จ๊อบส์ดีบี ผลักดันผู้ประกอบการ จ้างงานโดยไม่จำกัดสถานภาพทางสังคม

จ๊อบส์ ดีบี ตั้งนโยบายให้ผู้ประกอบการประกาศจ้างงานโดยไม่จำกัดสถานภาพทางสังคม ทั้งอายุ เพศ เชื้อชาติ สัญชาติ และปัจจัยอื่น ๆ ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป สนับสนุนความหลากหลายและความเสมอภาคในตลาดงาน

วันที่ 20 ธันวาคม 2564 ในปัจจุบันหลายบริษัททั้งภาครัฐและเอกชนได้ร่วมรณรงค์และจัดตั้งนโยบายการจ้างงาน และการทำงานอย่างเป็นธรรมให้กับพนักงาน ทั้งนี้เพื่อรักษาสิทธิมนุษยชน และสร้างความเสมอภาคในการได้รับโอกาสการจ้างงานให้เกิดขึ้นภายในองค์กร

จ๊อบส์ดีบี (JobsDB) ในฐานะแพลตฟอร์มการสรรหาบุคลากร จึงจัดตั้งนโยบายให้ผู้ประกอบการลงประกาศรับสมัครงานโดยไม่จำกัดอายุ เพศ เชื้อชาติ สัญชาติ สถานภาพสมรส และปัจจัยอื่น ๆ ที่สื่อถึงการเลือกปฏิบัติในประกาศงานทุกตำแหน่งที่เปิดรับ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป

ทั้งนี้นโยบายดังกล่าว นอกจากจะช่วยองค์กรให้ได้ผู้หางานที่มีประสบการณ์ ความรู้ และความสามารถที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานแล้ว ยังเป็นการเพิ่มโอกาสสู่ความสำเร็จของผู้หางานทุกคนทุกกลุ่มในประเทศไทยที่ล้วนมีความสามารถแตกต่างหลากหลายเฉพาะบุคคล

พรลัดดา เดชรัตน์วิบูลย์
พรลัดดา เดชรัตน์วิบูลย์

พรลัดดา เดชรัตน์วิบูลย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันสังคมไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ขณะเดียวกันคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถก็เริ่มเข้าสู่ตลาดงานมากขึ้น ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป มาพร้อมกับวิถีชีวิตและบทบาทของผู้คนในสังคมที่เปลี่ยนแปลง ผู้คนในปัจจุบันมีความรู้ความเข้าใจ และเปิดรับความหลากหลายและความแตกต่างระหว่างบุคคลมากขึ้น

จ๊อบส์ดีบี (JobsDB) ในฐานะแพลตฟอร์มหางานชั้นนำของเอเชีย เรามุ่งมั่นที่จะเชื่อมต่อผู้ประกอบการและผู้หางาน โดยให้ความสำคัญที่ประสบการณ์ และความรู้ความสามารถของผู้หางานเป็นหลัก เพื่อการหางานที่มีประสิทธิภาพและผลักดันการจ้างงานในระยะยาวโดยคำนึงถึงความเท่าเทียมกัน การขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้มองข้ามข้อจำกัดด้านสถานภาพทางสังคม ถือเป็นก้าวแรกและก้าวสำคัญแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สู่ความเสมอภาคในการจ้างงานอย่างยั่งยืนในอนาคต”

ด้านนาฎฤดี อาจหาญวงศ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า ดีแทคนั้น มุ่งส่งเสริมการปฏิบัติที่เท่าเทียมสำหรับลูกค้าและพนักงานของเราทุกคน เราไม่อดทนต่อการเลือกปฏิบัติทางเพศสภาพ รสนิยมทางเพศ อายุ เชื้อชาติ หรือศาสนา แนวปฏิบัติดังกล่าวนั้น เป็นส่วนหนึ่งของหลักธรรมาภิบาล (Code of Conduct) ของเรามาอย่างยาวนาน และนโยบายสำหรับพนักงานกลุ่ม LGBTQ นี้ ถือเป็นการเน้นย้ำจุดยืนของเราในเรื่องความหลากหลาย อีกทั้งเป็นการปรับเปลี่ยนให้สวัสดิการสำหรับพนักงานของเรานั้นมีความเท่าเทียมยิ่งขึ้น”

ขณะที่ณัฏฐณิชา วรวรรณเศรษฐ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายสนับสนุนการบริหารงานในองค์กร แบรนด์ ซันโทรี่ ประเทศไทย และอินโดไชน่า กล่าวว่า ในฐานะผู้นำธุรกิจด้านอาหารเสริมสุขภาพในเอเชีย แบรนด์ ซันโทรี่ ประเทศไทย มุ่งดำเนินธุรกิจและบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลภายใต้ภายใต้วิสัยทัศน์ “Growing for Good” ซึ่งวิสัยทัศน์นี้ถูกนำมาใช้ทั้งในด้านการดำเนินธุรกิจ และการบริหารบุคลากร โดยมีพันธกิจ คือ การมุ่งสร้างความสมดุลกับผู้คน และธรรมชาติผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ

รวมถึงการสร้างความสมดุลกับพนักงานด้วยการบริหารความหลากหลายในองค์กร เพราะเราเชื่อว่าบุคลากรจะเติบโตในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ประสบการณ์ พลังแห่งความคิด และวัฒนธรรมที่หลากหลายของพนักงานนั้นมีคุณค่า