อิชิตัน กรุ๊ป ร่วมกับ SCGP นำกระดาษที่เหลือจากการผลิต มารีไซเคิลเป็นเฟอร์นิเจอร์สำหรับใช้ในห้องเรียน ลดปริมาณขยะเข้าสู่หลุมฝังกลบ
วันที่ 8 ธันวาคม 2566 นายวิโรจน์ สุภาสูรย์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อิชิตัน กรุ๊ป ร่วมกับบริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP นำวัสดุเหลือใช้จากอิชิตัน กรีน แฟคทอรี เช่น ขยะกระดาษกว่า 47 ตันจากการผลิตมารีไซเคิลเปลี่ยนเป็นเฟอร์นิเจอร์สำหรับห้องเรียนที่ทันสมัยและทนทาน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนคิดใหม่เกี่ยวกับความยั่งยืน เปลี่ยนวัสดุเหลือใช้ให้กลายเป็นทรัพยากรใหม่ สร้างมุมมองการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุด สนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อสิ่งแวดล้อม
- เปิด 10 อันดับที่ดินต่างจังหวัด แพงสุดในประเทศไทย
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
- กรมอุตุฯเตือน รับมือฝนตกหนักอีกรอบ 17-19 พ.ค.นี้ หนักสุดถึง 70% ของพื้นที่
“เราต้องการใช้วิธีคิดเรื่องการเปลี่ยนขยะให้เป็นโอกาสภายใต้ โครงการ “ชุมชนฟีลกู้ด อิชิตัน แฮปปี้” เพื่อจุดประกายจินตนาการของนักเรียนเกี่ยวกับความยั่งยืนและเศรษฐกิจหมุนเวียน เปลี่ยนมุมมองใหม่ว่าขยะก็สามารถกลายเป็นทรัพย์สินอันมีค่าได้ เมื่อเรานำนวัตกรรมและดีไซน์มาใช้”
นายธเนศ สุวรรณนาวาสิทธิ์ Director-Recycling Materials Management-SCGP กล่าวว่า SCGP เชื่อว่าความร่วมมือของทุกภาคส่วนคือหัวใจสำคัญที่จะขับเคลื่อนให้เกิดความยั่งยืน การร่วมเป็นพันธมิตรกับอิชิตัน กรุ๊ป สร้างสรรค์นวัตกรรมการออกแบบชุดเฟอร์นิเจอร์จากกระดาษเหลือใช้ในโรงงานอิชิตัน มอบให้โรงเรียนวัดโตนดเตี้ย ต.อุทัย อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน
ทั้งนี้ การรีไซเคิลลังกระดาษ 1 ตัน สามารถช่วยประหยัดพื้นที่ฝังกลบได้ 9 ลูกบาศก์หลา ช่วยลดการตัดต้นไม้ได้ 17 ต้น และประหยัดพลังงานไฟฟ้า 4,000 กิโลวัตต์ แสดงให้เห็นถึงพลังของการรีไซเคิล ซึ่งเป็นการช่วยโลกที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
ดังนั้นการรีไซเคิลลังกระดาษจำนวน 47 ตัน ในโครงการ “ชุมชนฟีลกู้ด อิชิตัน แฮปปี้” จึงสามารถลดพื้นที่ฝังกลบได้ 423 ลูกบาศก์หลา ลดการตัดต้นไม้ได้ 800 ต้น ช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้า 188,000 กิโลวัตต์ และยังสามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 25 kgCO2
อิชิตันและ SCGP ร่วมกันใช้ไอเดียสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน และหวังว่านวัตกรรมนี้จะเป็นการจุดประกายไอเดียแห่งความรับผิดชอบต่อไปยังเด็ก ๆ ได้ร่วมกันรับผิดชอบต่อโลกของเรา
