ทิพยประกันภัย คาดปิดจ็อบจ่ายเคลมโควิด 4,000 ล้านบาท หลังจากรับประกันมา 2 ล้านฉบับหมดอายุไปแล้ว 1.6 ล้านฉบับ จ่ายเคลมรวม 3,600 ล้านบาท ขาดทุน 1,000 ล้านบาท คาดสิ้น ก.ค. นี้ ยังเหลือคุ้มครองโคม่าอีก 4 แสนฉบับ เผยโชคดีส่งประกันภัยต่อสัดส่วนสูง 60% ลดเสี่ยง
วันที่ 9 มิถุนายน 2565 นายสมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH บริษัทแม่ของทิพยประกันภัย เปิดเผยว่า ตั้งแต่เริ่มรับประกันภัยโควิดในปี 2563-2565 มีจำนวนกรมธรรม์ทั้งหมดที่รับประกันไว้อยู่กว่า 2 ล้านฉบับ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- หุ้นไทยดิ่งหนัก ตลาดหลักทรัพย์ออก Statement ชี้แจง
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
โดยตอนนี้บริษัททิพยประกันภัยได้จ่ายสินไหมทดแทนไปแล้ว 3,600 ล้านบาท ขณะที่รับเบี้ยประกันเข้ามารวมประมาณ 2,500-2,600 ล้านบาท ถือว่าขาดทุนอยู่ประมาณ 1,000-1,100 ล้านบาท
ทั้งนี้ กรมธรรม์ส่วนใหญ่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล, เงินชดเชยรายได้ และอาการภาวะโคม่า (ไม่มีแบบเจอจ่ายจบ) ซึ่งประมาณ 1.6 ล้านฉบับ ได้สิ้นสุดกรมธรรม์ไปหมดแล้ว จะเหลืออยู่อีก 4 แสนฉบับที่จะสิ้นสุดความคุ้มครองช่วงเดือน ก.ค.2565 ที่จะถึงนี้ หรือไม่ถึง 20% ของกรมธรรม์โควิดทั้งหมดของทิพยฯ
และในจำนวนนี้เกินกว่า 50% ให้ความคุ้มครองเฉพาะอาการภาวะโคม่าเท่านั้น ดังนั้นคาดว่าสิ้นเดือน ก.ค. 2565 บริษัทน่าจะจ่ายเคลมประกันภัยโควิดจบได้ไม่เกิน 4,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ยอดจ่ายเคลมทั้งหมดนี้ บริษัทได้มีการส่งประกันภัยต่อไปในสัดส่วนถึง 60% และถือว่าแทบจะเป็นบริษัทประกันภัยแห่งเดียวที่มีการส่งประกันภัยต่อไปค่อนข้างมาก ซึ่งถือว่าค่อนข้างโชคดี
ทั้งนี้ สาเหตุที่บริษัทประกันภัยต่อเข้ามารับประกันภัยต่อในสัดส่วนที่มากพอสมควรนั้น เป็นเพราะว่าบริษัททิพยประกันภัยไม่มีการรับประกันโควิดแบบเจอจ่ายจบ จะให้ความคุ้มครองเฉพาะค่ารักษาพยาบาล, เงินชดเชยรายได้ และอาการภาวะโคม่า ทำให้บรรดารีอินชัวเรอร์กล้าที่จะเข้ามารับประกันต่อ
นายสมพร กล่าวถึงผลประกอบการต่อจากนี้ว่า ในส่วนของผลการดำเนินงาน ตามธรรมชาติหรือฤดูกาลของธุรกิจประกันภัย ช่วงไตรมาส 1 กำไรทิพยประกันภัยจะดี แต่ไตรมาส 2 จะดรอปลงจากไตรมาส 1 แต่จะค่อย ๆ ดีขึ้นในไตรมาส 3 และไต่จุดพีกได้ในไตรมาส 4
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/2565 ของปีนี้ บริษัทมีกำไรเท่า ๆ กับไตรมาส 1/2564 บวกประมาณ 0.2% มีกำไรแค่ 5 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งโดยปกติแล้วจะโตมากกว่านี้มาก โดยสาเหตุหลักค่อนข้างได้รับความเสียหายจากเคลมโควิดจุดสูงสุด แต่คาดว่ายอดจ่ายเคลมจะทยอยลดลงไปเรื่อย ๆ ในช่วงไตรมาส 2-3
