รอยัล ฟิลิปส์ เปิด 10 เทรนด์เทคโนโลยีด้านเฮลท์แคร์ของปี 2566

รอยัล ฟิลิปส์

รอยัล ฟิลิปส์เปิด 10 เทรนด์เทคโนโลยีด้านเฮลท์แคร์ของปี 2566 แก้ปัญหาขาดแคลนบุคลากร และการลดก๊าซคาร์บอนในอุตสาหกรรมที่คิดเป็น 4% ของการปล่อยก๊าซทั้งหมดทั่วโลก

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 ปัญหาการขาดแคลนบุคลากร และความผันผวนทางเศรษฐกิจล้วนเป็นความท้าทายผู้ให้บริการทางสาธารณสุขทั่วโลก ในการพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน และคิดค้นรูปแบบการดูแลรักษาผู้ป่วยใหม่ ๆ รวมถึงตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น

ทั้งนี้ รอยัล ฟิลิปส์ บริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพได้รวบรวม 10 เทรนด์เทคโนโลยีเฮลท์แคร์ที่คาดว่าจะมาแรงในปี 2566 ดังนี้

1.แก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้วย AI

ปัญหาด้านบุคลากรเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก ๆ ของผู้บริหารในวงการเฮลท์แคร์ และหากไม่จัดการกับปัญหานี้อย่างเร่งด่วน ภาวะหมดไฟและการขาดแคลนบุคลากรจะส่งผลให้ระบบสาธารณสุขอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บุคลากรทางการแพทย์ยังต้องเผชิญกับงานค้างจากการรักษาปกติที่ถูกพักไว้ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดยิ่งทำให้เกิดภาวะตึงเครียดมากกว่าปกติ ซึ่งจากปัญหานี้ จะเห็นว่าผู้ให้บริการด้านสาธารณสุขได้นำระบบการทำงานอัตโนมัติที่มีเทคโนโลยี AI และระบบการทำงานอัตโนมัติ (Automation) เข้ามาใช้ เช่น การเปิดใช้งานระบบส่งต่อข้อมูลตรวจติดตามผู้ป่วยเข้าสู่ระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์โดยตรง ซึ่งช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีและประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ได้

2.การเพิ่มทักษะด้านดิจิทัล

ระบบการทำงานอัตโนมัติสามารถช่วยลดภาระงานที่มากเกินไปในแต่ละแผนกของโรงพยาบาลได้ ดังนั้นบุคลากรทางการแพทย์จำเป็นต้องได้รับความรู้และการฝึกอบรมที่เหมาะสม เพื่อให้ทันกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

3.การทำงานทางไกลร่วมกันผ่านออนไลน์

การทำงานร่วมกันผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหนึ่งในเทรนด์เทคโนโลยีด้านเฮลท์แคร์ที่ถูกนำมาใช้งานมากขึ้น หลังจากมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 และปัจจุบันได้กลายเป็นเทคโนโลยีหลักในวงการเฮลท์แคร์ เนื่องจากขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ที่มีประสบการณ์หรือมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในพื้นที่ห่างไกลมากขึ้น

4.โซลูชั่นด้านสารสนเทศต้องเชื่อมกันได้อย่างไร้รอยต่อ

เนื่องจากระบบสาธารณสุขมีการเชื่อมต่อกันมากขึ้น ระบบและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่แตกต่างกันจำเป็นต้องสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ เพื่อสร้างประสบการณ์ไร้รอยต่อสำหรับผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์

ตามปกติโรงพยาบาลจะจัดซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือการแพทย์จากหลากหลายแบรนด์ ซึ่งมักส่งผลต่อการกระจัดกระจายของโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล ส่งผลต่อประสบการณ์ด้านสาธารณสุขที่ไม่เชื่อมต่อกัน แนวทางในการแก้ปัญหาคือ การนำโซลูชั่นด้านสารสนเทศที่เป็นกลางและสามารถทำงานร่วมกับหลากหลายเครื่องมือหรือระบบได้มาใช้มากขึ้นในปี 2566 และในอนาคต

5.เฮลท์แคร์กำลังย้ายไปอยู่บนคลาวด์

คลาวด์เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่สำคัญในการเชื่อมต่อและบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานไอทีด้านเฮลท์แคร์ เมื่อโครงสร้างพื้นฐานจำเป็นต้องมีความปลอดภัยระดับสูงและสามารถรองรับข้อมูลปริมาณมาก ๆ ได้ เพื่อช่วยให้ผู้ให้บริการด้านสาธารณสุขสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล

