลิกระบบล้าหลัง

วันที่ 25 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนึ่งในแกนนำ กลุ่มบอดินไม่อินเผด็จการ ระบุว่า รู้สึกผิดหวังมาก สำหรับการซื้อเวลาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยคิดว่าผู้ที่ทำงานในสภาจะมองความสำคัญของประชาชนมากกว่านี้

สำหรับการชุมนุมในวันนี้ แกนนำกลุ่มบอดินไม่อินเผด็จการ กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังอย่างมากเช่นกัน ที่โรงเรียนได้อ้างเรื่องความปลอดภัยจากการชุมนุม มาเป็นเหตุผลในการสั่งหยุดการเรียนการสอน 1 วัน โดยชี้แจงว่า เป็นการจัดกิจกรรมนอกเวลาเรียน และเป็นการชุมนุมอย่างสงบและปราศจากอาวุธ

กลุ่มบอดินไม่อินเผด็จการ ยังแสดงจุดยืน 3 หลักของกลุ่มนักเรียนเลว คือ หยุดคุกคามนักเรียน ปฏิรูปการศึกษา และยกเลิกระบบล้าหลัง โดยการชุมนุมได้รวมตัวกันจากศิษย์ปัจจุบันทั้ง 6 โรงเรียนในกรุงเทพฯ และ จ.นนทบุรี โดยมีคณาจารย์และเจ้าหน้าที่ รปภ.ของโรงเรียน คอยสังเกตการณ์

ระหว่างการชุมุนม กลุ่มนักเรียนได้ข้ามถนนนำหนังสือด่วนที่สุด ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เรื่องการเปิดพื้นที่ให้สถานศึกษาในการแสดงความคิดเห็นภายใต้หลักการและกรอบกฎหมายกำหนดไว้ ไปแปะตามป้ายหน้าโรงเรียน ประตูรั้วและตามผนัง โดยมีตำรวจคอยอำนวยความสะดวกจราจร กันรถไม่ให้ผ่านตอนที่นักเรียนข้ามถนน

ส่วนกรณีที่มีภาพปรากฎในโลกออนไลน์ว่ามีรถลากของ สน.วังทองหลาง ไปจอดปิดประตูรั้วหน้าโรงเรียนนั้น พ.ต.อ.พงศ์จักร จักษุรักษ์ ผกก.สน.วังทองหลาง กล่าว โรงพักได้รับการประสานจากโรงเรียนว่าจะมีการจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกด้านจราจรตำรวจจึงต้องจัดรถลากเข้ามาประจำจุดไว้ เนื่องจากซอยรามคำแหง 43/1 มีความคับแคบ

พ.ต.อ.พงศ์จักร ระบุว่า การดูแลรักษาความปลอดภัยได้มีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล 4 ร่วมกับ สน. วังทองหลางคอยดูแลความสงบเรียบร้อยรอบบริเวณ อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้จัดได้มาแจ้งจัดกิจกรรมไว้แล้ว แต่เนื่องจากสถานที่ที่ผู้จัดใช้ทำกิจกรรมนั้นเป็นพื้นที่ของเอกชน จึงต้องไปขอใช้สถานที่กับเจ้าของเท่านั้น


ทั้งนี้ การชุมนุมดังกล่าว ชื่อ กิจกรรมทุบกะลาตาสว่าง โดยจัดขึ้นเวลา 16.00-18.00 น. บริเวณสนามตะกร้อ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) หลังโรงเรียนปิด และห้ามจัดกิจกรรมชุมนุมทางการเมือง