
เป็นปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ในโลกศิลปะ เมื่อทายาทศิลปินแห่งชาติ “ดร.ดอยธิเบศร์ ดัชนี” จัดบิ๊กอีเวนต์สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชนระดับแถวหน้า ภายใต้ชื่องาน “สมบัติชั่วนิรันดร์แห่งเอเชีย” หรือ The Eternal Treasure of Asia
ศูนย์กลางการลงทุน “ของสะสมล้ำค่า”
แกรนด์โอเพนนิ่ง เมื่อค่ำคืน 23 สิงหาคม 2567 ที่สยามพารากอน ดูตระการตากับการแสดงชุดเภรีกำนาทเฟือนฟ้าไหวตะวัน จากคณะ Tiger Drum ที่เปิดตัวคฑาสุริยคราสจักราวตาร กุญแจแห่งจักรวาล สร้างโดยศิลปิน “อัฐพล คำวงษ์” ผู้สร้างโกศบรรจุอัฐิของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี นำแสดงโดย คณะ The Thais ซึ่งวีไอพี ศิลปิน และนักสะสมต่างให้ความสนใจ
ดร.ดอยธิเบศร์ ดัชนี CEO & Founder ART INVESTMENT CENTER กล่าวว่า สุดยอดนวัตกรรมฯ แพลตฟอร์มอัจฉริยะแบบไร้ขีดจำกัด หรือ ART INVESTMENT CENTER (AIC) เกิดขึ้นมาจากการตกผลึกของปัญหาที่ไม่เคยมีทางออกที่สะสมมาเป็นเวลายาวนาน เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบเก่าได้ แต่เราสามารถสร้างระบบนิเวศใหม่ให้ดีขึ้นได้
“ผมต้องการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และยั่งยืนให้กับวงการ โดยเตรียมโครงการนี้มานานหลายปี ขอใช้ประสบการณ์ในชีวิต เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ ในรูปแบบ The Ultimate Luxury Platforms ที่เชื่อมโยงทั้งสองโลกเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งในแบบออฟไลน์-ออนไลน์ ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการซื้อขาย แลกเปลี่ยน และประมูลผลงานศิลปะที่ทั่วโลกยอมรับ”
“ทั้งเป็นแพลตฟอร์มแรกของโลกที่การันตีของแท้ 100% ทุกชิ้นงานที่ปรากฏบนแพลตฟอร์มนี้ เพราะเราร่วมกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ในการจดแจ้งลิขสิทธิ์ของศิลปิน ทำใบรับรองถึงสองชั้น ถือเป็นกุญแจสองดอก ทั้งในโลกจริง และโลกบล็อกเชน จากนั้นจึงมีการ Invitation ชิ้นงานขึ้นมาบนแพลตฟอร์มต่อไป”
“เราไม่ได้หวังเป็นธุรกิจใหญ่ที่ทำกำไร แต่สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาตั้งแต่ระดับโครงสร้าง โดยสร้างระบบนิเวศใหม่ให้เป็นแพลตฟอร์มอัจฉริยะ”
ที่สำคัญ เราได้สร้างต้นแบบนวัตกรรมเพื่อสังคมยั่งยืน ผ่าน 6 บริการหลัก ได้แก่ 1.ซื้อ 2.ขาย 3.แลกเปลี่ยน 4.ให้เช่า 5.บริจาค และ 6.สินทรัพย์ดิจิทัล ต่างจากแพลตฟอร์มอื่นที่เน้นซื้อ-ขายอย่างเดียว
ดร.ดอยธิเบศร์บอกว่า “ทุกพื้นที่คือพื้นที่แห่งศิลป์” นั่นหมายถึง ทุกคนสามารถเช่าผลงานของศิลปิน เพื่อนำไปประดับตกแต่งในโรงแรม โรงพยาบาล เรสซิเดนซ์ คอนโดฯ หมู่บ้าน ร้านอาหาร คาเฟ่ พร้อมทำ e-Catalog ไว้ให้
ถ้ามีผู้สนใจซื้อ ทาง AIC ก็แบ่งผลกำไร 10% ให้กับโครงการ เป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการและศิลปินด้วย เป็นการตอบโจทย์ตรงโจทย์ ช่วยศิลปินให้มีพื้นที่ในการแสดงผลงาน และช่องทางเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร
หลังเสร็จสิ้นนิทรรศการครั้งนี้ เราจะนำผลงานขึ้นแพลตฟอร์มออนไลน์อีก 30 วัน เข้าชมทางสมาร์ทโฟนได้ตลอด 24 ชม.ทุกที่บนโลก
