นายจ้างรีบขออนุญาตทำงานแทนต่างด้าวใน 7 วัน ก่อนถูกปรับสูงสุด 1 แสน

แรงงานต่างด้าว

กระทรวงแรงงานเตือนนายจ้างที่จ้างแรงงานต่างด้าวตามมติ ครม. 28 ก.ย. 2564 ยื่นขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าวภายใน 7 วัน หลังบันทึกข้อมูลคนต่างด้าว

วันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึง มติ ครม.เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2564 ที่เห็นชอบให้กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางานดำเนินการตรวจสถานที่ก่อสร้าง สถานประกอบการ โรงงาน และสถานที่ทำงาน เพื่อให้คำแนะนำการปฏิบัติตนตามมาตรการทางสาธารณสุขแก่นายจ้างและแรงงานต่างด้าว เริ่มวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นระยะเวลา 30 วัน เก็บตกแรงงาน 3 สัญชาติ ที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

หากตรวจพบแรงงานข้ามชาติทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต จะทำแบบบันทึกข้อมูล และให้นายจ้างมาดำเนินการยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าว เพื่อให้แรงงานข้ามชาติเข้าสู่กระบวนการจ้างงานถูกต้องตามกฎหมายประเทศไทย

นายสุชาติกล่าวว่า เรื่องการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติให้เป็นระบบ และมีฐานข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน เป็นเรื่องที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงานให้ความสำคัญมาโดยตลอด

“ตั้งแต่วันที่ 1-26 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสถานประกอบการและบันทึกข้อมูลคนต่างด้าวแล้ว 157,887 ราย นายจ้างมาดำเนินการยื่นคำขออนุญาตทำงาน จำนวน 51,697 ราย คิดเป็นร้อยละ 32.74 ซึ่งตามมติ ครม.วันที่ 28 กันยายน 2564 กำหนดอย่างชัดเจนให้นายจ้างหรือสถานประกอบการที่ได้รับแบบบันทึกข้อมูลคนต่างด้าวจากเจ้าหน้าที่แล้วดำเนินการยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าว ภายใน 7 วัน มิฉะนั้นจะกลายเป็นคนต่างด้าวที่ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งมีโทษทั้งนายจ้าง และลูกจ้างแรงงานข้ามชาติ”

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กรมการจัดหางานจะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสถานประกอบฯ จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ตามระยะเวลา 30 วันที่ได้กำหนดไว้ในมติ ครม.วันที่ 28 กันยายน 2564

ขอย้ำให้นายจ้างดำเนินการยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าว (แบบ บต.50) พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ณ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานประกอบการภายใน 7 วัน หากไม่ดำเนินการภายในกำหนดจะทำให้แรงงานข้ามชาติมีสถานะเป็นแรงงานผิดกฎหมาย

ซึ่งนายจ้างที่รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานจะมีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 – 100,000 บาทต่อคนต่างด้าวหนึ่งคน หากทำผิดซ้ำมีโทษถึงจำคุก และห้ามจ้างคนต่างด้าวทำงานอีก 3 ปี ส่วนคนต่างด้าวที่ลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษปรับตั้งแต่ 5,000 – 50,000 บาท และถูกส่งตัวกลับออกไปนอกราชอาณาจักร และไม่สามารถขอรับใบอนุญาตทำงานได้จนกว่าจะพ้นโทษมาแล้วเป็นระยะเวลา 2 ปี

“สำหรับแรงงานข้ามชาติที่ได้รับใบอนุญาตทำงานจากกรมการจัดหางานแล้ว ให้ตรวจโรคต้องห้าม 6 โรค และขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนหรือซื้อประกันสุขภาพตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด หรือซื้อประกันสุขภาพกับบริษัทประกันภัย ดำเนินการจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล (Biometrics) ณ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมืองที่ 1 ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัด หรือสถานที่อื่นที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกำหนด ภายใน 31 มีนาคม 2565

ยื่นขอตรวจลงตราวีซ่า ณ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมืองที่ 1 ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัด หรือสถานที่อื่นที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกำหนด ภายใน 1 สิงหาคม 2565 และจัดทำหรือปรับปรุงทะเบียนประวัติคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู) ณ สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ศูนย์บริหารการทะเบียนภาคสาขาจังหวัดหรือสถานที่อื่นที่กรมการปกครองกำหนด”

ทั้งนี้ นายจ้าง/สถานประกอบการ หรือคนต่างด้าวต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด ที่เป็นที่ตั้งของสถานประกอบการ หรือที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694 ซึ่งมีการจัดล่ามในภาษากัมพูชา เมียนมา และอังกฤษ ให้บริการข้อมูลข่าวสาร และแนะนำวิธีการดำเนินการ