ไปรษณีย์ฯ เปิดบริการขนส่งยาเวชภัณฑ์ วางแผนสร้างคลังเก็บยาภูมิภาค

ไปรษณีย์

ไปรษณีย์ฯ เปิดตัวบริการขนส่งด้านยาและเวชภัณฑ์ เตรียมแผนสร้างคลังเก็บยาในภูมิภาค หวังให้คนไทย รับบริการด้านสาธารณสุขอย่าง “เท่าเทียม ทั่วถึง ทันเวลา เพื่อสุขภาวะคนไทย”

วันที่ 28 กันยายน 2565 นางวรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด (ปณด) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กลายเป็นวิกฤตทางสุขภาพของคนไทย ถึงแม้ ณ วันนี้สถานการณ์จะดีขึ้น แต่เรื่องการดูแลสุขภาพ ยังเป็นเรื่องที่สำคัญของคนไทย

ดังนั้น ปณด จึงได้พัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการขนส่งยาและเวชภัณฑ์ (Healthcare Solutions) ตามหลักมาตรฐานสากลและองค์การอนามัยโลก (WHO) พร้อมอำนวยความสะดวกให้ประชาชนตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งหวังลดความเหลื่อมล้ำของสังคม สร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข

ด้านนายพีระ อุดมกิจสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด (ปณด) กล่าวเสริมว่า ด้วยความมุ่งมั่นให้บริการด้านสาธารณสุขอย่าง “เท่าเทียม ทั่วถึง ทันเวลา เพื่อสุขภาวะคนไทย” เป็นหัวใจสำคัญในบริการจัดส่งด้านยาและเวชภัณฑ์ (Healthcare Solutions) ของ ปณด ที่ผ่านมาได้พัฒนาประสิทธิภาพ และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกกับประชาชน

ซึ่งจากประสบการณ์และความพร้อมที่ ปณด ได้รับความไว้วางใจจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และองค์การเภสัชกรรม ดำเนินโครงการจัดส่งน้ำยาล้างไต ถือเป็นก้าวแรกที่ปณด ให้บริการ “Healthcare Solutions” หลังได้รับส่งมอบจาก บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบันดำเนินการจัดส่งน้ำยาล้างไตและอุปกรณ์มากถึง 3 ล้านถุงต่อเดือนหรือกว่า 36 ล้านถุงต่อปีให้กับผู้ป่วยสิทธิบัตรทองมากกว่า 3 หมื่นราย

และด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ปณด ได้ร่วมกับ 14 องค์กรชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชนจัดทำจัดทำ “โครงการสร้างโลกสีเขียว” เพื่อถุงน้ำยาล้างไตที่ใช้แล้วนำมารีไซเคิล แปรรูปกลับมาใช้ประโยชน์ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อช่วยการลดอุณหภูมิของโลกหรือภาวะโลกร้อน

สร้างคลังเก็บยาภูมิภาค

นอกจากนี้ยังได้เตรียมรองรับการขยายตัว Healthcare Solutions ด้วยจัดทำแผนสร้างคลังเก็บยาในภูมิภาคจากส่วนกลางที่ปัจจุบันอยู่ที่สำนักงานบางนา โดยนำร่องที่ จ.พิษณุโลก และเตรียมขยายเพิ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ จ.นครราชสีมา และภาคใต้ ที่ จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมให้บริการผ่านศูนย์กระจายสินค้าทุกภูมิภาคทั่วประเทศมากถึง 26 แห่ง เป็นของ ปณด 10 แห่ง และศูนย์ของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด อีก 16 แห่ง

คลังเก็บสินค้าไปรษณีย์

นายพีระกล่าวต่อว่า เพื่อการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง ปณด ได้นำเทคโนโลยีระบบ API และ OMS มาใช้การจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ในโครงการอื่น ๆ อาทิ โครงการขนส่งตัวอย่างเลือดและจัดส่ง DNA จากสถานพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อการวิจัยในโครงการ Genomics Thailand โครงการจัดส่งกระดาษซับหยดเลือดของเด็กทารกแรกหลังคลอด 48 ชั่วโมง จากโรงพยาบาลไปยังศูนย์ปฏิบัติการการตรวจคัดกรองสุขภาพทารกแรกเกิดแห่งชาติ รวมถึงการจัดส่งยาและวัคซีนให้กับผู้ป่วยโควิด-19 ในโครงการที่อยู่ในความร่วมมือกับ สปสช.

และในอนาคตยังเตรียมวางระบบ IT เชื่อมโยงการจัดเก็บและกระจายสินค้าแบบ SPD (Supply, Processing and Distribution) ร่วมกับศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานสุขภาพ (LogHealth) คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อรองรับจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ จากโรงพยาบาลแม่ข่ายไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โดยเป็นการลดปัญหาความซับซ้อนและต้นทุนในการจัดการกระบวนการทางโลจิสติกส์ที่เกี่ยวกับสุขภาพ

ไปรษณีย์