และมีบริการ Museum on Mobile ส่งตรงถึงบ้าน โดยนำผลงานศิลปะให้พิจารณา พร้อมผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา ในส่วนของการขายทุกผลงานที่อยู่ในแพลตฟอร์ม AIC จะใช้มาตรฐานเดียวกันกับของทุกชิ้น
โดยใช้หลักการ “ต้นแบบนวัตกรรมสร้างสรรค์เพื่อสังคมอย่างยั่งยืน” ของทุกชิ้นจะถูกหักรายได้ 35% โดยหัก 5% นำไปบริจาคสาธารณกุศล และ 10% ให้พันธมิตรที่เกี่ยวข้องทั้งองคาพยพ อีก 20% เป็นค่าบริหารจัดการแพลตฟอร์ม ใครที่นำผลงานศิลปะ หรือของสะสมมาปล่อยเช่า หรือแลกเปลี่ยนผ่านแพลตฟอร์มก็สามารถทำได้
ส่วนการลงทุนรูปแบบใหม่ในทรัพย์สินดิจิทัล (Digital Asset) ปัจจุบัน AIC มีโครงการความร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ และโทเคน เอกซ์ เพื่อต่อยอดนวัตกรรมการลงทุนด้านศิลปะให้ก้าวไปอีกขั้นด้วย จะเปิดตัวในเร็ว ๆ นี้
วาระพิเศษพิพิธภัณฑ์บ้านดำ-สยามพิวรรธน์
เพื่อร่วมฉลองวาระครบรอบ 12 ปี พิพิธภัณฑ์บ้านดำ (Baandam Museum) และ “สยามพิวรรธน์” ร่วมสร้างสรรค์งานศิลปวัฒนธรรมมานานนับทศวรรษ อาทิ งานเปิดตัวโครงการเหรียญสุริยะภูมิจักรวาล (ปี 2555-2556), Immersive Art of Thawan Duchanee (ปี 2563) และ Thailand Digital Arts Festival (ปี 2565) และปี 2567 คืองานแสดงนิทรรศการครั้งสำคัญ The Eternal Treasure of Asia
ซึ่งเป็นการเปิดกรุสมบัติอันล้ำค่ากว่าหมื่นล้านจากพิพิธภัณฑ์ และนักสะสมระดับโลก ที่รวมผลงานศิลปะระดับ Masterpiece ศิลปินแห่งชาติ ดร.ถวัลย์ ดัชนี ที่ไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อน
รวมของสะสมระดับ World-Class ที่นำเสนอในมุมมองใหม่ เล่าเรื่องผ่านวัตถุจัดแสดง อาทิ “ตำนานเทพศาสตราวุธ ศาสตร์และศิลป์ จิตวิญญาณแห่งตะวันออก” จัดแสดงศาสตราวุธแห่งจิตวิญญาณ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และประติมากรรมยานยนต์เหนือกาลเวลา รวมสุดยอดรถยนต์คลาสสิก มอเตอร์ไซค์ในตำนาน และซูเปอร์คาร์ลิมิเต็ดที่หาดูยาก
นิทรรศการนี้ได้จัดแสดงให้ชื่นชมได้อย่างใกล้ชิด ตั้งแต่วันนี้-1 กันยายน 2567 ณ Fashion Gallery ชั้น 1 สยามพารากอน ภายในงานประกอบด้วย ศิลปะสร้างโลก ความรักปรากฏรูป ผลงานศิลปะระดับตำนาน เช่น จิตรกรรมขนาดใหญ่ “มารผจญ”
ภาพชุด “หนุมาน” ผลงานชุดสุดท้ายของถวัลย์ ดัชนี, ประติมากรรมรูปปั้นศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี บิดาแห่งวงการศิลปะไทยร่วมสมัย ผลงานปั้นของอาจารย์เขียน ยิ้มศิริ ผู้ที่อาจารย์ศิลป์เรียกว่า “ลูก”
ศรัทธา ประติมา ปาฏิหาริย์ พลังแห่งวัตถุมงคลล้ำค่า มรดกทางภูมิปัญญาของสยามประเทศ “The Spirit of Siam” จัดแสดงพระเครื่องและเครื่องรางหายาก มรดกล้ำค่าทางวัฒนธรรมองค์สำคัญ อาทิ มีดหมอด้ามแกะ เทพศาสตรา หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ นครสวรรค์
พระขรรค์เขาควายเผือกหลวงพ่อโสก วัดปากคลองบางครก เพชรบุรี, ท้าวเวสสุวรรณ วัดสุทัศนเทพวรารามวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ และท้าวเวสสุวรรณวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก
เทพศาสตราวุธ ศาสตร์และศิลป์แห่งจิตวิญญาณ จัดแสงดาบสำคัญในประวัติศาสตร์ และเรื่องราวของวิถีแห่ง Bushido อาทิ ชุดเกราะมังกร ตระกูลซามูไร ยานางิซาวะ ดาบโอดาจิ ดาบเทพเจ้ามังกร ถูกตีขึ้นในศตวรรษที่ 18 เพื่อถวายเทพเจ้าแห่ง โทโยคาวะอินาริ (วัดเมียวกอนจิ) ศาลเทพเจ้าจิ้งจอกอินาริ 1 ใน 3 ที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่น จาก Japanese Sword Museum Thailand
ประติมากรรมยานยนต์เหนือกาลเวลา รวมสุดยอดยานยนต์ ทั้งเรือ รถยนต์ มอเตอร์ไซค์คลาสสิก และซูเปอร์คาร์ น่าสะสม อาทิ เรือสปีดโบต แบรนด์ Century เรือวินเทจ ปี 1954 เครื่อง V8, มอเตอร์ไซค์ Vincent (Black Shadow) ปี 1953 ที่ทำความเร็วได้ถึง 230 กม./ชม. ถือเป็นไฮเอนด์ของมอเตอร์ไซค์คลาสสิก,
Ariel มอเตอร์ไซค์สายพันธุ์อังกฤษที่สวยงามและหายาก, รถยนต์ Rolls-Royce “ลักษณ์ประทับ” เปิดประทุน ปี 1951 รุ่นหายาก, รถยนต์ Porsche 356A ปี 1958, รถซูเปอร์คาร์ Ferrari Light Weight Version “The Racing DNA” รุ่น Ferrari 360 Challenge Stardare, Ferrari 430 Scuderia, Ferrari 458 Speciale, Fiat Abarth 695 Tributo Ferrari เป็นต้น
คฑาสุริยะคราสจักราวตาร ผลงานศิลปะชิ้นสำคัญ แรงบันดาลใจจากกุญแจไขจักรวาลสู่ประติมากรรมโลหะล้ำค่า สร้างขึ้นครบรอบ 12 ปี แหวนพยัคฆินราชตะปบชาติอาชาไนย เปิดตัว Thawan X Parcthai ที่นำแรงบันดาลใจจากผลงานศิลปะกับงาน High Jewelry มาหลอมรวมไว้เป็นหนึ่งเดียว
การชมศิลปะรอบนี้เหมือนเราได้ดำดิ่งสู่โลกแห่งศิลปะ พร้อมกับทะยานสู่โลกอนาคตในเวลาเดียวกัน
10 ปีที่จากไป “ถวัลย์ ดัชนี”
“กันยายน” ถือเป็นเดือนสำคัญของจิตรกรมือเอกของไทย “ถวัลย์ ดัชนี” ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) เพราะเป็นเดือนเกิดและเดือนจากลา (27 กันยายน พ.ศ. 2482 – 3 กันยายน พ.ศ. 2557) ครบรอบ 10 ปีพอดีในปี 2567
อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี เป็นชาวจังหวัดเชียงราย เป็นบุตรของ นายศรี-นางบัวคำ (พรหมสา) ดัชนี และเป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวนพี่น้อง 4 คน ได้สมรสกับ นางคำเอ้ย มีบุตรชายชื่อ “ดอยธิเบศร์ ดัชนี”
ได้รับทุนการศึกษาของจังหวัดเชียงรายเข้าเรียนศิลปะที่โรงเรียนเพาะช่าง และเป็นนักเรียนดีเด่น มีฝีมือวาดรูปเหมือนจริง ทั้งแม่นยำ ฉับไว
เป็นศิษย์ของ ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ปูชนียบุคคล ผู้สร้างคุณูปการในทางศิลปะ ทั้งเป็นผู้ก่อตั้งและครูสอนศิลปะในมหาวิทยาลัยศิลปากร ที่วิพากษ์ผลงานของลูกศิษย์คนนี้ว่า
“ปลาของนายไม่มีกลิ่นคาว นกของนายแหวกว่ายไปในอากาศไม่ได้ ม้าของนายไม่สามารถที่จะควบหรือวิ่งทะยานออกไปได้ นายเป็นเพียงแค่นักลอกรูป มันไม่ใช่งานศิลปะ”
ทำให้ ถวัลย์ ดัชนี ได้ค้นหาและพบตัวตน ในที่สุดก็ได้รับการสนับสนุนจากศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี สอบชิงทุนไปเรียนต่อที่เนเธอร์แลนด์ สาขาจิตรกรรมฝาผนัง อนุสาวรีย์ ผังเมือง และระดับปริญญาเอก สาขาอภิปรัชญาและสุนทรียศาสตร์ ที่ราชวิทยาลัยศิลปะอัมสเตอร์ดัม
ที่ผ่านมาได้สร้างผลงานแสดงเดี่ยวและผลงานกลุ่มมากมาย ซึ่งเป็นที่รู้จักในประเทศและทั่วโลก
พร้อมทุ่มเทสร้างศิลปสถาน บ้านดำ นางแล ที่จังหวัดบ้านเกิด ปัจจุบันคือ “พิพิธภัณฑ์บ้านดำ” เลขที่ 333 หมู่ที่ 13 บ้านแม่ปูคา ตำบลนางแล อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เป็นสถานที่ทางการศึกษาศิลปวัฒนธรรมของชาติ และเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมทุกวัน
นับเป็น “มรดกวัฒนธรรมท้องถิ่น” ที่มาจากความตั้งใจ และเห็นคุณค่าของศิลปะ