ก่อนหน้านี้การประยุกต์ใช้คลาวด์ในวงการเฮลท์แคร์ถือว่าล้าหลังมาก แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การประยุกต์ใช้คลาวด์ในวงการเฮลท์แคร์เติบโตอย่างรวดเร็วและได้รับการยอมรับมากขึ้น และน่าจะได้เห็นการนำคลาวด์ไปใช้ทั่วทุกมุมโลกในปี 2566 นี้ และน่าจะได้เห็นการเพิ่มขึ้นของโซลูชั่น software-as-a-service (SaaS) ที่ส่งผ่านระบบคลาวด์ตามมา

6.การติดตามอาการผู้ป่วยอย่างไร้รอยต่อทั้งในและนอกโรงพยาบาล

การใช้งานโซลูชั่นดิจิทัลบนคลาวด์ในวงการสาธารณสุขจะช่วยสนับสนุนการแชร์ข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น และสร้างรากฐานของระบบสาธารณสุขที่สามารถเชื่อมต่อจากโรงพยาบาลไปสู่บ้านผู้ป่วยและชุมชน

7.เน้นให้บริการทางสาธารณสุขที่ครอบคลุมและเท่าเทียมกันมากขึ้น

การแพร่ระบาดของโควิด-19 เร่งให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลด้านเฮลท์แคร์เร็วขึ้น เพื่อเพิ่มการเข้าถึงด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลและพื้นที่ชนบท

8.เทคโนโลยีเฮลท์แคร์ “การหมุนเวียน”

การเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงอายุและอุบัติการณ์ของโรคเรื้อรัง ทำให้โมเดลด้านสาธารณสุขอย่างยั่งยืนเป็นที่ต้องการอย่างมาก รวมถึงปัญหาด้านพลังงาน ซึ่งอุตสาหกรรมด้านเฮลท์แคร์มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์คิดเป็นร้อยละ 4 ของการปล่อยก๊าซทั้งหมดทั่วโลก ซึ่งมากกว่าอุตสาหกรรมการบินหรือการขนส่งอีก และยังทำให้เกิดขยะจำนวนมากอีกด้วย

วงการเฮลท์แคร์ที่ให้ความสำคัญด้านความยั่งยืน จึงมองหาเทคโนโลยีเฮลท์แคร์ที่สามารถช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมนี้ได้

ในเทคโนโลยีเฮลท์แคร์ “การหมุนเวียน” เกี่ยวข้องกับกระบวนการเกี่ยวกับเครื่องมือทางการแพทย์ แต่การประยุกต์ใช้เครื่องมือด้านสมาร์ทดิจิทัลก็ยังสามารถช่วยให้ระบบการดูแลสุขภาพสามารถลดการใช้ทรัพยากรการผลิต เพื่อส่งมอบประโยชน์สูงสุดโดยใช้ทรัพยากรน้อยที่สุด

9.ลดคาร์บอนในวงการเฮลท์แคร์

ผู้บริหารในวงการเฮลท์แคร์ตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของการปล่อยก๊าซคาร์บอน โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิโลก และพยายามรับผิดชอบต่อปัญหาดังกล่าว โดยบริษัทเครื่องมือแพทย์และบริษัทเทคโนโลยีด้านเฮลท์แคร์มีการตั้งเป้ากำหนดการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนตามหลัก science-based

สำหรับองค์กรด้านเฮลท์แคร์ได้มีการดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ด้วยการลดการใช้พลังงานทางตรงผ่านการนำเสนอเทคโนโลยีด้านด้านเฮลท์แคร์ที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น และทางอ้อม โดยลดการปล่อยมลพิษผ่านการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนและระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน

10.สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมต่อสุขภาพ

จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค Centers for Disease Control and Prevention (CDC) เผยว่า อุณหภูมิและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มสูงขึ้น สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และผลกระทบด้านสภาพอากาศ ส่งผลต่อสุขภาพประชากรในด้านต่าง ๆ

บริษัทเครื่องมือแพทย์และบริษัทเทคโนโลยีด้านเฮลท์แคร์เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพผ่านการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน มลพิษ การบริโภค และการปล่อยก๊าซพิษ

ทั้งนี้ คาดว่าจะเห็นแนวโน้มการประยุกต์ใช้ในวงการเฮลท์แคร์ ด้านการประเมินต้นทุนทางธรรมชาติ เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับการจัดการทรัพยากร